หน้าฝนนี่ช่างมีอะไรหลายๆ อย่าง ให้น่าสังเกตและน่าคิดอยู่เสมอ
มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งดีทั้งร้ายที่ปะปนอยู่ในฤดูฝน
ทั้งความมีชีวิตและความสิ้นชีวิตแต่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เพราะธรรมชาติเสกสรรปั้นแต่งให้เป็นแบบนี้มีเกิดก็ต้องมีดับ
แต่ในความรู้สึกลึกๆ แล้ว ผมชอบฤดูฝน เป็นฤดูที่แสดงถึงความมีชีวิต
สีเขียวของพืชพันธุ์ธัญญาหาร แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์
มีข้าวในนามีปลาในน้ำ(อาจมีคนแย้งว่าในน้ำมะพร้าวทำไมไม่มีปลา
คำถามนี้ผมต้องขอสงวนคำตอบ อยากรู้ให้ไปถามพี่พลฯ 555)
แต่เรื่องร้ายๆ ผมไม่อยากพูด รู้สึกหดหู่ใจ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด
บ่อยครั้งที่ผมสังเกตในขณะขับรถยนต์ไปทำงาน สังเกตเห็นน้ำฝนที่เกาะ
อยู่ตามกระจกหน้ารถยนต์ ทำให้ผมอดคิดเปรียบเทียบกับชีวิตตนเองไม่ได้
ตามทฤษฎีของน้ำแล้ว ย่อมจะไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ แต่หยดน้ำที่เกาะอยู่ตาม
กระจกหน้ารถยนต์ จะเคลื่อนตัวหรือใหลขึ้นข้างบนและจะระเหิดแห้งไปในที่สุด
ซึ่งค้านกับทฤษฎีของน้ำ ทั้งนี้ก็ด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ ที่เป็นตัวแปร เช่นแรงต้านของ
อากาศ และความเร็วหรือการเคลื่นตัวไปข้างหน้าของรถยนต์
ไม่รู้ผมคิดเปรียบเทียบกับชีวิตตัวเองได้ยังไง ผมอาจคิดมากไปก็ได้ แต่ก็ช่างเถอะ
มีความคิดดีกว่าไม่มี (555) ชีวิตเปรียบหยดน้ำ ความคิดจิตใจ เปรียบเสมือนทฤษฎี
ของน้ำ แรงต้านของอากาศและความเร็วของรถยนต์ เปรียบสังคมหรือบริบทของชีวิต
เมื่อทฤษฎีของน้ำคือความคิดความฝัน(หมายถึงความคิดความฝันในทางบวก
คนละความหมายกับคำพระเทศ "ตามใจน้ำสิใหลลงทางหลุ่ม บ่อมีใหลแล่นขึ้น
เมือฟ้ายอดดอย" ซึ่งหมายถึงการใหลตามกิเลส) ต้องการดำเนินไปในรูปแบบที่ใจ
ต้องการ แต่ทานแรงต้านของอากาศคือบริบทของชีวิต ความเร็วของรถคือการ
เปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐิกิจ/การเมือง/สังคมไม่ไหว จำต้องฝืนดันทุรังตาม
แรงต้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การทำอะไรก็ตามที่เป็นการฝืนจะเหนื่อยและหนักกว่าปกติเสมือนเข็นครกขึ้นภูเขา
ตัดทอนกำลังและบั่นทอนชีวิตได้หลายเท่าของปกติ ผมคิดและฝันเสมอที่จะดำเนินชีวิต
ตามแบบของตัวเอง คือการเป็นชาวไร่ชาวนาธรรมดาอยู่กับธรรมชาติ ไม่ต้องแก่งแย่ง
แข่งขันกับใคร ไม่ต้องทำงานประสานกับคนทั้งที่ใช้ภาษาเดียวกันแต่ก็ลำบาก
ในการประสานงาน ในการทำงานมีอะไรให้โต้แย้งอยู่เสมอ ทั้งรูปแบบการบริหารงาน
ระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ต่างคนต่างคิดต่างจิตต่างใจ แต่ละวันสร้างความเครียด
อยู่เป็นนิจ ต่อสู้ดิ้นรนปากกัดตีนถีบ (ไม่ใช่ปากกัดรุ่นพี่ตีนถีบรุ่นน้องนะครับ) เพื่อให้งานสำเร็จและมีประสิทธิภาพ
แต่ก็นั้นหล่ะ ด้วยเหตุปัจจัยหลายหย่างอยากจะพอเพียงแต่ไม่เพียงพอ อีกทั้งตัวแปรอื่น
ที่เป็นสายโซ่ตวัดรัดรอบลากถูไปบนถนนที่บางแห่งราบเรียบบางแห่งขรุขระทุลักทุเล
การพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นดูเหมือนยิ่งรัดแน่นทุกขณะ ไม่ต่างอะไรจากปลาติดอวน
จึงได้แต่ฝืนเพื่อรอเวลาแห้งเหือดเหมือนหยดน้ำที่เกาะอยู่บนกระจกหน้ารถยนต์
Bookmarks