5 ข้อพิจารณาให้ดี ก่อนซื้อรถ คุ้มไม่คุ้มอย่างไร


ทุกวันนี้เราปฏิเสธไม่ได้ว่า รถยนต์กลายเป็นสิ่งใหม่ในชีวิต ที่ทำให้การเดินทางของเราสะดวก สบายยิ่งขึ้น บางคนก็ว่า มันช่วยซื้อเวลา และอาจรวมไปถึงความปลอดภัยยามเดินทางที่ทุกเส้นทางเราสามารถกำหนดเองได้ว่าจะอย่างไร

ที่ผ่านมาในฐานะสื่อมวลชนแขนงหนึ่งในวงการรถยนต์นั้น เรายอมรับว่าการนำเสนอข่าวสารรถยนต์ อาจทำให้หลายคนเกิดกิเลส ที่อยากจะมีรถยนต์ส่วนบุคคล ที่นำไปสู่การจราจร ที่ติดขัด และท้ายสุดทำให้สิ่งแวดล้อมในเขตเมืองกรุงกับยิ่งแย่กว่าเดิม ทว่า หากวันนี้คุณกำลังคิดที่จะอยากมีรถส่วนตัว ขอเพียงลองฉุกคิด 5 ข้อต่อไปนี้ สักนิด ที่นี่คือความจริงของภาระคนมีรถ

1. ราคาน้ำมัน ... เราปฏิเสธไม่ได้ว่ารถทุกคันต่างต้องใช้น้ำมันในการขับเคลื่อน และปัจจุบัน มันเป็นประเด็นสำคัญเสียด้วย เนื่องจากราคาน้ำมันมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น ที่ปัจจุบันมีราคาแกว่งไปมา ราวๆ 30 -40 บาท ต่อลิตร ซึ่ง 1 ลิตร จะเดินทางโดยเฉลี่ยที่ 10 กิโลเมตร และสูงสุดในรถสุดประหยัดอย่างอีโค่คาร์ ทำได้ดีสุดมากถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตร แต่นั่นหมายความว่าคุณต้องไม่รีบร้อน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่น่าสนใจ แม้หลายคนจะเลี่ยงไปติดแก๊สแต่นั่นอาจทำให้คุณหันไปเจอภาระในการบำรุงรักษา

2. ค่าผ่อนชำระ ... พวกเราหลายคนอยากมีรถ แน่นอนทุกคนอยากจะสบาย แต่อย่าลืมว่า ด้วยสถานการณ์ของโลกปัจจุบัน มีคนเพียงกระหยิบมือเดียวที่พวกเขายอมจ่ายค่ารถเป็นเงินสด โดยที่ไม่มีภาระหนีสิ้นติดตัวไปอีกอย่างน้อย 4- 5 ปี

ในความเป็นจริงแล้ว ปัจจุบันเราหลายคนมักหาเงินก้อนมาออกรถที่เรียกว่า "เงินดาวน์" หลังจากนั้นเราก็ใช้วิชาผ่อนชำระไปอีกยาวนาน ซึ่งการผ่อนชำระนั้นเราย่อมประสบกับดอกเบี้ยอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่า สิ่งที่เราอยากให้คิดคงไม่พ้นจำนวนเงินในแต่ละงวดที่มีตั้งแต่ 5000 บาท ไปจนถึงหลายหมื่นบาท ซึ่งหากคุณยังไม่พร้อมก็ควรพิจารณาให้ดีก่อน ตัดสินใจซื้อรถ แม้การอนุมัติไฟแนนซ์ที่ระบุว่า คนจะซื้อรถได้ต้องมีเงิน 3 เท่าของค่างวดจะทำให้วางใจได้ แต่อนาคตก็ไม่ใช่เรื่องแน่นอน

3. ค่าบำรุงรักษา รถยนต์ ก็เหมือนกันสินค้าหลายอย่างที่ต้องการดูแลรักษา คุณต้องทำความสะอาด รักษาสภาพ และอื่นๆ อีกมากที่จำเป็นต้องทำ หลังจากได้รถมาแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนสำคัญไม่แพ้กัน ที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ใครที่กำลังคิดออกรถยนต์รุ่นใหญ่ ต้องคิดถึงเรื่องไว้มากๆ เพราะรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ย่อมหมายถึงเครื่องยนต์ใหญ่ขึ้น ที่ตามมาด้วยการดูแลรักษาส่วนประกอบต่างๆมากขึ้นตามไปด้วย

4.ค่าใช้จ่ายรายปี หลายคนมักจะลืมข้อนี้ไปเสียสนิทว่า รถทุกคันย่อมมีค่าใช้จ่ายรายปี ซึ่งเราต้องจ่ายเป็นประจำเพื่อให้รถคันนั้นๆได้ใช้งานอย่างถูกต้องตามกฏกหมาย ซึ่งนั่นคือภาษาประจำปีที่ต้องต่อเป็นประจำ

ภาษีรายปีนั้นในปัจจุบัน กรมกาารขนส่งทางบกยังคิดตามอัตราจำนวนขนาดเครื่องยนต์ หรือหลายคนเรียกว่า CC นั่นแหละ ทว่าหากคุณไปไหนมาไหนในเมืองการใช้รถเครื่องใหญ่เกินความจำเป็นจะทำให้เสียภาษีมากเกินความเป็นโดยใช่เหตุ

นอกจากภาษีแล้วยังมีประกันภัยทั้งภาคบังคับที่เรียกว่า พรบ. และภาคสมัครใจที่เราจะทำหรือไม่ก็สามารถตัดสินใจ ทว่าตามสัญญาที่ไฟแนนซ์ทำกับเราเพื่อให้มีข้อตกลงในการผ่อนชำระรายเดือนนั้น ก็มีการระบุว่า เราจำเป็นต้องทำประกันภัยรถยนต์คันนั้น ซึ่งยังต้องครอบคลุมถึงกรณี รถหายและไฟไหมด้วยหริอว่าง่ายๆ คือคุณต้องทำประกันขั้นต่ำประเภท 5 ที่มีค่าใช้จ่ายประมาณ 7800 บาท หรือ ถ้าคุณอยากทำชั้น 1 ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณ 13000 บาท

5.สิ่งอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย .. มีคนจำนวนไม่น้อยมักคิดว่าการมีรถจะจอดตรงไหนก็ได้ ทว่านั่นคือสิ่งที่ผิดมหันต์ และนำมาสู่เหตุร้ายที่ไม่คาดฝันตั้งแต่รถหาย ไปจนถึงการทะเลาะกับคนช้างบ้านโดยไม่จำเป็น ที่ทำให้เสียจิตใช่น้อย

อันที่จริงแล้ว ก่อนคุณจะมีรถใหม่เข้ามาในบ้าน ควรคิดถึงเรื่องที่จอดเป็นสิ่งสำคัญ เช่นเดียวกับที่ๆ คุณต้องไปบ่อยๆ อย่างเช่นที่ทำงาน ว่ามีการเสียค่าจอดรถหรือไม่ อย่างไร รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เช่นค่าทางด่วน ที่ต้องลงรายละเอียดแล้วดีตัวเลขออกมาเพื่อให้สิ่งที่จะเกิดขึ้น



รถยนต์อาจจะเป็นความสะดวกใหม่ของสังคมไทยปัจจุบัน และเราปฏิเสธไม่ได้ว่าการขนส่งสาธารณะที่ยังไม่สะดวกนัก อาจทำให้หลายคนอยากมีรถ แต่ไม่ว่ายังไง ข้อหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือว่า รถยนต์ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน


ขอบคุณที่มา
โค้ด PHP:
http://auto.sanook.com/item/2219-5-ข้อพิจาราณาให้ดี-ก่อนซื้อรถ-คุ้มไม่คุ้มอย่างไร.html