พระเจ้าเฟลีเปที่ 1 แห่งคาสตีล พระสวามีหลังจากการอภิเษกสมรส เจ้าชายฟิลิปพระสวามีของพระนางทรงมีพระนิสัยเจ้าชู้มาก ไม่ค่อยสนใจพระนาง มักทำองค์ให้เจ้าหญิงฮวนน่าทรงหึงพระองค์ และทะเลาะกันบ่อยครั้ง ด้วยความรักพระสวามีอย่างมาก จึงคอยติดตามตลอดเวลาไม่ว่าพระสวามีจะเสด็จที่ใด

ต่อมาเมื่อเจ้าหญิงอิซาเบลล่า และเจ้าชายจอนห์พระเชษฐภคินีและพระเชษฐาที่ทรงสนิทสนมสิ้นพระชนม์ลงในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้ทรงเสียพระทัยเป็นอย่างมาก ทรงมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปเป็นทรงเก็บพระองค์มากขึ้น

ในปี พ.ศ. 2047 สมเด็จพระราชินีอิซาเบลลาที่ 1 แห่งคาสตีล สิ้นพระชนม์ลง เจ้าหญิงฮวนน่าจึงทรงขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อจากพระมารดา เป็นสมเด็จพระราชินีโจแอนนาแห่งคาสตีล ในขณะที่พระบิดา พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 อารากอนยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่


การสวรรคตของพระเจ้าเฟลีเป

ภายหลังพระเจ้าฟิลิปที่ 1 แห่งคาสตีล (ฟิลลิปรูปหล่อ) สิ้นพระชนม์อย่างกระทันหัน ยังความโศกเศร้าพระทัยแก่พระนางฮวนน่าเป็นล้นพ้น(มีการสันนิฐานว่าอาจทรงต้องยาพิษ โดยพระเจ้าเฟอร์ดินานที่ 2 มีส่วนรู้เห็นด้วย)

ทรงกันแสงและกรีดร้องตลอดเวลา มิเป็นทรงงานราชการบริหารบ้านเมืองใดๆ อีก ต่อมาจึงเริ่มมีกระแสข่าวลือไปทั่วว่าพระราชินีทรงอยู่กินกับพระศพพระสวามี โดยทรงกอดและจุมพิตพระศพทุกๆ คืน

แต่ความจริงคือพระนางทรงได้รับข่างลือว่า พระศพถูกขโมยไปจึงทรงเปิดดูเท่านั้น เมื่อมีการเคลื่อนย้ายพระศพไปฝังยังเมืองกรานาดาทางตอนใต้ของสเปน

พระนางมิให้หญิงใดเข้าใกล้พระศพพระสวามี ทั้งนางกำนัล นางรับใช้ แม้แต่แม่ชีด้วยทรงหึงหวงพระสวามีมาก ตลอดเวลาที่เดินทางทรงสั่งให้เปิดดูพระศพทุกวัน ถึงกับทรงกอดลูบพระศพ จนเป็นที่น่าสังเวชแก่ข้าราชบริภารทั้งหลายที่เห็น


การถูกขัง

พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 พระบิดาจึงได้ดำเนินการเสนอต่อสภาประกาศให้ สมเด็จพระราชินีฮวนน่า เป็นบุคคลไร้ความสามารถ จากการที่ทรงเสียพระสติ และมีคำสั่งกักบริเวณพระราชินีผู้เสียสติไว้ ที่ปราสาททอเดซียัส แล้วรวบอำนาจในการปกครองมาไว้ที่พระองค์ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทน


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี