แมงดา และแมลงดา

[khonsurin]

คำด่าว่าผู้ชายแมงดาหมายถึงแมงดาชนิดไหนน้อ....

คงเคยได้ยินคำด่าผู้ชายว่าเป็น แมงดา ทำให้สงสัยมากเลยค่ะว่ามันหมายถึงแมงดาชนิดไหนน้อ…



หมายถึงแมงดานา หรือ แมงดาทะเล น้อ...



เหตุผลประกอบการพิจารณา คือ

แมงดานา เป็นแมลง มีขา 6 ขา ส่วนแมงดาทะ ไม่ได้เป็นแมลงจ้า เพราะมีขา 8 ขา

ดังนั้น แมงดานาถ้าเรียกให้ถูกหลักภาษาไทย ต้องเรียกว่า แมลงดานา พวกนี้หากินเหมือนแมลงทั่วไป

เลยพามารู้จัก
มารู้จักกับตัวตนของแมงดาทะเล

แมงดาทะเลเป็นสัตว์ทะเลโบราณที่ยังคงเหลืออยู่ในโลกปัจจุบันเพียง 4 ชนิด

ลักษณะทั่วไป



เป็นสัตว์โบราณที่มีวิวัฒนาการทางด้านรูปร่างและโครงสร้างน้อยมาก แมงดาชนิดที่โบราณที่สุดเรียกว่า แมงดาอรรณณพ มีซากพบในชั้นหิน อายุ 360 ล้านปีมาแล้ว


แมงดาทะเลยุคปัจจุบันก็ยังมีรูปร่างเหมือนกับบรรพบุรุษของมัน สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี เป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในพวกเดียวกับแมงมุม และแมงป่อง มีรูปร่างคล้ายปูขนาดใหญ่ แต่ไม่มีหนวด ลำตัวแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือหัวและอกรวมกัน รูปร่างคล้ายเกือกม้า ด้านบนนูนเป็นหลังเต่า มีตาข้างละ 1 คู่ และตาตรงกลางอีก 1 คู่ ด้านล่างมีปากและขา 6 คู่ ส่วนที่สองคือท้อง ขนาดเล็กกว่าส่วนแรก แบน ๆ และริมสองข้างมีหนามแหลมเรียงอยู่เป็นแถว ข้างล่างมีแผ่นเหงือกเรียงซ้อน ๆ กันใช้ในการหายใจและว่ายน้ำ


สำหรับส่วนที่ราบเป็นหางยาวอาจจะกลมหรือเป็นเหลี่ยม มีปลายเรียวแหลม เพศของแมงดาชนิดนี้แยกได้จากลักษณะของรอยหยักที่อยู่บริเวณขอบหน้ากระดองมี รอยหยักสองแห่ง

ถ้าจับจะพองออกเป็นกระเปาะสองคู่ สังเกตจากลักษณะของหางตัวผู้ซึ่งเป็นสันรูปสามเหลี่ยม มีหนามแหลมเล็กตามแนวสันหาง


ตัวเมียมีหนามบริเวณด้านข้างของส่วนท้อง 6 คู่ สามคู่แรกยาวและสามคู่หลังสั้น ส่วนตัวผู้ยาวใกล้เคียงกันทั้ง 6 คู่


โดยปกติตัวเมียมีขนาดใหญ่และว่ายน้ำแข็งแรงกว่าตัวผู้ หน้าร้อนเป็นฤดูสืบพันธุ์ แมงดาทะเลตัวผู้ใช้ขาคู่สองและสามเกาะหลังตัวเมียเข้าสู่หาดทรายเป็นคู่ ถ้าแยกเอาตัวเมียออก ตัวผู้จะตายเพราะไม่มีแรงว่ายกลับไปยังทะเลได้


ถิ่นอาศัย

หมกตัวอยู่ในพื้นโคลนและทรายตามชายฝั่งน้ำตื้น ๆ ในบริเวณคุ้งอ่าวและปากน้ำ



อาหาร

กินหนอนและไส้เดือน เช่นตัวสงกรานต์



ขนาด

กระดองมีความยาวประมาณ 38-40 ซ.ม.



ประโยชน์

ไข่ปรุงเป็น อาหารประเภทยำหรือแกงคั่ว



(ปัจจุบันวิวัฒนาการของแมงดาทะเล ทำให้มีขา 4 คู่ หรือ 8 ขา จ้า)

........................................................................................

ในส่วนของแมลงดานา


ที่เราเรียกแมงดานา เป็นภาษาพูด แต่ภาษาราชการคือ แมลงดานา

แมลงดานา


แมลงดานา พันธุ์ปีกมีลายสีทอง และคลุมไม่มิดส่วนหาง ขยายพันธุ์ได้เร็วและมีไข่ดก ซึ่งจะพบพันธุ์นี้วางขายอยู่มากในท้องตลาด


ส่วนแมลงดานาพันธุ์ลาย มีลักษณะที่สังเกตได้คือ ขอบปีกมีลายสีทอง เช่นเดียวกันแมลงดานาพันธุ์ปีลายสีทอง แต่จะคลุมมิดส่วนหาง มีการวางไข่แต่ละครั้งไม่แน่นอน


พันธุ์เหลืองหรือพันธุ์ทอง จะมีลักษณะที่สังเกตได้คือ จะมีสีเหลืองทั้งตัว และจำนวนไข่ไม่แน่นอนเช่นเดียวกับพันธุ์ลาย ตลอดจนมีนิสัยชอบกินแมลงดานาพันธุ์อื่นๆเป็นอาหาร


ชีพจักรของแมลงดานา ตั้งแต่ไข่จนถึงตัวแก่มีอายุประมาณ 32-43 วัน โดยมีการลอกคราบ 5 ครั้ง และระยะตัวแก่จนถึงเริ่มไข่ได้ใช้เวลาประมาณ 30-40 วัน รวมใช้เวลาตั้งแต่ฟักออกจากไข่จนถึงระยะการผสมพันธุ์ วางไข่ประมาณ 62-83 วัน

...............................................................................................

จะเห็นได้ว่า พฤติกรรมของ แมลงดานา กับ แมงดาทะเล ไม่เหมือนกัน


ดังนั้นจึงคิดว่า คำด่าที่ว่า ผู้ชายแมงดา ใช้เป็นคำด่าผู้ชายคุมซ่อง แต่สมัยนี้ ผู้ชายบางคนถึงจะไม่คุมซ่องแต่ก็ไถเงินผู้หญิงกินก็เรียกว่าผู้ชายแมงดานั่นแหละ น่าจะหมายถึงแมงดาทะเลนั่นเอง


เพราะเหตุผลที่ว่า แมงดาที่เป็นคำด่านั้น น่าจะเป็นแมงดาทะเล เพราะตัวเมียนอกจากออกไข่แล้ว ยังต้องให้ตัวผู้ขี่หลังตลอดเวลา ตัวผู้ทำหน้าที่ผสมพันธุ์อย่างเดียว นอกนั้นตัวเมียทำหมด ชาวประมงจับแมงดาตัวผู้ได้ โยนทิ้งสถานเดียว เพราะไม่มีไข่ ที่นำมาขายแข่งกับคาร์เวียร์ได้ ไข่มีเฉพาะในตัวเมีย


อ้อๆๆๆ แล้วก็
ยำไข่แมงดา หรือแกงคั่วไข่แมงดากับสับปะรด เคยได้กินแล้วอร่อยเหาะไปเล้ย..............

อ้าวๆๆ....หันมาทำบาปซะแหล่วเรา...อิอิ.....

[รอย บุญเรือง]

ขอบคุณครับ สำหรับเกร็ดความรู้ดีดี

[wundee2513]

... คำว่าแมงดาก็เข้าใจความหมายผู้ชายทำนองนั้น ... แต่ก็มาทราบ
วันนี้แหละว่า พฤติกรรมแมงดาทะเลตัวผู้มีหน้าที่เดียว และยังคอยขี่หลัง
แมงดาตัวเมียอยู่แบบนั้น ... ไม่ทราบว่าพฤติกรรมนี้จะเปลี่ยนไหมแมงดา
ทะเลตัวเมียกลับมาขี่หลังตัวผู้บ้าง แต่อย่าให้ถึงขนาดออกไข่เลยนะครับ ...


... ขอบคุณข้อมูลนี้มากนะครับ ...