การเจริญสติ
เมื่อสมองมีความคิดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งแล้ว แสดงว่า ความติดคือรูปธรรมชนิดหนึ่ง
ความรู้สึกที่รับรู้ทั้งด้านบวกและด้านลบ ก็คือ นามธรรม
ความคิดเชิงบวกจะก่อให้เกิดความรู้สึกเชิงบวก เช่นความเมตตาอยากช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ความคิดเชิงลบ จะก่อให้เกิด ความรู้สึกเชิงลบ เช่น การเข่นฆ่า การทำลาย การทำร้าย ความโกรธเกลียดกัน
แล้วคุณล่ะ มีความคิดด้านไหน ลองสำรวจตัวเองว่า ถ้าคิดด้านใดแล้ว ความรู้สึกคล้อยตามกับความคิดก็จะติดตามมาด้วย
การเจริญสติ ทำให้เรามีสติที่สามารถที่จะตามดู รับรู้อย่างเท่าทันความคิด รับรู้อารมณ์และความรู้สึกในขณะนั้นได้
ถ้าเราตามความคิด และรู้เท่าทันความคิดแล้ว เราก็จะสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้โดยพลิกจากผลการกระทำในเชิงลบให้เป็นผลการกระทำในเชิงบวก เพราะไม่ว่าผลอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ผลทุกอย่างจะสะท้อนมาหาเราเอง
เช่น
แค่ความรู้สึกเกลียด เราก็จะรู้สึกเกลียดโลกไปด้วย ถ้าคิดว่าเราท้อแท้ความรู้สึกก็จะท้อแท้ไปด้วย ตัวเราเองก็จะเกิดผลแห่งความคิดให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีเลย ส่งผลหลายด้านตามมา
แต่
ถ้าเราคิดว่าอยากช่วยเหลือเพื่อนที่กำลังขาดแคลน เราก็จะรู้สึกอยากช่วยเหลือจริงๆ ผลที่ตามมาก็คือความอิ่มเอิบใจ ความสบายใจ และส่งผลตามมาอีกหลายด้านอย่างคาดไม่ถึง
สติมนุษย์ที่ผ่านการฝึกมากแล้ว จะสามารถจับความร้สึกและเปลี่ยนทิศทางของความรู้สึกให้เป็นไปตามความต้องการของเราได้ ถ้าใครสามารถที่จะควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้ ผลตามมาก็คือเราจะกำหนดอนาคตให้อยู่ในกำมือของเราทีเดียว
วิถีชีวิตได้ถูกกำหนดขึ้นจากความรู้สึกของตัวเอง เรียกตามพระพุทธศาสนา ว่า "กฏแห่งกรรม"
ชีวิตของเราถูกกำหนดด้วยกรรมดีหรือกรรมชั่ว ไว้แล้วทั้งในอดีตภพ และในภพปัจจุบัน
มนุษย์จึงเป็นสัตว์ชนิดเดียวในโลกที่ฝืนกรรมได้ ด้วย การเจริญสติ
ดร.จอห์น เฮเกลิน เรียกการควบคุมสติและความรู้สึกได้ นี้ว่า
"ศักยภาพของจิต" เมื่อมนุษย์สามารถใช้สติได้ 5 เปอร์เซ็นต์ มนุษย์จะมีจิตใจที่เข้มแข็งมากขึ้น เริ่มบังคับและติดตามความรู้สึกได้
และถ้า มนุษย์สามารถมีศักยภาพของจิต เพิ่มขึ้นมา 10 เปอร์เซ็นต์ โลกนี้ก็คงน่ารื่นรมย์และสงบสุขยิ่งขึ้น
ถ้าพัฒนาการฝึกการเจริญสติหรือความสามารถในการมีศักยภาพของจิต ขึ้นมา เป็น 25 เปอร์เซ็นต์ อะไรจะเกิดขึ้นในโลกนี้ ซึ่งคงเต็มไปด้วยอาริยะบุคคลในขึ้นโสดบันมากมาย
และถ้ามนุษย์ฝึกการเจริญสติ ได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ โลกมนุษย์ก็คงอยู่ในยุคพระศรีอาริย์ แน่นอนและไม่ไกลเกินเอื้อมด้วย
ดังนั้น
การเจริญสติ คือการทำให้ ศักยภาพของจิต สูงขึ้น เป็นเส้นทางที่มนุษย์จะเปลี่ยนแปลงตนเองในทางที่ดีขึ้น เพราะถ้าคนเรารู้เท่าทันความรู้สึกของตนเอง ก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงจากวิกฤตให้เป็นโอกาสที่ดีขึ้นมา สามารถสร้างความศานติสุขให้กับโลกอย่างแท้จริง
ท่านล่ะ ... ได้ฝึกการรู้เท่ากันความรู้สึกของตนเองด้วยการเจริญสติและติดตามความรู้สึก ด้วยสมาธิที่แน่วแน่ ด้วยการฝึกฝนที่เรียกว่า การทำจิตให้สงบโดยการวิปัสสนา หรือยัง....
Khonsurin
19 สิงหาคม 2554
Bookmarks