เมื่อสมัยที่ผมเป็นทหารเกณฑ์ พอขึ้นกองร้อย งานส่วนมากก็เป็นการทำงานโยธา ถางหญ้าเก็บกวาดขยะรอบ ๆ กองพัน และเข้าเวร
วันหนึ่งมีการคัดเลือกทหารเพื่อไปประจำที่บ้านพักนายทหารโสด ซึ่งมีนายทหารทั้งใหม่และเก่า ยศตั้งแต่ร้อยตรีจบใหม่ ถึง พันตรี ไม่มีใครสมัครใจไปสักคน เพราะอยู่กองร้อยมีเพื่อน และมีผลัดลากลับบ้านเดือนละครั้ง ๆ ละ 10 วัน สบาย ๆ
ผู้บังคับกองร้อยเรียกพวกเรามาเข้าแถวเพื่อคัดเลือกคนหน้าตาดี ปรากฎว่ารางวัลแจ๊คพ็อตมาลงที่ผมและเพื่อนผมอีกคนหนึ่ง เราทั้งสองต้องหอบเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเดินลัดเลาะไปด้านหลังกองร้อย เข้าไปอยู่ในบ้านพักนายทหารโสด
มีนายทหารโสดและไม่โสดแต่บ้านอยู่ต่างจังหวัด รวมกันอยู่ 5 คน มีรถจี๊ฟให้คนละคัน ผมและเพื่อนทำหน้าที่ซักผ้า ขัดรองเท้า ดูแลที่หลับที่นอน การอยู่การกินให้ทุกคน เสมือนว่าผมจบหลักสูตรการโรงแรม :l-
ตอนเย็นก่อนนอนก็ขัดรองเท้าคอมแบต (ขัดแบบวนน้ำ) ให้ท่าน ตื่นเช้าไปดูที่เล้าเป็ด ได้ไข่เป็ดมาก็เอามาต้มบ้างทอดบ้าง เข้าไปดูในห้องนอนจัดที่นอน พับผ้าห่ม ดึงที่นอนให้ตึง ออกมาล้างรถจี๊ฟ
อีกคนถือหม้อข้าวไปโรงเลี้ยงไปรับอาหารจากโรงเลี้ยง พวกเราช่วยกันจัดโต๊ะกับข้าวให้ท่านรับประทาน และยืนกุมเป้าคอยรับใช้จนกว่าท่านจะทานข้าวอิ่ม ก็เก็บสำรับไปล้าง
เมื่อท่านทั้งหลายไปทำงาน พวกเราก็ซักเสื้อผ้า ถุงเท้า (ยกเว้นกางเกงใน) ถูพื้น ทำความสะอาดห้องน้ำ ตอนเที่ยงท่านมาพักก็หาน้ำดื่มให้ท่านดื่ม หากท่านบ่นว่าปวดคอก็นวดให้ท่าน
ตอนเย็นหลังเลิกงานท่านทั้งหลายก็ไปตีกอล์ฟ พวกเราก็วิ่งเก็บลูกกอล์ฟให้ท่าน บางทีท่านตีตกน้ำก็ลงไปงมให้ท่าน พอเสร็จก็เอาลูกกอล์ฟไม้กอล์ฟมาเช็ดก่อนเข้าถุงให้ท่าน
พวกเรามีชีวิตอยู่แบบนี้เกือบปี ขอขึ้นกองร้อยหลายครั้ง ผู้บังคับกองร้อยก็ไม่อนุญาตบอกว่าเชื่อมือ ๆ พวกเราเคยชวนกันหนีเพราะรู้สึกเบื่อ อีกอย่างงานบ้านเป็นงานที่เหนื่อยกว่าอยู่กองร้อย จู้จี้จุกจิกเป็นงานที่ไม่รู้จักจบสิ้น ลาพักก็ไม่ได้ลาเหมือนเพื่อนที่อยู่กองร้อย...เซ็ง
หากใครคนใดคนหนึ่งลา ก็ไม่หาคนมาเพิ่มให้พวกเรา คนที่อยู่ก็เหนื่อยแบบอ่วมอรทัย พวกเราปรึกษากันในตอนเที่ยงของวันหนึ่ง มองดูรั้วกองพันว่าพวกเราจะหนีออกไปทางไหนดี และจะไปต่อรถที่ไหน ตกลงกันว่าจะหนีออกไปทางป่าอ้อยด้านข้าง เดินเลาะออกไปโผล่ไกล ๆ และต่อรถเข้าเมือง
พอตอนเย็นพวกเราก็ได้รับข่าวดี (หรือข่าวร้ายก็ไม่รู้) ให้เพื่อนผมไปประจำอยู่บ้านพักของรองผู้บังคับกองพัน ส่วนผมไปประจำอยู่บ้านผู้บังคับกองพัน พวกเรามองหน้ากัน ท่านก็ไม่ถามสักคำว่าพวกเราอยากไปหรือไม่อยากไป
พวกเราอยู่บ้านคนละหลัง ทำงานบ้านเหมือนอยู่บ้านพักนายทหารโสด แต่งานไม่มากถึงขนาดนั้น ท่านผู้บังคับกองพันท่านพักอยู่คนเดียว ครอบครัวท่านอยู่ในกรุงเทพฯ
ตอนเช้าหุงข้าว เช็ดรถกระป๋องประจำตำแหน่ง ปั่นจักรยานไปซื้อแกงถุงมาเปิดให้ท่านรับประทาน เมื่อท่านไปทำงานก็ซักเสื้อผ้า ตากผ้า กวาดบ้านถูบ้าน ตัดกิ่งไม้รอบ ๆ บ้าน ก็มานั่งพักคุยกับเพื่อนที่เป็นทหารประจำตัวด้วยกันจากหน่วยอื่น ที่มีบ้านติดกันเพื่อคลายความเหงา
(โปรดติดตามตอนที่ 2)
Bookmarks