กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 27

หัวข้อ: ..เป็นเมียน้อย..ถือว่าเลวขนาดไหน..

Threaded View

คำตอบที่แล้วมา คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป คำตอบถัดไป
  1. #1
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
    ขวัญใจบ้านมหา 2012
    สัญลักษณ์ของ สาวมุก
    วันที่สมัคร
    Mar 2010
    ที่อยู่
    มุกดาหาร
    กระทู้
    662

    ..เป็นเมียน้อย..ถือว่าเลวขนาดไหน..


    .....กรณี..กินน้ำใต้ศอก..นี่ มีการถกเถียงกันมานานแล้วในประเด็นใครถูก ใครผิด ใครน่าเห็นใจ หรือ น่ารังเกียจ ใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ซึ่งก็จะไม่ได้ข้อยุติ ตราบเท่าที่ฝ่ายชายยังยุติในกามหลากรสไม่ได้ และฝ่ายหญิงยังห้ามใจจากเงินง่าย และชายเจนสังเวียนไม่ไหว เพราะผลประโยชน์จะสรรหาเหตุผลที่ฟังขึ้นและน่ายอมรับได้หลายข้อเสมอ


    .....ในแง่มุมของกรรมวิบากแล้ว เหตุผลน่าเห็นใจ..ไม่มี .. มีแต่จิตสำนึกและเจตนาในการเป็นเมียน้อย ฉะนั้นคำว่าเมียน้อย ไม่ได้แปลว่า..เลวร้าย..หรือ ..ผิดทันที แต่ต้องดูว่าเงื่อนไขของเมียน้อยคืออะไร

    กรณีที่ 1..ถ้าได้รับการยินยอมพร้อมใจจากเมียหลวงอย่างเต็มใจ ก็ไม่มีใครผิดศีล ไม่มีใครก่อบาป เพราะเป็นการกระทำอย่างเปิดเผย โดยไม่มีใครเป็นทุกข์จากการรับรู้ความจริง เหตุผลโดยมากที่เมียหลวงยอมคือ..เบื่อเซ็กซ์..ตรงกันข้ามหากว่ารู้ทั้งรู้ว่าเมื่อถึงเวลานั้นหากเมียหลวงทราบเขาจะต้องเจ็บปวดสาหัสอย่างนั้นก็เข้าข่าย..เป็นชู้ ผิดศีลธรรม เป็นการก่อบาปเต็มประตู

    กรณีที่ 2..หลวมตัวตกเป็นน้อยด้วยความไม่รู้มาก่อนหรือรู้แต่ก็ยังขืนทำต่อไป หากว่าฝ่ายหญิงถูกฝ่ายชายหลอกต้มอย่างสนิทก็ถือว่า..ไม่บาป เพราะกรณีนี้บาปจะเกิดก็ต่อเมื่อรู้ทั้งรู้แล้วยังขืนทำต่อไปอีกเท่านั้น อย่างนี้ถือว่า..บาป.. อาจจะเป็นเพราะฝ่ายชายดีเกินห้ามใจหรือเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ที่ฝ่ายหญิงยกมาเป็นข้ออ้างให้กับตัวเอง

    .....แต่ที่แน่ๆหลายๆคนมักมองว่าผู้ชายเป็นฝ่ายเลวเสมอ เป็นคนเห็นแก่ตัว..ไม่รู้จักพอ ...มีบ้าง บางกรณีเหมือนกันที่ฝ่ายชายทนเทคนิคยั่วของฝ่ายหญิงไม่ไหว ธรรมชาติให้อาวุธลับผู้หญิงเพื่อล่อใจชายมาหลายชิ้น เปิดของลับ วับๆแวมๆหน่อย ชายส่วนใหญ่ก็ตะลึงงง ลืมศีลธรรมกันแล้ว ซึ่งพออะไรเลยเถิดแล้วเรื่องแดงขึ้นมา ฝ่ายหญิงบีบน้ำตาหน่อย สังคมก็จะรุมประนามฝ่ายชายทันที อย่างนี้ก็ถือว่าน่าเห็นใจฝ่ายชายได้เหมือนกัน เห็นใจที่เขาไม่สามารถควบคุมจิตฝ่ายต่ำของตัวเองได้..นั่นเอง (ไม่ได้ว่าผู้ชายเลวทุกคนหรอกค่ะ ที่ดีก็ยังมีอีกเยอะ)

    กรณีที่ 3..ทำเพื่อเงินหรือทำเพื่อความรัก...ถ้าแพ้เงินก็บาปมาก แต่ถ้าแพ้รักก็บาปน้อยลง แต่ไม่ใช่ไม่บาปเลย ถึงยังไงการเป็นชู้ ก็เป็นอกุศล เป็นสิ่งบาดจิตให้ทุกฝ่ายเกิดแผลวันยังค่ำ และข้ออ้างที่มักได้ยินอยู่บ่อยๆก็คือ ..เรารักกันมาก.. ...โดยพากันซุกซ่อนคำอีกคำไว้นั่นคือ..ถึงแม้จะรู้ว่าคนที่เป็นหลวงรู้เข้า จะเจ็บจนเจียนขาดใจก็ช่าง..ในยุคปัจจุบันก็มีบ้างเหมือนกันที่เมียน้อยร่ำรวยกว่าฝ่ายชายและฝ่ายเมียน้อยเป็นฝ่ายจุนเจือฝ่ายชายเพียงเพราะคำว่า..รัก..

    กรณีที่ 4..ทำเพื่อตัณหาส่วนตัวหรือทำเพื่อพ่อแม่พี่น้องเดือดร้อน..หากยอมเป็นน้อยด้วยความ...กลั้นไม่อยู่...กับความรู้สึกฝ่ายต่ำของตัวเองก็ถือว่าเป็นบาป แต่ถ้าจำใจเป็นเมียน้อยด้วยความจำเป็นทางครอบครัวบีบคั้น เช่นยอมเป็นนางบาป เพื่อให้พ่อแม่ครอบครัวบรรเทาความเดือดร้อนสักครู่หนึ่ง เมื่อได้เงินทองเท่าที่จำเป็นแล้วก็ทำตัวหายสาปสูญไปจากฝ่ายชายชั่วนิรันดร์ หากคิดอย่างนั้นและทำอย่างนั้นได้จริงๆ โทษก็จะเบาลงตามส่วน

    กรณีที่ 5..ทำไปแล้ว พลาดไปแล้ว เกิดสำนึกผิด หรือ ไม่สำนึกเลย... หากสำนึกผิด จิตจะไม่จับบาปไว้เต็มกำ แต่ยิ่งด้านชาไร้สำนึกเท่าไหร่ จิตก็จะเข้าฝ่ายอกุศล มืดมนจนไม่เห็นทางสว่างในทางที่ดี และจิตจะถูกบีบให้คิดก่อการร้ายเพิ่มขี้นเรื่อยๆ ประเภทนี้ภพข้างหน้ามักเกิดเป็นอะไรที่ต่ำกว่ามนุษย์ หรือไม่ได้เกิดเลย เพราะมาตรฐานมโนธรรมไม่ถึงมนุษย์

    กรณีที่ 6..เมื่อรู้ว่าตกเป็นเมียน้อยแล้วตั้งใจจะหยุด(กรณีนี้น่าเห็นใจที่สุด)หรือคิดที่จะเป็นน้อยต่อไปเรื่อยๆ ....ไม่ว่าจะโดนเขาหลอกหรือหลอกตัวเอง ดิฉันเชื่อว่ามีเมียน้อยกว่าครึ่งที่อยากจะเลิกให้ได้ในวันนี้หรือพรุ่งนี้ แต่เลิกไม่ได้เพราะ...ทำใจไม่ได้ ...นั่นเอง และถึงแม้จะประสบความล้มเหลวกับการตัดเยื่อตัดใย ทำใจไม่ได้ แต่อย่างน้อยถ้าตั้งใจจริง ก็ถือว่าดีแล้วล่ะค่ะ จัดเป็นกรรมขาวบนฐานของกรรมดำแล้ว

    .....ส่วนพวกที่คิดตั้งใจจะเป็นเมียน้อยไปจนวันตายนั้น เหตุผลของการตัดสินใจเป็นน้อย จะเป็นตัวกำหนดความหนักความวิบากในปัจจุบันของชีวิตเขาเอง นั่นคือ

    6.1..ความทรมานใจ.. เหมือนกับการกินบอรเพ็ดที่ต้องขมและมีไม่กี่คนที่ชอบใจ

    6.2..ความรู้สึกเป็นรอง...แม้ฝ่ายชายจะไหว้ปะหลกๆก่อนออกจากบ้านก็ตาม แต่ความรู้สึกเป็นรองจะไม่หมดไปจากใจเมียน้อย ตราบเท่าที่สังคมและตัวฝ่ายชาย ยังประกาศกับใครต่อใครว่าเมียหลวงเป็นภรรยาตามกฏหมาย

    6.3..ความไม่มีศักดิ์ศรี...ถึงจะประสบความสำเร็จกับการเป็นเมียน้อยจนถึงจุดสูงสุดแล้วก็ตาม คือมีเงินหลายสิบล้าน มีทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สิ่งเดียวที่เมียน้อยรู้สึกไม่มีก็คือ..ศักดิ์ศรี..เพราะการที่มีครบถ้วนสมบูรณ์แบบทุกอย่างแต่ต้องอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรีนั้น นานไปจะรู้ว่า ..ไม่มีอะไรเลยอย่างมีศักดิ์ศรีเสียยังดีกว่า...เพราะถึงแม้ศักดิ์ศรีจะกินไม่ได้....แต่บางครั้งมันก็ทำให้เรากินข้าวได้อร่อย กว่าคนไร้ศักดิ์ศรี นี่ก็เป็นอีกคำเปรียบเทียบหนึ่งของคนบางคนที่เคารพในศักดิ์ศรีของตัวเองค่ะ


    ป.ล.ผู้ตั้งกระทู้ไม่ได้ตั้งใจนำข้อความนี้มาลงในบ้านมหาเพื่อที่จะว่ากล่าว ติเตียนใคร เพราะตัวคนตั้งกระทู้เองก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรนักหนา

    .....คนเราสามารถก้าวพลาดกันได้ค่ะ แต่ถ้าพลาดไปแล้วก็ขอให้พลาดอย่างมีสติ เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเดินตามความถูกต้องได้ แม้บางครั้งอาจจะขัดกับศีลธรรมไปบ้าง และสำหรับบางคนแล้ว ตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากจะเป็นแบบนี้ แต่ถ้าเป็นไปแล้วเนี่ย... ทำอย่างไรให้เราอยู่กับมันให้ได้อย่างมีสติและมีความสุขโดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน..นั่นต่างหากคือสิ่งที่เราต้องทำ เพราะคนทุกคนมีเหตุผล มีที่มา ที่แตกต่างกันไปเสมอ….


    .....ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆเหตุผล ของผู้หญิงบางคนที่ต้องตกเป็นรองด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามค่ะ...สู้ๆนะคะ ขอให้อยู่กับมันอย่างมีความสุขและมีสติค่ะ.....

    ความร้อนเริ่มต้นด้วยไฟ
    แต่ลงท้ายเราเลือกได้ว่าจะเป็นไฟหรือเป็นน้ำ
    ถ้าเลือกเป็นไฟก็เผาใจตนเองและผู้อื่น
    แต่ถ้าเลือกเป็นน้ำก็นำความเย็นสบายมาสู่ผู้อื่นและตนเอง


    ขอขอบคุณ...ข้อมูลที่มาจากของหนังสือ..เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว (ฉบับอยู่สบาย ไปสบาย)
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สาวมุก; 03-04-2011 at 12:31.

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •