เตือนภัย มหันตภัยภาวะโลกร้อน 1 (น้ำท่วมออสเตรเลีย)
ปรากฏการณ์โลกร้อน (Global warming) หมายถึงการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของอากาศใกล้พื้นผิวโลกและน้ำในมหาสมุทรตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 20 และมีการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา นับถึง พ.ศ. 2548 อากาศใกล้ผิวดินทั่วโลกโดยเฉลี่ยมีค่าสูงขึ้น 0.74 ± 0.18 องศาเซลเซียส
ซึ่งคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC) ของสหประชาชาติได้สรุปไว้ว่า
“จากการสังเกตการณ์การเพิ่มอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ประมาณตั้งแต่ พ.ศ. 2490) ค่อนข้างแน่ชัดว่าเกิดจากการเพิ่มความเข้มของแก๊สเรือนกระจกที่เกิดขึ้นโดยกิจกรรมของมนุษย์ที่เป็นผลในรูปของปรากฏการณ์เรือนกระจก”
การที่อุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้นทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิด
เหตุการณ์ต่างๆ ที่จะอุบัติบนโลกใบนี้ เช่น
- คาดว่าทำให้เกิดภาวะลมฟ้าอากาศสุดโต่ง (extreme weather) ที่รุนแรงมากขึ้น
- ปริมาณและรูปแบบการเกิดหยาดน้ำฟ้าจะเปลี่ยนแปลงไป
- การเปลี่ยนแปลงของผลิตผลทางเกษตร
- การเคลื่อนถอยของธารน้ำแข็ง
- การสูญพันธุ์พืช-สัตว์ต่างๆ
- การกลายพันธุ์และแพร่ขยายโรคต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
- ปริมาณของความร้อนที่คาดว่าจะเพิ่มในอนาคต ผลของความร้อนที่เพิ่มขึ้นและทำให้ แต่ละภูมิภาคบนโลกว่าจะแตกต่างกัน
และขอเตือนว่ามหัตภัยที่เกิดจากภาวะโลกร้อนกำลังคืบคลานเข้ามาแล้ว
เตือนมหัตภัย ขอเริ่มที่
น้ำท่วมออสเตรเลีย 2554
บริสเบนท่วมหนัก คนนับหมื่นอพยพจ้าละหวั่น ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2553ที่ผ่านมา ในรัฐควีนส์แลนด์ เหตุการณ์น้ำท่วมนี้ได้กำลังเลวร้ายลงอีก
หลังจากเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยในเมืองบริสเบน เมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของรัฐควีนส์แลนด์ และยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของออสเตรเลีย ต้องประสบกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน
โดยระดับน้ำที่สูง 6-10 ฟุต ได้พัดเอารถยนต์ และสิ่งของกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ผู้คนจำนวนมากต้องหนีขึ้นที่สูง เพื่อเอาชีวิตรอด และหลายร้อยคนได้รับการช่วยเหลือโดยเฮลิคอปเตอร์
แม่น้ำบริสเบนได้ไหลเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมถนนหลายสายในย่านชานเมืองด้วยเช่นกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัย ส่งผลให้บ้านเรือนกว่า 1 แสนหลังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้
มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเพิ่มขึ้นจาก 6,500 หลัง เป็น 19,700 หลัง จากฝนตกอย่างรุนแรง ทำให้ น้ำป่าทะลัก มีผู้เสียชีวิต และมีผู้สูญหายจำนวนมาก ส่วนผู้คนที่รอดชีวิตนั้นต้องอาศัยอยู่บนภูเขาชั่วคราว
เมืองทูวูมบ้า และพื้นที่ใกล้เคียง รัฐควีนสแลนด์ ของออสเตรเลีย ได้มีน้ำป่าไหลหลากฉับพลันในโดยไม่มีคำเตือน
ทำให้ทั้งเมืองจมอยู่ใต้บาดาล ประชากรมากกว่า 9 หมื่นคน ต้องอพยพไปอยู่บนภูเขาชั่วคราว ซึ่งน้ำป่าดังกล่าวมีความสูงถึง 8 เมตรเลยทีเดียว โดยน้ำป่าดังกล่าวไหลผ่านเมืองไปอย่างรวดเร็วและได้พัดพาบ้านเรือน รถยนต์ไปเป็นจำนวนมาก มีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ขอบคุณ
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
hilight.kapook.com
…………………………………………………………………………
Bookmarks