เล็กๆน้อยๆของวงเสียงอีสาน

[heroman]

เสียงอีสานนำทีมด้วยเเม่นกน้อย อุไรพรครับผม

สิมีผูได๋คิดบ่ครับว่าตอนนี่วงเสียงอีสานฮอดขาลงเเล้ว ถึงแม้ว่าจะมีความอลังการของเวที หรือแม้กระทั่ง ดาราต่างๆที่อยู่ในวงมากก็ตามแต่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทำให้วงนี้ถึงคราวแล้วที่ต้องเรียกว่าขาลง (เหมือนดังเมื่อครั้งมีวงเพชรพิณทอง ที่เป็นอดีตและตำนานเเห่งสุดยอดวงหมอลำและตลกชื่อดัง)ดูจากงานของเสียงอีสานถ้าไม่มีคอนเสิร์ตเอ็ม150 สนับสนุนงานจะถือว่าน้อยมาก จากคำบอกเล่าของคนในวงเสียงอีสานบอกว่า ปีนี้งานน้อยกว่าทุกปี ที่บอกว่าน้อยคือเขารับงานกัน1เดือนมีว่างกันประมาณ1อาทิตย์ซึ่งปีก่อนๆมาไม่เคยเป็นเลย สังเกตุไหมว่าปีนี้เสียงอีสานปิดวงเร็วกว่ากำหนดหนึ่งเดือน
ในส่วนของตลกเสียงอีสานนั้นต้องเรียกว่าเก่งมากครับ แต่ว่ามุขจะเป็นแนวเดิมๆที่มีอยู่ในวงทั่วๆไปของวงหมอลำ (ไม่ใช่ไรหรอกครับผมผมเป็นคนชอบดูหมอลำฉะนั้นใครเล่นมุขไรมักจะรู้ทันบ้างและเสมอ) อีกอย่างตลกคนหนึ่งก็หายหน้าไปแล้วครับ ไม่รู้เพราะว่าอะไร แต่ที่แน่ทำให้ขาดสีสันไปบ้าง
เสียงอีสานเป็นวงใหญ่เวลาจะจ้างต้องพกตังไว้มากๆครับถึงจะได้ดู ไม่งั้นอดครับ วงปกติแสนกว่าบาทก็ดูได้แล้ว แต่นี่ ปาไปเกือ1 2 และ 3 แสน โอไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ที่แน่ๆคือวงเขาใหญ่ ชุดสวย น้กร้องเยอะ ตอนหมอลำเต้ยนั้นดีครับมีแต่เพลงช้าเป็นส่วนใหญ่จากที่ดูหน้าเวทีนะครับ ไม่ใช่ซีดี จะเป็นเพลงในค่ายและในวงตัวเองเท่านั้น อันนี้คอนเฟิร์ม
ค่าตัวของนักร้อง นักเเสดง หรือแม้กระทั่งตลกเค้าจ่ายกันเป็นรายปี จะมีเบิกล่วงหน้าบ้าง ทิปจะเป็นทิปหน้าเวทีของใครของมัน นักร้องดังๆอ่ยางปอยฝ้ายอย่างมากสุดก็ หนึ่งแสนบาทต่อปีครับ ส่วนนักเต้น ไม่ต้องพูดถึงประมาณไม่กี่หมื่นบาทครับ แต่ต้องยอมรับกันจริงๆว่าทำด้วยใน
เพื่อนผมเป็นดีเจ ค่อนข้างสนิทกับแม่นกน้อยบอกว่าแม่นกน้อยหัวครีเอทมากครับ ลงทุนตัดชุดใส่กัน จ้างช่างมาตัดกันเลยชุดละหลายหมื่นบาท อย่างว่าละครับ การค้าการลงทุนก็ต้องหวังผลกำไรบ้าเป็นธรรมดา แต่ชุดสวยๆของแม่นกน้อย หากดูดีๆจะมีฝนบ้าง มีบุญตาบ้างมีโอกาศได้ใส่ถ่ายมิวสิค หรือแม้กระทั่งออกงานของเอ็ม100 แต่ก็สวยดีนะเห็นฝนใส่ อันนี้ยืนยันจากเพื่อนที่เป็นดีเจอีกที
เชื่อไหมครับว่าแต่ละเรื่องที่นำรำเรื่องกันนั้นเป็นผลงานการประพันธ์ของ ตลกคนหนึ่งในเสียงอีสานครับ เก่งมากอันนี้ขอปิดชื่อนะครับ ไม่บอกว่าคนไหนปล่อยให้งง ไม่ว่าจะเป็นบทร้องบทรำ เขียนเองหมด ฮอยปานดำก็เขียนเอง อือ อันนี้ลองทายเล่นๆดู
วงใหญ่ขนาดนี้ย่อมมีเป็นธรรมดาของคนหมู่มากที่มีการขัดแย้งกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่เอ มีใครอยากรู้บ้างครับว่าทำไม นิกรน้อยเสียงสวรรค์ไม่อยู่วงนี้ละ อีกทั้งทำไมไหมไทย ออกจากวงนี้ทั้งๆที่เหลือสัญญากับบริษัทอีกหนึ่งปี น่าคิดไหมครับ

อย่างว่าหละคนในอยากออกคนนอกอยากเข้าเฮ้อ

ใดๆในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืน

--สิบล้อน้อย--
ด้วยความเคารพ
กระทู้นี้ไม่ได้สร้างความแตกแยกนะครับ
แต่เป็นความคิดส่วนตัวผมเท่านั้น

[หล่อร้อยเมตร]

อ่านแล่วบ่มีความคิดเห็นครับ หว่าแต่ได้เบิ่งฟรีข่อยบ่ขีน หม่วนบ่หม่วนกะเบิ่ง

[manu7]

เว้าถืกใจข่อยอ้ายเบิ่งฟรีสิเบิ่งฮอดแจ้งพุนแล้วเนาะ.......อันนี้บ่มีเงินแสนบ่ได้เบิ่งดอก........หมอลำนี้ม่วนเบิ้ดนะละบ่ต้องว่าวงใหญ่.........วงน้อยดอกเนาะ

[ไม่สวยแต่เร้าใจ]

เป็นจังซั่นติ้ บ่ได้เบิ่งโดนเลยบ่ฮู้ ขอบคุณอ้ายสิบล้อที่ให้ข้อมูล

[phoona]

มีเกิดมันต้องมีดับเนาะ เป็นธรรมดานั่นแหล่ะ นกน้อยเคยอยู่วงเพรชพิณทอง แล้วออกมาทำวงใหม่มันเป็นเรื่องปกติ ทุกคนต้องค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ พอใจ ไหมไทยกะคือกันเพิ่นกะทำในสิ่งที่ชอบคือกันนั่นแหล่ะ แฟนเพลงยังเหนียวแน่นคือเก่า ออกอัลบั้มใหม่แล้ว บ่าวพันธุ์พื้นเมือง ค่ายแกรมมี่โกลด์ CDวางแผงแล้ว ม่วนทุกเพลงจ้า หมอลำม่วนทุกคณะหล่ะเน๊าะไทเฮาสนับสนุนไว้ ศิลปะพื้นบ้านอีสานสิได้อยู่คู่อีสานตลอดไป น้อ :-* :-* :-*

[moshi]

คุยเรื่องอีหยังกานเนอะ เป็นตาม่วนนำแท้

[มั่วหน่าฮ่าน]

อือออ......ฮู้ไว้บ่เสียหาย 8)

[หนูป่าน]

เรื่องธรรมดาของวงการเพลงค่ะ..ไม่แปลกใจ

[obiyofiN]

"นิกรน้อย เสียงสวรรค์" ในร่มกาสาวพัสตร์

จากสามเณรนักเทศน์เสียงประยุกต์ สึกออกมาเพื่อมาเข้าวงการบันเทิงกับวง “เสียงอิสาน" เมื่อ 3 ปีก่อน จนกลายเป็นนักร้องแม่เหล็กของวงคนหนึ่ง

มาถึงวันนี้ นิกรน้อย ได้ละจากเวทีแสงสีเสียงหันกลับมาบวชเป็นพระอีกครั้งกับฉายา "สิทธิเตโช” (ชื่อจริง สิทธิเดช ไกรนอก) ที่วัดโนนสะอาด บ้านกุดขมิ้น หมู่ 7 ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นวัดเล็กๆ มีเพียงกุฏิและหอฉัน เก่าแก่ 2 หลัง มีพระลูกวัดรวมเจ้าอาวาสอยู่กันเพียง 4 รูป หลวงพี่ เล่าถึงชีวิตหลังจากละทางโลกว่า

“มาถึงวันนี้เหมือนกับว่าเราอยากจะพักผ่อน มีอาการเหนื่อย ส่วนหนึ่งก็คือ ต้องฉีดยาที่คอทุกวัน เพราะต้องใช้เสียงทุกวันยันรุ่งเช้า และมีอาการแพ้ฝุ่น แพ้อากาศเย็นเสียงก็แหบมาก บางวันแทบไม่มีเสียงเลยจนต้องใช้การฉีดยาเข้าที่คอช่วย และส่วนหนึ่งถือเป็นการบวชแทนคุณพ่อแม่ที่จากเราไปตั้งแต่เด็กด้วย ไม่ใช่ว่าท้อแท้ เหมือนกับว่ายังไม่ใช่เรา ซึ่งเรามีความชอบทั้งทางบันเทิง กับทางผ้าเหลือง ยังสองจิตสองใจอยู่ ในทางธรรมก็อยากจะไปปฏิบัติไปธุดงค์ อยากจะสละทางโลก ตอนเด็กๆ ชอบวาดรูปพระพุทธเจ้า อยากจะเป็นเหมือนท่านชอบผ้าเหลือง”

พระนิกรน้อยบอกถึงสาเหตุการบวชครั้งแรกว่า เกิดขึ้นหลังจากพ่อแม่ที่เสียชีวิต ส่วนความสนใจด้านร้องเพลงนั้น เริ่มจากสมัยเด็กเรียนอยู่ชั้นป.3 ไปสมัครแข่งขันร้องเพลง ทั้งไทยสากล หรือหมอลำ ตั้งใจว่า อยากจะเป็นนักร้อง แต่หลังจบป.6 ได้มาบวชเรียนต่อ และหลวงปู่ก็ชวนไปฝึกเทศน์แหล่ กับหลวงพ่อทองเพชร ทากวี เมื่อเทศน์แหล่เป็น อาจารย์ก็พาเดินสายเทศน์ไปทั่วประเทศ จนเกือบจะได้เป็นนักร้องเหมือนกัน

“อ.สรเพชร ภิญโญ (คนร้องและแต่ง “หนุ่มนาข้าว สาวนาเกลือ”) ไปเห็นเราเทศน์ ก็มาชวนให้สึก ไปเป็นนักร้องร้องเพลงแก้กับ พิมพา พรศิริ ที่กำลังดังในเพลง “น้ำตาเมียซาอุ” ซึ่งเขาแต่งเพลง “น้ำตาลูกซาอุ” ให้ จากนั้น เตรียมจะเข้าห้องอัด เกือบจะเป็นนักร้องแล้ว แต่เอาไปเอามา หลวงปู่ก็มาเตือนว่า ไม่อยากให้สึกไปเป็นนักร้องเพราะชีวิตไม่แน่นอน เรื่องนี้ก็เลยจบไป"

จุดเปลี่ยนทำให้มาอยู่วงเสียงอิสานนั้น พระนิกรน้อยเล่าต่ออีกว่า

“ช่วงนั้นก็ต้องเดินสายเทศน์ตลอด และตรงกับที่วงเสียงอิสาน กำลังดังมาก จนพระที่อยู่ด้วยกันที่วัดเอารูปส่งไปที่วงเสียงอิสาน เพียง 3 วันทางวงก็โทรมาว่าอยากดูตัวจนได้ไปอยู่เสียงอิสาน กว่า 3 ปี จนได้กลับมาบวชเป็นสามเณรอีกครั้งเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ก่อนเข้าพรรษาเพียง 1 วัน และเดินทางไปปวารณาตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่วัดบ้านไร่ ก่อนที่จะกลับมาอุปสมบทเป็นพระอีกครั้งที่วัดโนนสะอาด"

แม้อยู่ในผ้าเหลือง แต่ญาติโยมยังติดใจในลีลาการเทศน์ นิมนต์ไปแหล่ตามสถานที่ต่างๆ อย่างไม่ขาดสาย ซึ่งหลวงพี่นิกรตั้งใจไว้ว่าอยากสร้างโบสถ์ให้กับวัดแห่งนี้

“กิจนิมนต์ให้ไปเทศน์มีเข้ามาเยอะมากเกือบทั่วประเทศ งานบางครั้งก็ขัดไม่ได้ต้องไป ต้องกลับวัดถึง 5 ทุ่ม 6 ทุ่ม ก็มี ที่การเทศน์แหล่ เป็นกุศโลบายให้คนสนใจฟังธรรมะได้มากขึ้นด้วย อยากเจริญรอยตามหลวงพ่อคูณ หลวงปู่จื่อ วัดเขาตะเงาะ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ อยากไปธุดงค์ อยากจะซึ้งในรสพระธรรมให้มากกว่านี้ แต่ก็ต้องมีเหตุการณ์ให้กับมาแหล่อีกจนได้ ขัดญาติโยมไม่ได้ ถ้าสามารถดึงญาติโยมเข้าวัดจำนวนมากได้ ก็อยากจะให้ช่วยบูรณะสร้างวัดโนนสะอาดให้เจริญรุ่งเรืองมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะวัดก็ยังไม่มีโบสถ์ พระทั้งหมด 4 รูป ต้องปฏิบัติทำวัตรกันเองตามกุฏิ"

เมื่อถามถึงระยะเวลาในการบวชครั้งนี้ว่านานเท่าไร พระนิกรบอกว่า

“ถ้าเป็นไปได้อยากจะบวชตลอดชีวิต เพราะตั้งใจไปปวารณาตัวฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อคูณ แล้ว สิ่งที่อยากจะทิ้งท้ายว่า ขอฝากถึงญาติโยม แฟนเพลง คณะตลก ทีมงานเสียงอิสานทุกคน มาถึงวันนี้ก็อยากจะมาพักผ่อนร่างกาย และจิตใจ สุขภาพไม่ดี เสียงก็ไม่ค่อยมีแล้ว แต่จิตใจนั้นยังสู้และเป็นห่วง แต่ตอนนี้ในใจมันบอกไม่ถูกขออยู่อย่างสงบจิตใจก่อน และยังคิดถึงแฟนเพลงทุกคนอยู่ตลอดเหมือนเดิม” พระนิกรน้อย กล่าวทิ้งท้าย

:g:g:g:g:g:g

[obiyofiN]

ไหมไทย อุไรพร นักร้องแม่เหล็กคนหนึ่งของวงเสียงอิสานของนกน้อย อุไรพร กลายเป็นอดีตสมาชิกวง "เสียงอิสาน" แล้ว หลังร่วมงานมากว่า 15 ปี ระดมเพื่อนเปิดวงหมอลำ "ไหมไทยคนเดิม"

ไหมไทย อุไรพร กล่าวกับทีมข่าว "คม ชัด ลึก" ถึงการแยกตัวออกมาจากวง "เสียงอิสาน" ว่าอยากออกไปหาแนวทางเป็นของตัวเอง

"ผมหมดสัญญากับทางวง "เสียงอิสาน" เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา ผมเข้าไปลาแม่นกน้อย อุไรพร และนายห้างทวีชัย จริยะเอี่ยมอุดม เจ้าของท็อปไลน์ ซึ่งทางผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่งานเพลงชุดใหม่นั้นคงต้องระงับไป ทางค่ายก็ให้คนอื่นมาร้องแทน ผมอยู่กับวงมา 15 ปีเต็มตั้งแต่วงมีรถบัสคันเดียว ผมภูมิใจที่ได้มีโอกาสอยู่กับวงหมอลำที่สมบูรณ์แบบที่สุด มันก็ต้องหาแนวทางของตัวเองครับ"

นักร้องผู้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวกล่าวถึงสาเหตุที่ออกมาจากวงครั้งนี้ว่า ถ้าอยู่ไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นมา สู้ออกมายืนด้วยตัวเองจะดีกว่า ส่วนจะไปรอดหรือไม่ก็พร้อมเดิมพันด้วยชีวิต

"มันอยู่ไปก็เดิมๆ ผมรับใช้วงมาถึง 15 ปี หลายคนถามว่า อยู่มานานแล้วคงมีเงินเก็บมาก มันพูดยากครับถ้าคนที่เป็นแฟนเพลงผมจะทราบว่าเป็นอย่างไร ผมไม่อยากพูดอะไรมันจะไม่ดี ยอมรับว่ามันมีทั้งสุขและทุกข์ ชีวิตของศิลปินก็แบบนี้แหละ แต่ก่อนมีข่าวออกมาเกี่ยวกับตัวผมมากมาย จริงบ้างไม่จริงบ้าง แต่ผมก็รักอาชีพนี้ การออกมาทำวงเป็นของตัวเองนั้น ผมรู้ว่ามันหนักแต่ก็พร้อมจะพิสูจน์ตัวเอง และเอาชีวิตเป็นเดิมพันครับ"

อดีตคู่หูของลูกแพร อุไรพร กล่าวต่อถึงเส้นทางข้างหน้าว่า อยู่ในระหว่างรวมตัวกับกลุ่มเพื่อนก่อตั้งวงหมอลำและเตรียมออกแสดงในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ แม้สถานการณ์วงหมอลำตอนนี้ไม่ค่อยดีก็ตาม

"ผมทำวงหมอลำกับพี่ๆ เพื่อนๆ ที่ศรัทธาในตัวผมชื่อวง "ไหมไทยคนเดิม" มีสมาชิกประมาณ 300 คน ตอนนี้กำลังซ้อมกันอยู่ที่บ้าน คาดว่าเดือนตุลาคมจะเริ่มรับงานได้ ตอนนี้วงหมอลำลำบากจริงๆ ครับ เศรษฐกิจไม่ดี ผมเลยไม่กล้าตั้งราคาสูงเริ่มต้นที่แสนสี่ แสนห้า ก็ไม่ได้ทิ้งแฟนเพลงไปไหนยังอยู่ อยากให้พิสูจน์ผลงานวงหมอลำของผมได้ กะว่าถ้าไปไม่รอดก็จบ ผมเอาชีวิตมาการันตีการทำงานครั้งนี้"

เมื่อถามถึงเรื่องงานเพลงกับการเข้าสังกัดค่ายใหม่ ไหมไทย บอกว่า ตอนนี้ยังไม่มีจะขอทำงานกับสมาชิกในวงไปก่อน แต่ก็พร้อมเจรจากับทุกค่ายเพลง

"เรื่องสังกัดตอนนี้ผมยังเป็นอิสระอยู่ งานเพลงก็อยากทำครับ แต่ผมคงไม่มีทุนที่จะไปทำเอง ที่ผ่านมาก็เคยไปคุยกับค่ายลาวัลย์เอนเตอร์เทนเมนท์ แต่ก็คุยกันผ่านๆ เท่านั้น ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากพร้อมจะคุยข้อเสนอกับทุกค่าย มีแฟนเพลงแนะนำให้ไปอยู่ค่ายเพลงหลายแห่ง แต่ผมคงไม่ไปดิ้นรนอะไรมาก ตอนนี้ขออยู่กับสมาชิกในวงไปก่อน"

ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวความขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องการถูกเอารัดเอาเปรียบเรื่องค่าตัวของนักร้องในวงหมอลำต่างๆ ในภาคอีสาน จนนำมาซึ่งข่าวลือต่างๆ มากมายเกี่ยวกับไหมไทย และเสียงอิสาน แต่เรื่องทุกอย่างก็เงียบหายไป
:g:g:g:g:g:g:g:g:g:g:g:g:g:g:g:g:g