เมื่อรู้ว่าโลกไซเบอร์ มีอิทธิพลต่อแนวความคิดของคนในลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิของตนเองแล้ว ก็อยากจะรู้ต่อน่ะจ้าว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คนหลายๆคนในสังคมไซเบอร์มีความคิดเห็นตรงกัน กะเลยมาอ่านพ้อบทความนี้จ้า ก็เลยถึงบางอ้อ อ๋อ ก็อาจจะเป็นไปได้คือกันน้อจ้า ว่าถ้าคนเราจะมีความสุขได้ เรื่องปากท้องก็ต้องมาก่อน ก็น่าเห็นใจประชาชนเพิ่นน้อจ้า เพราะว่าก็เพิ่งรู้คือกันว่า ประเทศที่ส่งออกน้ำมันขายไปทั่วโลก อย่างเช่น อิหร่าน (มีบ่อน้ำมัน มีมหาเศรษฐีของโลกมากมายที่มีสัญชาติอิหร่าน เช่น พวก ชีค ต่างๆ) แต่ว่ารายได้ต่อหัวของประชาชนกลับต่ำกว่าประเทศไทยเฮาอีก ทั้งที่เฮาเป็นประเทศเกษตรกรรม กว่า 60%น้อจ้า มาอ่านเบิ่งจ้า สาเหตุการขับไล่ผู้นำในทั่วโลกในขณะนี้‏

"การชุมนุมของประชาชนใน แอฟริกา และ ตะวันออกกลาง เพื่อขับไล่รัฐบาลเผด็จการที่ผูกขาดอำนาจมายาวนาน และเต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชันจนผู้นำร่ำรวย แต่ประชาชนในประเทศกลับยากจน เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย กำลังขยายวงไปอย่างรวดเร็ว

มีการปราบปรามที่รุนแรงคือ ลิเบีย ของจอมเผด็จการ โมอัมมาร์ กัดดาฟี สำนักข่าวต่างประเทศรายงานตัวเลขล่าสุดว่า มีผู้เสียชีวิตในลิเบียกว่า 200 คน เฉพาะวันอาทิตย์วันเดียวประชาชนถูกสังหารไป 60 คน

นายซีอีฟ อัล-อิสลัม กัดดาฟี ลูกชายกัดดาฟี ได้ออกแถลงทางโทรทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ ประกาศว่า เขาพร้อมที่จะทำสงครามกลางเมืองกับผู้ขับไล่ "เราไม่ใช่ ตูนิเซีย หรือ อียิปต์ โมอัมมาร์ กัดดาฟี คือผู้นำของเรา ท่านผู้นำกำลังนำการต่อสู้อยู่ที่กรุงทริโปลี กองทัพของเราอยู่กับท่าน กองกำลังนับหมื่นกำลังเดินทางมาที่นี่เพื่ออยู่กับท่าน เราจะสู้จนกว่าจะเหลือผู้ชายคนสุดท้าย เหลือผู้หญิงคนสุดท้าย และกระสุนนัดสุดท้าย"

ประเทศไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของใคร ผมขอส่งกำลังใจไปให้ชาวลิเบีย

นับตั้งแต่ ตูนิเซีย และ อียิปต์ ลุกฮือขึ้นขับไล่ผู้นำขี้โกงลงจากเก้าอี้ได้สำเร็จ จนต้องหอบสมบัติลี้ภัยไปอยู่นอกประเทศ ก็เป็นตัวอย่างให้อีกหลายประเทศในแอฟริกาและตะวันออกกลางเอาเป็นแบบอย่าง ลุกฮือขึ้นขับไล่รัฐบาลเผด็จการ เรียกร้องสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย เช่น แอลจีเรีย ลิเบีย โมร็อกโก ในแอฟริกา และ บาห์เรน อิหร่าน จอร์แดน เยเมน ในตะวันออกกลาง เป็นต้น


ประเทศเหล่านี้ ส่วนใหญ่ยากจน ประชาชนมีความรู้น้อย จึงถูกปกครองอย่างกดขี่ และไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้ปกครองก็มุ่งแต่ "การคอรัปชัน" เป็นงานหลัก เหมือนประเทศในแถวบ้านเรานี่แหละ ไม่สนใจที่จะปกครองบ้านเมืองให้เกิดความสงบสุข ให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ได้รับความเป็นธรรม

แต่หน้าด้านอยู่ในอำนาจไปเรื่อยๆ ไม่ยอมเปลี่ยนมือ จนกลายเป็นเผด็จการ แม้บางประเทศจะมีการเลือกตั้ง แต่ก็เป็นประชาธิปไตยจอมปลอม จึงทำให้ประชาชนที่มีความรู้น้อย แต่เดือดร้อนจนทนไม่ไหว ต้องลุกฮือขึ้นเรียกร้องความเป็นธรรม เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างไม่กลัวตาย

มาลองดูกันครับว่า รายได้ต่อหัวของประเทศเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง

ตูนิเซีย ที่ผู้นำจอมโกง เบน อาลี ถูกโค่นล้มไปแล้ว ครองอำนาจยาว

นานถึง 23 ปี แต่รายได้ต่อหัวของคนตูนิเซียปีที่แล้วอยู่ที่ 4,160 เหรียญ จนกว่าคนไทยกว่าเท่าตัว อียิปต์ ที่ ฮอสนี มูบารัค ครองอำนาจยาวนานถึง 30 ปี แต่รายได้ต่อหัวของคนอียิปต์ เมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 2,771 เหรียญ หรือ 83,130 บาทต่อปี จนกว่าคนไทย 3 เท่าครึ่ง แม้แต่ อิหร่าน ประเทศเศรษฐีน้ำมัน แต่ผู้นำเอาเงินไปสร้างอาวุธสงครามและนิวเคลียร์ ทำให้คนอิหร่านยังมีรายได้แค่ 4,484 เหรียญต่อปี จนกว่าคนไทยหนึ่งเท่าตัว

หรือ เยเมน เรียกว่าจนสุดๆ มีรายได้ต่อหัวปีที่แล้ว 1,231 เหรียญ หรือ 36,930 บาท ตกเดือนละ 3,000 บาทเท่านั้นเอง

ประเทศรวยสุดที่ประชาชนลุกฮือขึ้นขับไล่รัฐบาล เพราะไม่พอใจการปกครองบ้านเมืองก็คือ บาห์เรน เศรษฐีน้ำมันในตะวันออกกลาง มหามิตรของสหรัฐฯ แม้จะมีการปราบผู้ประท้วงอย่างรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต ทำให้สหรัฐฯต้องออกโรงเรียกร้องให้บาห์เรนปฏิรูปการเมืองทันที แต่ประชาชนก็ไม่ยอมถอย ก็ต้องดูว่า กษัตริย์บาห์เรน จะยอมถอยหรือไม่ หรือสู้ตายแบบลิเบีย

สงครามเพื่อประชาธิปไตย กำลังเกิดขึ้นแล้วในแอฟริกาและตะวันออกกลาง

แต่ถ้าดูให้ดีๆ การลุกฮือของประชาชนทุกประเทศ ล้วนมาจาก "สาเหตุเดียวกัน" คือ มีรัฐบาลที่ไม่เอาไหน บริหารปกครองบ้านเมืองไม่เป็น ขาดความเป็นธรรม มุ่งแต่การทุจริตคอรัปชัน จนประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เป็น "บทเรียน" ที่ผู้นำ
นำไปคิดให้ดี เผลอๆ "การทุจริตน้ำมันปาล์ม" จนขาดแคลนทั้งประเทศ อาจนำไปสู่การ "ขับไล่รัฐบาล" อีกประเทศก็เป็นไปได้ เพราะมันทุเรศเกินไปจริงๆ.
"

ลม เปลี่ยนทิศ" ข่าวการเมืองไทยรัฐ