กำลังแสดงผล 1 ถึง 5 จากทั้งหมด 5

หัวข้อ: จิตใต้สำนึก

Threaded View

คำตอบที่แล้วมา คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป คำตอบถัดไป
  1. #1
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    จิตใต้สำนึก


    จิตใต้สำนึก





    ในวินาทีนี้ สิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนต่อไปนี้ บางทีท่านอ่านแล้วอาจไม่เชื่อ หรือเชื่อบ้าง แต่ก็ขอให้ย้อนกลับมาอ่านอีกครั้งหนึ่ง อ่าน...เพื่อพบกับสิ่งมหัศจรรย์ของจิต แล้วท่านอาจเชื่อ หรือ ไม่เชื่อก็ได้ แต่สิ่งเหล่านี้ มีประโยชน์ต่อท่าน สิ่งเหล่านี้จะทำให้ชีวิตของท่านเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น


    ข้าพเจ้าขอถ่ายทอดจากสิ่งที่อ่าน ที่ปฏิบัติในบางครั้ง ท่านอาจโชคดี อาจประสบความสำเร็จในชีวิตจากบทความเล็กๆ ชิ้นนี้


    เพราะมันคือกุญแจดอกสำคัญที่จะไขทางแห่งความสำเร็จของท่าน





    ไบรดี้ เมอร์ฟี่ เอ๊กซ์เปอรี่เมนท์ เคยทำการทดสอบเพื่อค้นหาความจริงเรื่องตายแล้วเกิดใหม่ แต่สิ่งที่เขาให้ความรู้กับไม่ใช่เรื่องนี้ กลายเป็นเรื่องราวของ การฝึกจิตขึ้นพิเศษ หรือที่เรียกว่า จิตใต้สำนึก




    จิตของเรา แบ่งออกเป็น 2 อย่างคือ

    1 จิตสามัญธรรมดา
    2 จิตใต้สำนึก หรือจิตที่อยู่ข้างใน



    จิตใต้สำนึกนี้เอง ได้ส่งพลังมหาศาล ที่กระตุ้นเตือนเราให้เราเกิดสภาวะความรู้สึกทางบวก หรือ ความรู้สึกทางลบ นั่นเอง


    ถ้าเราสามารถฝึกการเจริญสติ หรือการฝึกศักยภาพของจิตในทางบวก เราก็จะสามารถควบคุมความรู้สึกได้ ในขึ้นของจิตที่สร้างความรู้สึกในแง่บวกท่ามกลางความรู้สึกในแง่ลบ แล้ว เราจะควบคุมความรู้สึกของเราให้ตัดตัญหา อุปทาน ชาติภพ ได้


    แต่ถ้า เราไม่สามารถควบคุมจิตที่ก่อให้เกิดความรู้สึกในแง่ลบได้ ความรู้สึกไม่พอใจ ไม่ชอบใจ ความโกรธ ความเกลียด ก็จะมีอำนาจในการควบคุมตัวเราเองและทำลายตัวของเราเอง ทำลายโลก ทำลายสันติภาพในโลกใบนี้ เปลี่ยนมนุษย์เป็นผู้ล่า และผู้ถูกล่า ทำให้เกิดสงคราม เกิดความเดือดร้อน เกิดขึ้นมากมาย แล้วโลกจะธำรงอยู่ได้อย่างไร...


    คุณรู้หรือไม่ว่า เจ้าจิตใต้สำนึกนี่เองที่ทำให้คนเราเกิดการกระตุ้นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ เป็นสิ่งเดียวที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานให้เรา เจ้าสิ่งนี้มันรวมอยู่ในมันสมองของเรา มันอยู่ในมันสมองนั่นเอง....



    สภาพจิตของคนเรา แบ่งเป็นสองอย่าง คือ


    จิตสามัญธรรมดา

    จิตสามัญธรรมดา คือส่วนของสมองที่ถูกใช้งานเป็นประจำ ในขณะที่เรายังตื่นอยู่ จิตสามัญธรรมดาจะเป็นผู้บงการประสาททั้งห้า ได้แก่ ตา จมูก ลิ้น กายสัมผัส และ หู เป็นผู้ที่ควบคุมการจัดการแผนชีวิต และการดำรงชีวิตอยู่



    จิตใต้สำนึก

    จิตใต้สำนึก จะอยู่ในสมองของท่านโดยท่านไม่รู้ตัว แต่มันก็อยู่กับตัวของท่านแล้วนั่นเอง ในขณะที่ท่านนอนหลับเจ้าจิตใต้สำนึกจะเริ่มก่อตัวขึ้นมาเหนือระดับจิตสามัญธรรมดา ท่านคงเคยเห็นภาพ หรือ โทรจิต ได้อย่างแม่นยำมาก เพราะมันคือสิ่งมหัศจรรย์ในตัวท่านที่ผ่านประสาทที่หก



    ท่านเคยฉงนสนเท่ห์ หรือไม่กับครั้งประวัติศาสตร์ที่ยังไม่มีใครรู้จักตัวหนังสือ ไม่มีการสื่อสารทางเทคโนโลยี เช่นปัจจุบันนี้ ว่าอารยธรรมโบราณของกลุ่มมนุษย์สื่อสารผ่านกันทางไหน ทั้งที่อยู่ห่างไกลคนละทวีป ถูกกั้นด้วยทะเล ด้วยภูเขา ด้วยหุบเหว ไม่มีทางที่จะติดต่อกันได้เลย แต่ด้วยเหตุใดเล่า ที่ทำให้มนุษย์ค้นพบวิทยาการที่เหมือนๆ กันได้

    เพราะอะไรหรือ...บอกหน่อยได้ไหม



    เพราะมนุษย์มีจิตใต้สำนึกที่ทำงานอย่างเป็นนิจสม่ำเสมอ ไม่เคยหยุด นั่นเอง จึงคอยส่งข่าวถึงกันได้อยู่ทุกขณะ และส่งข่าวไปถึงผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง


    ความลับในความทรงจำของมนุษย์ก็คือพลังที่เก็บวิทยาการได้มากมายจนเราไม่สามารถย้อนทบทวนต้นกำเนิดของมันได้ และมันคือการสั่งสม ถ่ายทอดกันลงมาเรื่อยๆ อย่างไม่อาจยุติลงได้ ไม่มีวันหยุดยั้งหรือชะงัก



    จิตใต้สำนึก แท้จริงแล้วก็คือ สิ่งที่เรียกว่า “สังหรณ์ใจ” อยู่ๆ มันก็ช่วยชี้ช่องทางให้เราได้ถูกทาง


    เจ้าจิตใต้สำนึก ถูกฝึกได้ มันสามารถทำงานได้นอกเหนือจากจิตสามัญธรรมดาของเรา สามารถควบคุมสภาวะร่างกายของเรา ควบคุมความรู้สึกที่เกิดจากจิตสามารถธรรมดาได้



    เราฝึกได้

    เราฝึกจิตใต้สำนึกได้....



    แต่ เราต้องฝึกจิตใต้สำนึกนี้ ให้มีความรู้สึกในมิติที่เป็นบวก ไม่ใช่ ในมิติที่เป็นลบ
    โดยการเจริญสติ การดูแลและรู้เท่าทันความรู้สึก การดับซึ่งมิติด้านลบของความคิด



    ในปี คศ.1899 ดร.เฮอร์ริ่ง เป็นสารวัตรอยู่ในสำนักงานนักสืบที่มีชื่อว่า ปิงเกิลตัน ดีเด๊กตีฟ เอเย็นซี ได้พบเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อ สวาโบดา กำลังเข้ามากินอาหารในร้านกินฟรี เด็กหนุ่มคนนี้ผอมแห้งมาก ร่างกายเหลือแต่กระดูก ซูบซีดและทรุดโทรม จนเขาเกือบจะเดินไมไหว เมื่อ ดร.เฮอร์ริ่งเข้าไปคุยด้วย เด็กหนุ่มคนนี้บอกว่าเขาโบกรถไฟมาเมืองนี้ เพื่อเดินทางไปทำงานเลี้ยงปศุสัตว์ ส่วนพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตแล้วจากวัณโรค


    สามเดือนต่อมา ดร.เฮอร์ริ่ง พบเขาอีกทีหนึ่ง ในลักษณะที่ไม่เหมือนเดิม แข็งแรงดุจวัวกระทิง แต่งเนื้อแต่งตัวดี ไม่มีคราบของหนุ่มพเนจรคนเก่าให้หลงเหลืออยู่เลย


    เด็กหนุ่มสวาโบดา ได้เล่าให้ ดร.เฮอร์ริ่ง ฟังว่า เขาพบกับคนจรจัดอีกคนหนึ่งที่เข้ามาขโมยมะนาวลูกหนึ่งจากร้านที่เขาอยู่ เจ้าคนจรจัดคนนี้ ได้ดูดน้ำมะนาวอย่างอร่อย ทำให้สวาโบดาเกิดน้ำลายสอขึ้นได้ทันที และเขาได้ตระหนักในทันทีว่า ความคิดสามารถจะถูกบังคับได้ เพราะมันทำให้อวัยวะต่างๆ ของร่างกายถูกทำงานตามหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์และถูกต้อง นี่คือสิ่งที่ สวาโบลา ได้ค้นพบการบังคับร่างกายจากจิตใต้สำนึกนั่นเอง


    จากนั้นสโบว่าก็ได้ลาออกจากร้านที่เขาทำงาน ไปทำงานในคอกปศุสัตว์แห่งหนึ่ง ภายใน 2 – 3 ปีเขาก็แข็งแรงขึ้น อวัยวะทุกอย่างในร่างกายกระฉับกระเฉงขึ้น เพราะการบังคับจิตใต้สำนึกนั่นเอง


    นอกจากนี้ยังมีเรื่อง


    เอ๊ดการ์ เคซี ได้เพ่งญาณสำนึกแห่งกระแสจิตไปรักษาโรคของคนไข้ที่อยู่ห่างกันไปมาก และเขาสามารถช่วยเหลือคนไข้ได้มากมาย





    ติดตามตอนต่อไป นะคะ



    ขอบอกว่าบทความนี้ ท่านอาจเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้นะคะ
    แต่ถ้าเกิดประโยชน์ต่อท่าน ขอให้ติดตามนะคะ







    khonsurin
    20 สิงหาคม 2554


    ………………………….






    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย khonsurin; 20-08-2011 at 15:41.
    *********************************


    อิสระ เสรี เสมอภาค




    *********************************

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •