หันไปโพสต์กลอนกะล่อน 3 กลอน เกือบเคลิ้มไปตามกลอนจนลืมงานหลักของจะของ พอดีเป็นคนที่บ่ค่อยประมาท มีสติกำกับตัวเองตลอดเวลา เอ้า!?! มาเบิ่งกฎหมายเรื่องการทำแท้งมันสิคือการทำแท็งก์หรือบ่..เอหิปัสสิโก..
เมื่อปลายปี พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมา มีข่าวที่น่าเศร้าสลดหลายข่าว โดยเฉพาะข่าวการพบศพเด็กที่ถูกทำแท้งกว่า 2,000 กว่าศพที่วัดไผ่เงินในเขตกรุงเทพฯ นี่แหละครับ ภาพข่าวจากทั้งหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ทำให้หลายคนสลดหดหู่ จนหน่วยงานภาครัฐก็เข้าไปจัดการทำพิธีทำบุญให้เด็กพวกนั้น และประชาขนได้รับอานิสงส์ถูกหวยรวยเบอร์กันหลายราย หลังจากข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ก็มีการถามไถ่ถึงโทษทางกฎหมาย ของการไปทำแท้งของคุณแม่ที่ตัดสินใจทำแท้งและผู้ที่ลงมือทำแท้งทำลายชีวิตเด็กตั้งแต่ยังไม่คลอดมาเป็นทารก ผมจะมาเป็นทิดโสโปข่าว คลายปัญหาเรื่องโทษทางกฎหมายของการทำแท้งครับ
การทำแท้ง...คืออะไร
การทำแท้งคือ การทำให้เด็กในครรภ์ของผู้หญิงเสียชีวิตก่อนที่จะคลอดออกมาเป็นทารก หรือคลอดออกมาแล้วเสียชีวิตทันที (เสียชีวิตขณะอยู่ในครรภ์แล้ว) ดังนั้น การทำแท้งนั้นไม่ว่าจะแท้งตั้งแต่เด็กอยู่ในครรภ์หรือเด็กคลอดออกมาแล้วตายทันทีก็ถือเป็นการทำแท้งทั้งนั้น นั่นแปลว่าไม่ว่าใครก็ตาม ทั้งแม่เด็ก ทั้งคนอื่นๆที่ลงมือไม่ว่าจะอาศัยวิธีการแบบไหนโดย มีเจตนาให้เด็กเสียชีวิตตั้งแต่ที่หญิงตั้งครรภ์ ถือเป็นความผิดอาญาฐานทำให้แท้งลูก ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.301
โทษของแม่ที่ทำแท้ง...ด้วยตนเอง
คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ตัดสินใจทำให้ตัวเองแท้งลูกไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ทั้งใช้กำลังทำร้ายตนเอง เช่น ทุบ ตี ถีบ ทุบที่หน้าท้อง หรือเอาของแข็งตีท้อง หรือกินยาบางประเภทเพื่อให้เด็กเสียชีวิตในครรภ์เพื่อเจตนาฆ่าเด็กให้ตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์นั้นกฎหมายอาญา มาตรา 301 บัญญัติโทษไว้ว่า "หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูกหรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนเองแท้งลูกต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
โทษของแม่...ที่ไปทำแท้ง
ส่วนคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ยินยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนเองแท้งลูก โดยเกิดจากความสมัครใจของเธอเองไม่ได้เกิดจากการถูกบีบบังคับ ถูกหลอกลวงหรือสำคัญผิดทำให้แท้งลูก คุณแม่ท่านนั้นต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับเช่นเดียวกับที่ลงมือทำแท้งด้วยตนเองครับ
ความผิด...ของผู้ให้บริการทำแท้ง
ตามกฎหมายอาญา มาตรา 302 วรรค 1 ระบุไว้ชัดเจนเลยครับว่า “ผู้ใดทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ซึ่งพฤติการณ์อาจโดยใช้กำลังทำร้ายหรือใช้ยาหรือฉีดยาบางประเภททำให้หญิงนั้นแท้งลูก หรือไม่ว่าด้วยวิธีใด เพื่อทำให้หญิงแท้งลูกก็ได้ครับ ยิ่งถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้หญิงได้รับอันตรายสาหัสอย่างอื่นด้วย บุคคลผู้ลงมือนั้นจะต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ตามกฎหมายอาญา มาตรา 302 วรรค 2)
โทษสูงสุดระบุไว้ในกฎหมายอาญา มาตรา 302 วรรค 3 คือ หากการกระทำนั้นเป็นเหตุให้หญิงถึงแก่ความตาย บุคคลนั้นจะต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บังคับทำแท้ง...โทษหนักสุด
อะไรก็เกิดขึ้นบนโลกนี้ได้ทั้งนั้น หากมีคนใจร้าย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม บังคับผู้หญิงตั้งครรภ์โดยใช้กำลังทำร้ายหรือใช้ยาหรือฉีดยาบางประเภท ทำให้หญิงนั้นแท้งลูกหรือไม่ว่าด้วยวิธีใด เพื่อทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้นไม่ยินยอม บุคคลนั้นต้องได้รับโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้หญิงได้รับอันตรายสาหัสอย่างอื่นด้วย บุคคลนั้นจะต้องรับโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 20,000 บาท แล้วยิ่งหากการกระทำนั้นเป็นเหตุให้หญิงนั้นถึงแก่ความตาย บุคคลนั้นจะต้องรับโทษจำคุกตั้งแต่ 5 - 20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 - 40,000 บาท
ข้อยกเว้น...ที่กฎหมายอนุญาต
กฎหมายอนุญาตให้หญิงมีครรภ์สามารถทำแท้งได้ หากการทำแท้งนั้น เป็นเรื่องที่จำเป็นต่อสุขภาพของหญิง โดยการทำแท้งนั้นต้องเป็นการกระทำของหมอที่ได้รับอนุญาตและหญิงที่ตั้งครรภ์ต้องยินยอมให้แพทย์ทำแท้ง หรือเป็นเพราะการตั้งครรภ์นั้นเกิดจากการกระทำความผิดอาญา เช่น ถูกข่มขืนจนตั้งครรภ์ครับผม แต่ถ้าหากว่า คุณพ่อคุณแม่ไปเอ็กซ์เรย์ดูลูกที่อยู่ในครรภ์แล้วพบว่า เด็กแขนขาพิการ หัวใจไม่ปกติ ฯลฯ แบบนี้กฎหมายไม่อนุญาตนะครับ ยกเว้นแต่ว่าการตั้งครรภ์ครั้งนั้นจะส่งผลต่อสุขภาพของแม่จริงๆ ซึ่งแน่นอนครับว่าต้องเป็นความเห็นจากคุณหมอครับผม
...รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม...ขอขอบคุณบ้านมหาดอทคอม สังคมแห่งการแบ่งปัน...
Bookmarks