กำลังแสดงผล 1 ถึง 5 จากทั้งหมด 5

หัวข้อ: แค่รักนี้ด้วยชีวิต ตอนที่1

  1. #1
    Super Moderator สัญลักษณ์ของ ไก่น้อย
    วันที่สมัคร
    Aug 2006
    ที่อยู่
    นครโคราช
    กระทู้
    4,928
    บล็อก
    8

    แค่รักนี้ด้วยชีวิต ตอนที่1

    ..กลางทุ่งนา แดดเปรี้ยงๆ ราวๆเดือนเมษา ว่างเว้นจากหน้าเก็บเกี่ยว
    ชาวบ้านจะปลูกพืช ผัก นอกฤดูกาล ซึ่งแถวๆบ้านของสาวกาน
    เป็นเขตชลประทานลำปาว น้ำท่า จึ่งบ่ค่อยขาดแคลน
    ชาวบ้านส่วนมากจะทำนาปรัง แต่แถวนาของสาวกาน
    เป็นที่สูงและอยู่ปลายคลอง น้ำคลองจึงไม่ค่อยจะสม่ำเสมอนัก
    พืชที่ชาวบ้านเลือกปลูกในช่วงหน้าแล้ง จึงเป็นพวกถั่วลิสง
    ซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำไม่มากนัก



    สาวกานเป็นสาวน้อยบ้านนา หน้าตาไม่ถึงกับสวยสะดุดตา
    แต่ไม่ขี้เหร่จนไม่มีชายคนไหนมองสะทีเดียว
    เธอเป็นลูกสาวคนโตในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 5 คน
    ตาเพ็ง ยายมะระ ผู้เป็นพ่อแม่หมายมั่นจะให้เธอแต่งงานมีครอบครัว
    เพือจะได้มีลูกเขยมาช่วยงานไร่งานนา เหมือนครอบครัวอื่นๆ

    สาวกานเรียนจบแค่ชั้นป6. ตามระเบียบบังคับของรัฐบาลในสมัยนั้น
    แล้วก็ออกมาทำไร่ ทำนาช่วยพ่อแม่ และดูแลน้องๆ ซึ่งบางคนก็อยู่
    ในวัยเรียน บางคนก็อยู่ในช่วงวัยรุ่น หลังจากที่หันหลังให้ชุดนักเรียน
    สิ่งที่สาวกานคุ้นเคยมากที่สุด คงจะเป็นวัวฝูงเล็ก ประมาณ3-4 ตัว
    ที่ครอบครัวของเธอเลี้ยงไว้เป็นอาชีพเสริม และราคาซื้อ-ขาย ก็ถือว่า
    แพงพอสมควร

    เช้าวันนั้น สาวกานจูงวัวออกจากบ้านแต่เช้าเหมือนที่เคย มุ่งหน้าไล่ต้อนวัวไปที่นา
    ของเธอ ที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 1 กม. เธอจึงต้องห่อข้าวไปกินด้วย
    และชีวิตในแต่ละวันของเธอส่วนมากก็จะหมดไปกับการเอาวัวไปเลี้ยงที่นานั่นเอง

    นาของสาวกานยังปลูกพืชไร่ในหน้าแล้งเหมือนที่อื่นๆ
    แต่ช่วงนี้ถั่วลิสงของเธอเป็นช่วงที่กำลังโต ต้องการแค่การใส่ปุ๋ย และถอนหญ้า
    สมาชิกในครอบครัวเธอจึงไม่ค่อยมีใครมาที่นามากหนัก ยกเว้นนานๆทีตาเพ็ง
    ผู้เป็นพ่อจะออกมาให้อาหารไก่ และแวะดูทีไร่ที่นา ซึ่งเอาแน่ไม่ได้

    สาววัย18 ย่าง 19 ย่างสาวกานดูเธอมีความสุขกับชีวิตที่พอเพียงกับที่ไร่ที่นา
    ที่เป็นสมบัติของครอบครัวเธอทีมีอยุ่ และเธอยังไม่ได้มีใจให้กับชายหนุ่มใด
    ในหมุ่บ้าน

    "กานเอางัวมาล่ามตะเช้าแท้ " เสียงทักทายเป็นกันเองจากทิดแดง
    หนุ่มน้อย นาใกล้กัน ที่พึ่งจะลาสิกขาออกมาไม่ถึง3เดือน
    สาวกานไม่รุ้ตัวหรอกว่า ทิดแดง แอบมองเธอมาตั้งแต่ยังเรียนหนังสือ
    จนสาวกานเป็นสาวเต็มวัย วันนี้เป็นโอกาสดี ที่สองหนุ่มสาวจะได้
    ทักทาย ปราศัยกัน
    "กะมาแต่เช้าทุกมื้อ เดะหละ อ้ายทิดแดงบ่ออกมานาน่อ เลยบ่เห็น"
    สาวกานตอบออกไปอย่างปกติ
    "เห็นอยู่ บ่มีโอกาสสิได่ถามข่าวกันสื่อๆ"
    ทิดแดงอมยิ้ม หลังจากที่ได้มีโอกาสคุยกันแบบ สองต่อสอง กับสาวกาน
    เป็นครั้งแรก

    หลังจากที่ผูกวัวแม่-ลูก ไว้ที่กลางทุ่งนา หญ้าเขียวขจี สาวกานก็ปฎิบัติภาระกิจ
    ที่เธอเคยทำเป็นประจำคือ ไปถอนหญ้าถั่วลิสงที่กำลังงาม
    "มีคนส่อยถอนหญ้า บ่หละกาน ให้อ้ายส่อยได้บ่ " ทิดแดงถามแบบหยั่งเชิง
    "บ่ย้านฮ้อนกะบ่ ว่าดอก อยากได้คือกันหละผู้ส่อย แตหายากขนาด"
    สาวกานพูดทีเล่นที่จริง เธอหาได้มีความรังเกียจทิดแดง แม้แต่น้อย

    ทิดแดงเป็นลูกชายคนโตของครอบครัวของ ตามั่น ยายน้อย
    แต่อยุ่คนละหมุ่บ้านกับสาวกาน
    ครอบครัวของทิดแดง เป็นครอบครัวที่ญาติพี่น้องส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ
    น้องสาว2คนของทิดแดงกำลังเรียนพยาบาลอยู่คนหนึ่ง และอีกคนกำลังเรียนชั้นมัธยม
    ทิดแดงจึงเป็นเสาหลักของครอบครัว ที่พ่อ-แม่ของเขา
    ตั้งใจจะหาลูกสะใภ้ มาอยุ่กับครอบครัวของเขา เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระงานบ้าน
    งานครัว และเป็นคุ่ชีวิตช่วยทำไร่ ทำนา ดูแลพ่อ-แม่ ยามแก่เฒ่าตามวิถีชิวิต
    ของชาวบ้านทั่วๆไป

    "อ้ายทิดบ่ได้ไปทางได่ติมื้อนิ คือได่ออกมานา พ่อใหญ่ไปไสหละอ้าย"
    เสียงสนทนา ของสาวกานถามขึ้น หลังจากที่ทั้งสองต่างก้มหน้า ก้มตา ถอนหญ้า
    ในแปลถั่วลิสง
    "ตั้งแต่สิกมาอ้ายไปส่อย หลวงพ่อเพิ่นขดหนองยุวัด หัวตะสิแล้ว
    จั่งได้ออกมาเบิ่งนาให้อิพ่อหละกาน " ทิดแดงเริ่มสนทนาสร้างความสนิทสนม
    คุ้นเคยกับสาวกานมากขึ้น

    " แดดแฮงแล้ว ไปเอางัวกินน้ำก่อนเด้ออ้าย " สาวกานเริ่มบอกกล่าวเมื่อรู้สึกว่าจะได้ยินเสียงพระที่วัดตีกลองเพล
    " อ้ายไปจูงส่อยเด้อ " ทิดแดง เริ่มขันอาสา

    วันนั้นทั้งวัน สาวกานและทิดแดง
    สร้างความสินทสนมคุ้นเคยให้กันและกันเพิ่มมากขึ้น
    เป็นอย่างมาก หลังจากที่ตกเย็น เธอต้อนฝูงวัวกลับบ้าน
    เธอเริ่มมีความรู้สึก อยากให้ถึงตอนเช้าเร็วๆ
    เพื่อที่เธอจะได้ พาฝูงวัวของเธอออกมาเลี้ยงที่นา
    และเป้าหมายที่สำคัญ เธอเริ่มรู้สึกมาความสุข
    กับไมตรีที่ทิดแดงหยิบยื่นให้เธอ

    สาวน้อยนอนอมยิ้มนึกวาดฝันถึงวันพรุ่งนี้ และเธอก็นึกในใจ
    ว่าทิดแดง จะออกมาดุที่นาของเขา เหมือนเมื่อวานหรือไม่



    แค่รักนี้ด้วยชีวิต ตอนที่1
    กระเบื้องจะฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม เมฆจะหล่นฟ้าปลาจะกินดาว ลาวจะครองเมือง ::)

  2. #2
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ ลุนนี ศรีเกษ
    วันที่สมัคร
    Jun 2009
    ที่อยู่
    ศรีสะเกษ กรุงเทพ จอมเทียนชลบุรี
    กระทู้
    789
    บล็อก
    1
    อะโหล อะโหล มาอีกแล้ววววพี่น้อง นักเขียนบ้านมหา ผุมีนามว่าไก่น้อย ลูกโคราช ฮึเอาหลานย่าโม ดีกว่าบ่อจ้า ตั้งแต่ชื่อเรื่องเพิ่นนี้กะเข้าทางโจร(หนอนนักอ่าน)นักอ่านกินแบบป้าแดง
    แล้วจ้า ว่าเรื่องนี้ต้องมีฉากชีวิตเศร้าเคล้าน้ำตาแน่นอน อิอิ อย่าเปลี่ยนแนวเป็นตลกเดอหล้า ป้าสิหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ(เด๊)

  3. #3
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ จำปา
    วันที่สมัคร
    Nov 2009
    กระทู้
    1,367
    เริ่มต้นกะเป็นวิถีชีวิตของชาวนาที่สดใส่ ถึงสิบ่ได้ไปเรียนต่อระดับสูงๆ แต่ชีวิตเฮากะมีสิ่งดีๆให้เรียนรู้รอบโตเนาะ สาวกาน

    เอื้อยไก่ อย่าให้เศร้าหลายเด้อค่ะ เดี๋ยวข่อยอ่านบ่จบเด้ (คาเช็ดแต่น้ำตาหั่นนา)

  4. #4
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา สัญลักษณ์ของ มั่วหน่าฮ่าน
    วันที่สมัคร
    Jan 2007
    กระทู้
    1,781
    ....เฮ มีแนวมาให้ติดตามอีกแล้ว...ฮิ้ว..
    ไม่เข้าถ้ำมอง เหตุไฉนจะได้มอง...http://img198.google.co.th/img198/6016/iinjiisjiisj.gif

  5. #5
    มีแนวมาให้คึดต่ออีกแล้ว
    อ้ายทิดแดงคือลงทุนแท้เหือจ้า
    แดดฮ้อนปานได๋กะส่อยผู้สาวเมิดมื้อ
    :l- เป็นกำลังใจให้จ้าพี่ไก่น้อย
    เมื่อความจนผลักไส ดิ้นรนเท่าไรยิ่งไกลบ้าน

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •