สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือสดร. ร่วมกับเครือข่ายดาราศาสตร์ฉะเชิงเทราและสงขลา แถลงชวนคนไทยรอชม 2 ปรา กฏการณ์บนท้องฟ้า "จันทรุปราคาเต็มดวงและจันทรุปราคาบังดาวฤกษ์" ครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการ สดร. เปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 15 มิ.ย. ถึงเช้ามืดของวันที่ 16 มิ.ย.นี้ จะเกิดปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ครั้งสำคัญ คือ ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากเกิดขึ้นครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 50 ดร.ศรัณย์ กล่าวต่อว่า ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงในครั้งนี้ มีความสำคัญคือ เป็นปรา กฏการณ์จันทรุปราคาที่ยาวนานมากครั้งหนึ่ง โดยดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามืดของโลกตั้งแต่เวลา 01.22 น. เข้าสู่ช่วงคราสเต็มดวงตั้งแต่เวลา 02.22 น. จนถึง 04.03 น. รวมเป็นเวลาถึง 100 นาทีเต็ม ๆ หรือ 1 ชั่วโมง 40 นาที 52 วินาที ที่ดวงจันทร์จะอยู่ในเงามืดของโลก แต่ถ้านับปรากฏการณ์ตั้งแต่เริ่มต้นจะพบว่าการเกิดจันทรุปราคาครั้งนี้กินเวลานานถึง 3 ชั่วโมง 39 นาที ซึ่งถือว่านานที่สุดตั้งแต่เคยเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคา โดยเราจะได้เห็นดวงจันทร์สีแดงอิฐอยู่บริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ สูงจากเส้นขอบฟ้าประมาณ 30 องศา สามารถชมได้ด้วยตาเปล่าทั่วทุกภาคของประเทศ หากท้องฟ้าโปร่ง ไม่มีเมฆและไม่มีแสงไฟรบกวน จะมีโอกาสเห็นทางช้างเผือกในคืนวันเพ็ญขณะที่ดวงจันทร์ถูกเงาโลกบดบังทั้งดวงอีกด้วย

ดร.ศรัณย์ กล่าวต่อว่าในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ นอกจากคนไทยจะได้ชมปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงแล้ว ยังมีอีกปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน คือ ขณะที่ดวงจันทร์เคลื่อนที่เข้าไปในเงาของโลกเกือบเต็มดวงนั้น ดวงจันทร์ยังเคลื่อนที่ไปบังดาวฤกษ์ที่ชื่อว่า 51 Ophiuchi (โอฟีอุชชี) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์สีขาวที่อยู่นอกระบบสุริยะ และมีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์มาก แต่อยู่ไกลจากโลกมากถึง 446.35 ปีแสง อีกด้วย ทั้งนี้ เราจะมองเห็นดาวฤกษ์ 51 โอฟีอุชชี เริ่มหายเข้าไปหลังดวงจันทร์สีแดงอิฐในเวลาประมาณ 02.08 น. (เวลา ณ จังหวัดเชียงใหม่) และจะโผล่พ้นดวงจันทร์ออกมาในเวลาประมาณ 02.12 น.

สำหรับผู้ที่พลาดชมจันทรุปราคาในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ สามารถรอชมได้อีกครั้งในวันที่ 10 ธ.ค. 54 ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ส่งท้ายปีนี้ อย่างไรก็ดีในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ สดร.ร่วมกับเครือข่ายทางดาราศาสตร์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา และสงขลา ตั้งจุดสังเกต ที่ จ.เชียงใหม่ จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.สงขลา โดยใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มีความยาวโฟกัสกว่า 800 มิลลิเมตร และจะถ่ายทอดสดภาพปรากฏการณ์ฯ ผ่านเว็บไซต์ของสถาบัน ที่ www.narit.or.th

นายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ระบุถึงการเกิดจันทรุปรา คาเต็มดวงครั้งนี้ในทางโหราศาสตร์ โดยดูจากราศี ธาตุ ลักษณะคราส และฤกษ์ในการเกิดคราสว่า เป็นห้วงเวลาที่จะเกิดคดีอาชญากรรมมากขึ้น โรคภัยไข้เจ็บในคนและสัตว์ระบาดอย่างหนัก มีความยุ่งยากในวงการศาสนาและการศึกษา และมีผลตามหลังด้วยอุบัติเหตุครั้งสำคัญเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวทั้งทางทะเล พื้นดิน และอากาศ ดังนั้นการเดินทางควรระวังอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ต้องระวังเกิดอัคคีภัยครั้งสำคัญ รัฐอาจจะมีการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องไฟและน้ำในโครงการต่าง ๆ และมีการจัดเก็บภาษีอากรเพิ่มขึ้น จนประชาชนกระทบกระเทือนในการดำรงชีวิต รวมถึงต้องระวังเรื่องเกิดการก่อกวน การมีปากเสียง เหตุฆาตกรรม เกิดความไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง ประชาชนได้รับความทุกข์ยากลำบาก.



“สิ่งทั้งปวงมีความเสื่อมและสิ้นไปเป็นธรรมดา จงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด”



ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์