ตำรวจตระเวนชายแดน
เรื่องสั้นชุดเยาวชนสีขาว ตอน ตำรวจตระเวนชายแดน
โอ้ชีวิตเธอ อยู่ตามเขาลำเนาป่า
ตระเวนชายแดน เหมือนดังพรานล่องพนา
ต้องนอนกลางดิน ต้องกินล้วนอาหารมีในป่า
สุดทรมา เพียงใดเธอไม่ท้อเลย
เมื่อยามค่ำคืน มีเพียงนวลแสงจันทร์ส่อง
กับเสียงนกร้อง ทำนองดนตรีที่เคย
ตกดึกเหน็บหนาว กายใจไม่เห็นเธอเอื้อนเอ่ย
โอ้น่าชมเชย สมเป็นยอดตำรวจชายแดน
หากเธอระทม นอนซมเพราะพิษไข้ป่า
อยู่แดนกันดาร ร้าวรานน่าเบื่อระอา
ขาดคนเอาใจ ห่างไกลทั้งมวลมิตรสนิทหน้า
อยู่ตามประสา เชื้อชายชาติอาชาไนย
เมื่อยามค่ำคืน เธอนอนไม่สุขเหมือนผู้อื่น
ต้องนอนกอดปืน ผจญศัตรูสู้ไป
ชีพดับสลาย ความตายคือเกียรติที่เธอได้
พวกเราชาวไทย เห็นใจยอดตำรวจชายแดน
ฟังเพลง ตำรวจตระเวนชายแดน ที่ได้ยินครั้งใดก็ตาม จะบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ทำให้คิดถึงพี่ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็น ตชด. ที่อยู่ในจังหวัดนราธิวาส ที่อยู่ท่ามกลางความเสี่ยงสารพัด เพราะมันหมายถึงความเป็นหรือความตายที่อยู่ตรงหน้า ....
เมื่อได้รับคำสั่งให้ออกลาดตระเวน พวกเรา ตชด.ทุกนายที่ได้รับคำสั่งจะต้องจัดเตรียมสัมภาระลงเป้สนาม ที่บรรจุด้วยอาหารแห้งพอประทัง เปลนอน ข้าวของที่จำเป็นต้องใช้
บนทางขึ้นเทือกเขาบูโด เขาที่เต็มไปด้วยป่ารก ต้นไม้ที่เสียดแทงยอดเขาทะมึนอยู่ตรงหน้า
พวกเราค่อยๆ เดินเท้าเขาไปเพื่อสืบหาผู้ก่อการร้ายที่หลบซ่อนตัวอยู่บนเทือกเขาแห่งนี้ ทางเดินที่เต็มไปด้วยต้นไม้สูงที่เสียดแทงยอดตะวัน ใบไม้ที่หล่นเกลื่อนพื้นดิน พื้นดินชื้นใต้ต้นไม้มีสิ่งมีชีวิตเล็กๆ อยู่เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญคือเห็บ ปลิง และทาก ที่เผลอไม่ได้ทีเดียว ถ้าเผลอมันจะมาดูดเลือดของเราโดยไม่รู้ตัว
ตาจ้องไปข้างหน้าเขม็ง เท้าที่สวมอยู่ที่เรียบว่าทอปบู๊ต มือถืออาร์ก้าและจรวดเอ็มเจ็ดสิบเก้า หูระวังเสียงใบไม้ไหม ตาสังเกตใบไม้ว่าใครจะเคยผ่านทางหรือไม่ มองไปบนต้นไม้ที่เดินผ่านสังเกตการหักของกิ่งไม้ว่าเกิดจากธรรมชาติหรือไม่ นิ้วพร้อมเหนี่ยวไกปืนทุกเวลา เพราะถ้าเผลอหมายถึงความตายที่ใครก็ไม่อยากได้
ในคืนแรกที่เข้ามาเทือกเขาแห่งนี้ ตกเย็นพวกเราต้องหุงข้าวด้วยหม้อสนาม เอาช้อนเปิดปลากระป๋อง เอาพริกป่นโรย พอได้บรรเทาอาการหิวของเราบ้าง กินข้าวเสร็จเริ่มใกล้ค่ำ พวกเราเริ่มลงมือผูกเปลบนต้นไม้ กลบร่องรอยชีวิตความเป็นอยู่เมื่อครู่นี้ไม่ให้เหลือซาก ชีวิตสิบคนของพวกเราได้สลายตัวจากพื้นดินขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ มีเพียงความเงียบ เป็นเพื่อนกาย
คิดถึงยอดรักของเรามาก เธอจะอยู่อย่างไรนะ
“น้องอ้อครับ...พี่เหงาเหลือเกิน คิดถึงน้องอ้อ จนสุดทนแล้ว”
เสียงวิทูร รำพันในใจ ท่ามกลางท้องฟ้ามืดมิด นอนนับดาว
ขณะนั้นสายฝนเริ่มโปรยปราย วิทูร พร้อมพวกยังอยู่บนต้นไม้ นอนกอดปืนแทนกอดแฟน ฝนพร่างพรูลงมา แต่ ตชด ทุกนายไม่มีสิทธิ์ที่จะลงมาจากต้นไม้ เพราะสภาพป่ารก หลบไปทางไหนก็คงเปียกไปหมดนั่นเอง
“สายฝนพร่างพรู สะท้านหวั่นไหว
หนาวหัวใจ อกพลันหนาว
ภายใต้ฟ้าหมอก และดวงดาว
คิดถึงเจ้า จนเหลือทนแล้วกานดา
ใจจะขาด เพราะเหงาร้าวราน
อกสะท้าน คิดถึงเจ้าใต้เงาผา
ที่รักเจ้าคงคิดถึง ตัวพี่ยา
น้ำตาฟ้าน้ำตาคน ต้องทนกลืน
หากกลับไป จะกอดเจ้าแทนเหงาจิต
ยอดชีวิต อดทนแม้ขมขื่น
อีกไม่นานพี่คง กอดนางทุกวันคืน
รู้บ้างไหมขวัญชื่น พี่คิดถึงไม่ลืมนาง”
ฝนหยุดตกแล้ว เสียงแมลงกรีดปีกดังก้องป่า ชุดที่ใส่เริ่มแห้งไปกับตัวเอง เสียงไก่ป่าเริ่มขันแล้ว บอกเวลายามรุ่งอรุณของวันใหม่
ทุกคนเริ่มเก็บสัมภาระ หุงข้าวและกินข้าวอย่างรีบเร่ง พร้อมเคลื่อนที่
เมื่อสำรวจตัวเอง วิทูรพบว่าทากตัวหนึ่งเกาะที่ขา มันเข้าไปเมื่อไรไม่รู้ ค่อยๆ ดึงออก เลือดไหลออกตามมาด้วย ที่ทำได้ก็คือขอยากับพี่ที่นำแอลกอฮอล์ ล้างแผลมาด้วย ขณะที่พี่อีกคนหนึ่งมีตัวเห็บแดงเกาะที่ใต้ตา ต้องช่วยกันเอาออก และช่วยกันสำรวจเจ้าตัวพวกนี้ที่เป็นเพื่อนมาตลอดในแต่ละครั้งของการออกลาดตระเวน
เมื่อลาดตระเวนต่อไป พวกเราพบหมู่บ้านกลางขุนเขา ที่ไม่น่าจะเป็นหมู่บ้านอย่างเป็นทางการ เพราะสภาพเป็นบ้านชั่วคราว พวกเราพากันส่งสัญญาณในการกระจายกำลังโอบล้อมหมู่บ้าน ค่อยคืบคลานโอบล้อมเข้าไป
พวกมันคงรู้ตัวบ้าง มันเริ่มเข้าไปในบ้านและเอาอาวุธออกมา เสียงปืนของพวกมันดังขึ้น พวกมันระดับหลายสิบคน แต่เรามีแค่สิบนาย แต่ต้องสู้แบบประจัญบาน
เสียงปืนดังขึ้น ลูกปืนพุ่งดิ่งเข้าที่ร่างของวิทูร เขาล้มลงแต่บอกให้เพื่อนไม่ต้องเป็นห่วง เสียงสัญญาณวิทยุดังขึ้น เสียงเฮลิคอปเตอร์ เริ่มบิน พวกมันพากันลากเพื่อนออกไป หายเข้าป่า เครื่องบินส่งกำลังทหารเข้ามาเสริม และให้ ตชด. ที่เหลือ ถอยออกมาจากตรงที่มีการสู้รบ
ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา ในขณะนั้น ...ร่างของวิทูรที่ไร้วิญญาณ เลือดไหลนอง มือยังคงปืนแนบแน่น บอกถึงความกล้าหาญ เสียสละ ของชายชาติทหาร ได้ถูกลำเลียง ด้วยทางเท้า ลงจากเทือกเขาบูโดแห่งนั้น เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย
นักรบ ตชด. นอนหลับตาเสียนะ แนวหลังอย่างพวกเราขอส่งใจคารวะไปยังท่านด้วยความเคารพ
เหน็ดเหนื่อย มามากแล้ว
ชีวิตของทะแกล้ว ผู้กล้า
เหนื่อยกับความ อ้างว้างและล้า
คงจะหลับตา เป็นสุขบ้างนิรันดร
เคยเหงาอ้างว้าง เวิ้งในฤทัย
ถึงลำบากเพียงใด ไม่เคยหนาวร้อน
สู้ทนกลั่นอด รันทดเหน็บร้าวรอน
เพื่อชาติไทยห่อน พะยันตะราย
ต้องทนอดทน ยอมลำบาก
ทั้งปลิงทาก โรมรันร่างให้
เล็มเลือดเล็มเนื้อ ไม่เป็นไร
ให้คนไทยได้รู้ นักสู้ ตชด.
หลับตาลงนะ “วีรบุรุษผู้กล้า”
บทเพลงตำรวจชายแดนจาก วงดุริยางค์ตำรวจ
จากเนื้อร้องของ ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค
สื่อความหมายได้อย่างประทับใจมาก
บทเพลงนี้ ได้ใช้ท่วงทำนองมากจากบทเพลง Danny Boy
เพลงของ Danny Boy
เป็นเพลงบัลลาดอมตะที่นักร้องดังหลายคนนิยมนำมาร้องทั้งบันทึกลงแผ่นเป็นทางการหรือในการแสดงสดตามคอนเสิร์ช
เดิมเป็นเพลงโฟล์คโบราณของประเทศไอร์แลนด์ รู้จักกันดีในชื่อ Londonderry Air
ต่อมา Frederic Weatherly ทนายนักแต่งเพลงชาวอังกฤษนำมาสอดใส่เนื้อร้องในปี1910 และกลายเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างมากจนปัจจุบัน จากความไพเราะของท่วงทำนองอันเศร้าซึ้งและเนื้อร้องอันโศกสลดรันทดใจ
ความหมายของเนื้อเพลงมีการตีความกันอย่างลากหลาย
แต่ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าเป็นคำรำพันแสดงความอาลัยต่อเด็กหนุ่มที่ต้องจากครอบครัวไปสู่ความโหดร้ายสามานย์แห่งสงคราม
ชาวไอริชนั้น ต้องต่อสู้กับชาติอื่น(โดยเฉพาะอังกฤษ)เพื่อที่ จะปกป้องดินแดนและเชื้อชาติของตนให้พ้นจากผู้รุกรานอยู่เสมอมา
อิสรภาพที่ต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อของผู้ล่วงลับ กับหยาดน้ำตาแห่งความทุกข์ระทมของผู้อยู่ข้างหลัง ที่ได้สูญเสียพี่น้อง ญาติสนิท มิตรสหาย ลูกชายและสามี อันเป็นที่รักยิ่ง
ในขณะเดียวกันบางคนก็ยังตั้งตาคอยด้วยความหวังว่า สักวันหนึ่ง เขาเหล่านั้นจะกลับคืนมาสู่บ้านเกิดเมืองนอน กลับสู่ครอบครัวและอ้อมแขนของผู้เฝ้ารอ
หากชีวิตไม่แดดิ้นลาลับไปเสียก่อน ฟังเสียงเพลง Danny Boy
ทุกท่านที่ร้อง ทรงความไพเราะทั้งน้ำเสียง ดนตรี และสื่ออารมณ์ได้ยอดเยี่ยม
ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) (Border Patrol Police)
คือ ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อเป็นกำลังเสริม แทนการใช้กำลังทหาร ในรักษาความสงบตามแนวตะเข็บชายแดน อันเนื่องจากสนธิสัญญากรุงเจนีวาระหว่างไทยกับฝรั่งเศสกำหนดห้ามไม่ให้มีกำลังทหารในระยะ 25 กิโลเมตร จากแนวชายแดน
จุดประสงค์หลักในการจัดตั้ง ตชด.ในช่วงแรกคือป้องกันกองกำลังคอมมิวนิสต์ที่เข้ามารุกรานในประเทศ โดยให้ ตชด. เป็นหน่วยที่มีคุณลักษณะสำคัญ 3 ประการ คือ
1.สามารถปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมได้อย่างตำรวจ
2.สามารถรบได้อย่างทหาร
3.สามารถดำเนินการพัฒนาและช่วยเหลือประชาชนได้เช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือน
………………..........................
Bookmarks