ไม่จ่าย2บ. เด็กปั๊มยิงดับ
ทะเลาะค่าแก๊ส ถึงฆ่ากันสยอง
เด็กปั๊มโหดกระหน่ำยิงลูกค้าดับคาที่ เหตุเพียงแค่ไม่ยอมจ่ายเงินค่าแก๊สที่กดเติมเกินเพียง1.80 บาท ก่อนเข้ามอบตัวสู้คดี สารภาพโกรธแค้นที่ผู้ตายไม่ยอมจ่ายเงินที่เติมเกิน พร้อมทั้งถูกด่าทอเหยียดหยาม-ข่มขู่จะยิงให้ตาย ทำทีจะหยิบปืนในรถออกมายิง จึงตัดสินใจชักปืนที่นายจ้างให้พกดูแลปั๊ม รัวยิงลูกค้า 3 นัดซ้อน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ส.ค. ที่ บก.ภ.จว.จันทบุรี นายฤทธิ์ ปรีดาธรรม หรือเคน อายุ 37 ปี อดีตพนักงานปั๊มแก๊สรักชูก้า อยู่บ้านเลขที่ 19/21 ม.10 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงนายพลังพล ภักดี อายุ 43 ปี เสียชีวิตภายในปั๊มแก๊ส เพราะผู้ตายไม่ยินยอมจ่ายค่าแก๊สที่เด็กปั๊มเติมเกิน 1.80 บาท ทำให้เกิดมีปากเสียงและก่อเหตุดังกล่าว โดยนายฤทธิ์พร้อมด้วยทนายความ เข้ามอบตัวกับพล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ ผบก.ภ.จว.จันทบุรี ก่อนที่จะสอบปากคำผู้ต้อง หาในเบื้องต้น จากนั้นประสาน พ.ต.อ.สถาพร ตั้งศิริวัฒนา ผกก.สภ.มะขาม มารับตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยตำรวจรับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่ปั๊มแก๊สรักชูก้า อยู่บ้านเลขที่ 19/21 ม.10 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี โดยที่เกิดเหตุพบศพนายพลังพล ภักดี อายุ 37 ปี สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่บริเวณศีรษะ 2 นัด ไหล่ซ้าย 1 นัด สวมเสื้อลายสกอตสีฟ้า ใส่กางเกงผ้าขายาว สวมสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท ข้อมือทองคำน้ำหนัก 5 บาท นอนเสียชีวิตอยู่หน้าตู้จำหน่ายแก๊ส ใกล้กันพบรถเก๋ง ยี่ห้อวอลโว่ สีดำ ทะเบียน ธว 4263 กรุงเทพฯ จอดอยู่ โดยตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในปั๊ม และทราบว่ามือปืนที่ลงมือก่อเหตุคือนายฤทธิ์ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
จากการสอบสวนพนักงานภายในปั๊มแก๊สทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถเข้ามาเติมแก๊สภายในปั๊ม 600 บาท แต่พนักงานปั๊มได้กดเติมแก๊สเกินมา 1.80 บาท ทำให้นายฤทธิ์ขอ ร้องให้ผู้ตายจ่ายเงินค่าแก๊สที่เกินมา 1.80 บาท แต่ผู้ตายไม่ยิมยอม ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จากนั้นนายฤทธิ์ได้ชักอาวุธ ปืนขนาด .38 ที่เจ้าของปั๊มให้ไว้พกป้องกันตัวหากมีคนร้ายเข้ามาปล้นชิงทรัพย์ภายในปั๊มยิง ผู้ตาย 3 นัด จนผู้ตายล้มลงไปนอนกับพื้นและเสียชีวิตคาที่
พ.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า ข่าวตอนแรกมีการเข้าใจผิดว่าผู้ตายเป็นอดีตตำรวจยศพ.ต.ท. แต่จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายไม่ใช่ตำรวจ แต่ประกอบอาชีพรับซื้อและจำนำรถยนต์อยู่ในย่านถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ และชอบแต่งตัวคล้ายตำรวจ จะมีสติ๊กเกอร์ติดหน้ารถที่ระบุว่าตำรวจภูธรภาค 7 และเสื้อคลุมสีดำแบบตำรวจที่แขวนภายในรถ
ต่อมาเวลา 12.00 น. ร.ต.ท.บดินทร์ คงขวัญ ร้อยเวร สภ.มะขาม ควบคุมนำตัวนายฤทธิ์มา สอบสวน ซึ่งผู้ต้องหามีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด โดยใช้เวลาสอบสวนนานหลายชั่วโมง
นายฤทธิ์ให้การรับสารภาพว่า ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ก่อเหตุยิงผู้ตายจนเสียชีวิตจริง เพราะโกรธแค้นที่ผู้ตายไม่ยอมจ่ายเงินที่พนักงานปั๊มกดเติมแก๊สเกินมา 1.80 บาท ก่อนที่จะถูกผู้ตายด่าทออย่างรุนแรงและเกิดมีปากเสียงกัน โดยผู้ตายพยายามพูดโอ้อวดและข่มขู่ว่าจะยิงตนให้ตาย พร้อมทั้งเข้ามาผลักหน้าอกและพูดเหยียด หยามซ้ำ ซึ่งหญิงสาวที่มากับผู้ตายก็พยายามเข้ามาห้ามปรามให้แยกออกจากกัน แต่ผู้ตายไม่ยินยอมและเดินเข้าไปในรถ เพื่อจะหยิบอาวุธปืนออกมา ตนจึงรีบชักอาวุธปืน .38 ที่พกไว้ป้องกันและดูแลทรัพย์สินภายในปั๊มขึ้นมายิงใส่ผู้ตายจนเสียชีวิต ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมาตั้งหลัก............
ที่มา..นสพ. ข่าวสด...
.................................
...อ่านข่าวนี้แล้วเศร้าครับ เป็นเรื่องใกล้ตัวผมหรือจะว่าใกล้ตัวเราทุกๆคนก็ว่าได้ ผมเจอแทบทุกวัน...พี่น้องที่ใช้รถไม่ว่าจะเป็นรถอะไรก็แล้วแต่ เติมแก๊สหรือน้ำมัน..ถ้าท่านเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็อยากจะบอกว่า.ส่วนเกินที่พนักงานเติมให้ไม่ว่ามากหรือน้อย ถ้าเราไม่มีเงินจ่ายจริงๆ.พูดคุยกันดีๆครับ คุยกันดีๆก็จบดีๆครับ...อย่าไปด่าทอ..และหลีกเลี่ยงการใช้คำพูดยั่วยุดูหมิ่น
เช่น..ข้าไม่จ่าย/ไม่ใช่ความผิดของข้า เอ็งเติมเกินมาเองช่วยไม่ได้...//น้ำมันหรือแก๊สที่เติมเกินมาไม่ใช่จะเอาคืนได้ง่ายๆ น้ำมันยังพอดูดออกได้..ส่วนแก๊สหมดสิทธิ..ข่าวนี้คงเป็นอุทาหรณ์ให้คนใช้สติอย่าใช้อารมณ์..เพราะถ้าขาดสติอาจหมดอนาคตหรือหมดลมหายใจ..
Bookmarks