ชายหนุ่มคนหนึ่งรู้สึกว่าชีวิตของตนน่าเบื่อหน่าย
จึงขอพบพระอาจารย์เซ็นอู้จี้เพื่อขอคำชี้แนะ ว่าทำอย่างไรตนจึงจะมีความสุข
พระอาจารย์ไม่กล่าวว่าอะไร ได้แต่หยิบตะกร้าไผ่ใบหนึ่ง
นำชายหนุ่มมายังริมแม่น้ำเล็ก ๆ
ลมเย็นโบกพัด พวกเขาเดินเลาะริมฝั่ง
แล้วอยู่ ๆ พระอาจารย์อู๋จี้ก็บอกกับชายหนุ่มว่า

" เจ้าเห็นก้อนหินที่อยู่ตามทางนั่นไหม นับจากนี้เมื่อเจ้าเดินก้าวหนึ่ง
ก็จงหยิบขึ้นมาก้อนหนึ่ง แล้วใส่ไว้ในตะกร้าไผ่ข้างหลัง ตกลงไหม "

ถึงแม้ชายหนุ่มจะไม่เข้าใจเจตนาของพระอาจารย์
แต่เมื่อเห็นก้อนหินรูปทรงประหลาดมากมายริมแม่น้ำ
ก็พยักหน้าด้วยความยินดี พลางเดินหยิบก้อนหินไปพลาง
ไม่นานนัก เขาก็รู้สึกเหนื่อยล้า ตะกร้าไผ่ที่สะพายอยู่ด้านหลังก็หนักอึ้งเกินกว่าจะทำให้จิตใจเบิกบาน

ในที่สุดเขาก็เดินไปจนสุดทาง พระอาจารย์ถามเขาว่า
" รู้สึกอย่างไรบ้าง "

เขาส่ายหน้าอย่างจนใจ
" ตะหร้าหนักขึ้นเรื่อย ๆ แทบจะแบกไม่ไหวแล้ว ! "

พระอาจารย์กล่าวยิ้ม ๆ ว่า
" รู้ไหม เหตุใดจึงไม่เป็นสุข เพราะเจ้าแบกสิ่งของเอาไว้มากเกินไป "

จากนั้นพระอาจารย์ก็หยิบก้อนหินในตะกร้าออกมาทีละก้อน พลางพูดว่า..
" ก้อนนี้คืออำนาจ ก้อนนี้คือเงินทอง ก้อนนี่คือหญิงงาม ก้อนนี้คือความกลัดกลุ้ม นี่คือความเหงา..."

เมื่อก้อนหินเหล่านั้นถูกโยนทิ้งไป ชายหนุ่มสะพายตะกร้าไผ่ขึ้นมาอีกครั้ง
ความรู้สึกเบาโล่ง ทำให้เขาได้สติขึ้นในฉับพลัน
แค่วางลง ก็เป็นสุขแล้ว !

ขอเพียงแค่ยอมวางลง ความสุขก็จะล้นปรี่อยู่ทุกวัน
เราจงฝึกฝนการวางลงด้วยกันเถิด

ปล่อยวางตำแหน่งหัวโขนที่ทำให้กลัดกลุ้ม
ปล่อยวางการแพ้ชนะที่ชวนให้อ่อนล้า
ปล่อยวางความสูญเสียครั้งหนึ่งที่ทำให้หัวใจปวดร้าว
ปล่อยวางความสัมพันธ์ที่นำพาแต่ความทุกข์
ปล่อยวางความเจ็บปวดที่ ค้างคาใจ
ปล่อยวางความทุกข์ เศร้า เหงา ตรม..
ทำชีวิตให้กลับมาเรียบง่าย กลับมาสดใสอีกครั้ง

วางลง ก็เป็นสุข
วางลง ก็คือความสุข !


ที่มา : หนังสือ วางลง ก็เป็นสุข