พวกเราคงจะเคยได้ยินกลอนบทหนึ่งที่บอกว่า "สองคน ยลตามช่อง คนหนึ่งมอง เห็นโคลนตม คนหนึ่ง ตาแหลมคม เห็นดวงดาว อยู่พราวพราย"
ข้อสังเกตก็คือว่า คนสองคนมองผ่านช่องเดียวกัน คนหนึ่งมองเห็นโคลนตมสกปรก อีกคนกลับมองเห็นผืนฟ้าพร่างพรายด้วยดวงดาว ทำไมทั้งสองคนเห็นต่างกัน ทั้ง ๆ ที่มองผ่านกรอบเดียวกัน
นั่นเป็นเพราะว่า วิธีการมองของทั้งคู่แตกต่างกัน สิ่งที่เห็นจึงไม่เหมือนกัน คนหนึ่งมองต่ำ ก็เห็นแต่โคลน อีกคนมองสูง ก็จะเห็นแผ่นฟ้ากว้าง
เช่นเดียวกับปัญหา ที่พวกเราคิดว่าคือปัญหา โดยสภาพของตัวมันเอง "ปัญหาก็เป็นเพียงอะไรบางอย่างที่เรียกร้องการเอาใจใส่" เหมือนกับการเรียกร้องความสนใจ หากเราสามารถจัดการปัญหาได้ตั้งแต่ต้นแบบมีสติ ปัญหาก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป...ก็แค่นั้น
ทัศนคติของพวกเราต่อสิ่งที่มอง จึงมีความสำคัญต่อการกำหนดปฏิกิริยาตอบโต้ ที่แสดงออกมา ทัศนคติที่ต่างกันไม่ใช่ความขัดแย้งครับ หากแต่เป็นความแตกต่างทางด้านความคิด ซึ่งหากมองในแง่ดีก็จะนำไปสู่การพัฒนาในทางที่ดี หากมองในแง่ร้ายก็จะมองว่าเป็นความขัดแย้ง จึงจำเป็นต้องเปิดใจให้กว้างพอสมควร และพยายามปรับเปลี่ยนทัศนคติให้เป็นบวกอยู่เสมอ ๆ
มีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า นามว่า " พล พระยาแล " หลายคนอาจมองว่าหล่อ หลายคนอาจมองว่าไม่หล่อแต่มีเสน่ห์ หลายคนอาจมองว่า "ยี้ น่าขยะแขยง เป็นตัวปัญหา เจ้าชู้ มีกิ๊กเยอะ " 55555
ถ้าจะถามว่าใครมองผิดมองถูก ไม่มีใครมองผิดและมองถูกครับ ขึ้นอยู่กับว่าท่านอยากจะให้ผมแสดงเป็นพระเอก หรือเป็นผู้ร้าย ผมเป็นได้ทั้งสองอย่างครับ
เป็นพระเอก....ดีจะได้กอดนางเอก .....เป็นผู้ร้าย.....ดีจะได้ฉุดนางเอก
Bookmarks