" เหลาลูกหน้าเต็มกำ ได่ลูกหนึ่ง เบ็ดสื่อแล้ว วางไว้กะเล่าโง "
ผมแปลจนอิดแล้ว ยังงงคือเก่ายุครับ อยากไห่ไหย่ศรีสะท้านมาส่อยแปลไห่แนเด้อคับ
" เหลาลูกหน้าเต็มกำ ได่ลูกหนึ่ง เบ็ดสื่อแล้ว วางไว้กะเล่าโง "
ผมแปลจนอิดแล้ว ยังงงคือเก่ายุครับ อยากไห่ไหย่ศรีสะท้านมาส่อยแปลไห่แนเด้อคับ
ขออนุญาต อาจารย์ศรีฯ และเจ้าของกระทู้ครับ ผญาบทที่ว่ามาให้ไขปริศนานั้น ขะน้อยขอลองไขเบิ่งเด้อ ถูกไม่ถูก ขอท่านผู้รู้ พิจารณาตามเห็นควรเถิด ขอรับ....
"เหลาลูกหน้าไม้ เต็มกำได้ลูกหนึ่ง เบ็ดสื่อแล้ว วางไว้ผัดเล่าโง"
ลูกหน้าไม้ในที่นี้ น่าจะหมายถึง จิตใจ การเหลา น่าจะหมายถึงการทำสมาธิภาวนาเพื่อที่จะละกิเลสมุ่งสู่นิพพาน หากว่าจิตใจเป็นสมาธิ ก็เปรียบเสมือนการดัดลูกหน้าไม้ให้ตรง การวาง น่าจะหมายถึงหากเลิกทำสมาธิภาวนา จิตใจก็อาจวอกแวกกลับไปหมุกมุ่นกับกิเลสได้ดังเดิม...สั่นดอกหวา ขะน้อย...อิอิ
อืมๆ มีความคิดเห็น ตามที่ท่าน บ่าวก๋าคามเพิ่นว่านั่นหละครับ น่าสิแปลออกมาแนวนั่นครับ
ขออนุญาต ใซ่ปัญญาจักนอย
เพิ่นตัดมาแค่วรรคเดียวเนาะ ถ้าได้เต็มๆบทน่าสิพอมองออก
แปลตามโตอักษรแยกเป็นสองประโยคเนาะ
.....
เหลาลูกหน้าไม้เต็มกำ ได้ลูกนึง
หน้าไม้เป็นอาวุธชนิดนึงใช้ในการล่าสัตว์ ซึ่งต้องใช้ลูกในการยิง
ลูกหน้าไม้ทำจากไม้ โดยมากใช้ไม้ไผ่นำมาเหลา จึงเป็นที่มาของ" เหลาลูกหน้าไม้เต็มกำ"
ความหมายก้คือ ไม้ไผ่ผ่ามากำนึง พอมาเหลาแล้วได้ลูกหน้าไม้แค่ลูกเดียว
......
เบ็ดสื่อแล้ว วางไว้กะเล่าโง
เบ็ดที่ว่าคือ คันเบ็ดที่ทำจากไม้ตอนทำตอนเหลาเสร็จมันก้อตรงดี แต่พอเอาไปวางไว้มันงอ
รวมๆคือคำพูดเปรียบเทียบเปรียบเปรย ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรที่จะเป็นได้ดั่งใจเราทุกอย่าง
ประมาณนี่หละ พะน๊าพะนะ
เบ็ด ในที่นี้ เป็นคำกริยา ครับ เแปลว่า ดัดให้ตรง
ไม่ใช่คำนาม ที่แปลว่า คันเบ็ด ครับ
เทิง ท่าน Thadjunior และ ท่านบ่าวก๋าคาม ให้ความหมายได้ดีครับ ผญาแต่ละบทกะขึ้นกับคนแปลคือกันละครับ ขะน้อยกะเห็นนำเทิงสองท่านเลยครับ เพราะผญาของผุเฒ่าผุแก่กะสิแฝงแง่คิด แนวสอนไว้ให้ลูกให้หลานครับ
น้องหลินกะขออนุญาต ร่วมสนุกนำแหน่เด้อค่ะ ความฮู้ซ่ำหางอึ่ง อิอิ
น้องหลินคิด เบ็ดในผญาบทนี้ เป็นคำ กริยา เป็นการดัดให้ตรง
คือ อ้ายเซียงว่านี่ล่ะค่ะ
หลินคิดเด้อค่ะ ย้ำว่าคิดเอง ตามความเห็นส่วนโต
เป็นการเปรียบเปรย หญิง หรือ ชาย ที่เพิ่นเลือกคู่ครอง ลูกไม้หรือลูกดอกหน้าไม้
ที่เพิ่นเหลาไว้ยิงสัตว์หรือหยังกะตามซ่าง เหลาหลายอันบ่ถูกใจจักอัน เลือกคักเฮ็ดคัก
จนแน่ใจว่าลูกเดียวที่เพิ่นเหลาดีที่สุดนั่นสุดยอดแล้ว เบ็ดให้ตรง เอาวางลงผัดงด
จ้อย.. สิเหลาใหม่กะบ่ได้เพราะว่าไม้เบิดแล้ว
เปรียบกับหนุ่ม หรือ สาว ที่มีผู้มามัก มาสนใจหลายคน แต่เพิ่นกะเลือกสรรค์
กลั่นกรองอย่างดีที่สุดจนแน่ใจแล้วว่าคนที่เพิ่นเลือกนั่นล่ะ ที่สุด คักแล้วในใจเพิ่น
บาดแต่งกันมาผัดบ่เป็นคือคึดจ้อย.. คันสิแต่งงานใหม่กะบ่ได้อีก เพราะการแต่งงานใน
อดีตแต่พ่อแต่แม่เพิ่นบ่นิยมการหย่าร้าง
เลยต้องก้มหน้ารับไปถึงเขาบ่ดีปานได๋กะต้องทำใจ
.. ป้าด.............. คือซงเป็นตุเป็นตะแท้ล่ะ
ปรมมือให้ น้องเขม ครับ แปลได้ โดนใจ ฮ่าๆๆๆๆ แต่ว่า พะหยา กะขึ้นกับเหตุการณ์ ที่เว่าเปรียบเทียบ ละน้อ ว่าเปรียบเปรย เรื่องยั่ง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย จ่าเหลือง; 21-04-2011 at 15:44.
แต่ผมเห็นด้วยกับ อ้าย Thadjunior ตามความคิดผมหนาคับ ทุกสิ่ง ทุกอย่างไม่จีรังยั่งยืน เป็นคำพูดเปรียบเปรย แต่ กะอย่างว่าละคับ ผะหยา แฝงไว้ด้วยแง่คิด คนเราคิดได้หลายมุม เนาะ
น้องมือพิณน้อย อั่น เหลาลูกหน้า หนิ แม่นลูกหน้าไม้ คือขะเจ้ามาแปลบ่จ้า อิอิ
คันเป็นผญาที่ต้องแปล กะแปลบ่ถืกคือกันล่ะ ที่น้องหลิแปลกะมีความหมายดีเนาะจ้า
¨เหลาลูกหน้าเต็มกำ ได่ลูกหนึ่ง เบ็ดสื่อแล้ว วางไว้กะเล่าโง¨
ลองแปลนำเผิ่นจักควม..
เหลาลูกหน้าเต็มกำ..คงหมายถึงการสั่งสอนลูกหลานที่เกิดมา
ได้ลูกหนึ่ง..จนแน่ใจว่ามีคนหนึ่งที่พอไว้เนื้อเชื่อใจได้
เบ็ดสื่อแล้ว วางไว้กะเล่าโง..แต่พอปลอยวางให้ทำหน้าที่การงานเองแล้วผัดบ่ดีดังที่เคยสอนสั่ง
คิคิ..แปลไปแบบผู้ฮู้น้อยเด้อเจ้าค้าาาาาาาาาาาาาาาาา
Bookmarks