...ผมมีเพื่อนที่เป็นรุ่นน้องอยู่คนหนึ่ง ที่คบกันมานานแล้วคบกันมากะประมาณ 8 - 9 ปี น่าจะได้รู้จักกันในที่ทำงานเก่าของผมเองก่อนผมจะลาออกมาทำงานในที่ใหม่แต่ว่าเราก็ยังคบกันตลอดมา ผมเห็นว่าที่ทำงานแห่งใหม่ มีสวัสดิการที่ดีกว่าและที่สำคัญ ได้หยุด เสาร์ - อาทิตย์ ดีกว่าที่เก่า ผมมาทำงานที่ใหม่นี่ก่อนเขาประมาณ 5 ปีพอดีมีคนลาออกจากงานงานว่าง ด้วยความที่เราใจดีเกินไป ก็คิดอยากจะให้เพื่อนรุ่นน้องคนนี้มาทำงานด้วยเพราะรู้จักกันมานาน และที่สำคัญเชื่อใจกันด้วย โดยผมเป็นคนรับรองให้หมดทุกอย่าง อีกอย่างผมเป็นคนเก่าแก่ที่นี้แล้ว โดยก่อนที่จะมาทำผมจะสอนเขาหมดทุกอย่าง และข้อห้ามต่าง ๆ เช่นต้องซื่อสัตย์ ไม่มาทำงานสาย และที่สำคัญห้ามเอาเงินบริษัทไปใช้เด็ดขาด เพราะมีบางครั้งจะต้องเก็บเงินสดจากลูกค้ามาด้วย เมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วผมก็พามาทำงานด้วย..........
กาลเวลาผ่านไป 6 - 7 เดือน หลังจากที่เขาเข้ามาทำงานเพื่อนรุ่นน้องคนนี้ก็เริ่มเปลี่ยนไป บางครั้งก็จะมาทำงานสาย บางครั้งก็จะลางานโดยไม่มีเหตุผล และชอบหลบหน้าผมอยู่เสมอ จนผมต้องเข้ามาเตือนเขาทั้งเรื่องการทำงาน และก็หลายเรื่อง จนเพื่อนรุ่นน้องคนนี้ไม่พอใจและบ่ค่อยคุยกับผมอีกเลย และเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมาผมถึงได้รู้ทุกอย่าง ผมจึงถึงบางอ้อ เพื่อนรุ่นน้องตัวแสบของผมเขาเอาเงินบริษัทไปใช้ 30,000 กว่าบาท คือ เขาเก็บเงินจากลูกค้ามาแล้วไม่ยอมเอาไปเคลียร์ กับบัญชี แล้วเขาก็ออกไปเลยไม่มาทำงานตั้งแต่ปีใหม่ ผมติดต่อก็ไม่ได้ สุดท้ายปัญหาทุกอย่างก็พุ่งเป้ามาที่ผม เพราะผมเป็นคนพาเขาเข้ามา เจ้านายก็เลยเรียกผมเข้าไปคุยว่าถ้าเข้าแจ้งความจับจะเป็นไรไหม ? สำหรับผมตอนนี้ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ยังดีที่เจ้านายเขาเข้าใจเขาบอกว่าคนใหนทำคนนั้นต้องรับผิดชอบ ส่วนตัวผมก็โดยตำหนิเหมือนกัน แต่ยังดีที่เขาไม่ให้ผมเป็นคนชดใช้หนี้แทน ในส่วนที่ผมไม่ได้ก่อก็บุญแล้ว เมื่อนั่งทบทวนดูแล้วทุกอย่างมันเป็นความผิดพลาดของผมเองทั้งหมด ถ้าตัวผมไม่พาเขาเข้ามาทำงานตั้งแต่แรกเรื่องทุกอย่างก็คงไม่เกิดขึ้น ไม่แน่ มิตรภาพที่ดี ๆ ของเราอาจจะคงอยู่ต่อไปก็ได้
เสียดายเวลาที่เราคบกันมานาน..
เสียดายมิตรภาพดี ๆ ที่เราสร้างมา ตั้ง 8 - 9 ปี
เสียดายที่เราไว้เนื้อเชื่อใจเพื่อนมากเกินไป..
แต่ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ ผมคงให้เขาทำงานอยู่ในที่ ๆ ของเขาดีกว่า...
**********************************************************
Bookmarks