กำลังแสดงผล 1 ถึง 4 จากทั้งหมด 4

หัวข้อ: กุดสะราชชาดก สังข์สินไซ หรือ สังข์ศิลป์ชัย ตอนที่ 3

  1. #1
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ อ้ายทิดใจ
    วันที่สมัคร
    May 2012
    ที่อยู่
    LA
    กระทู้
    122
    บล็อก
    1

    ความเยือกเย็น กุดสะราชชาดก สังข์สินไซ หรือ สังข์ศิลป์ชัย ตอนที่ 3

    สีโห สังข์ และสินไซมีความกตัญญูคิดตอบแทนบิดาจึงรับปากจะไปด้วย แต่นางจันทากับนางลุนไม่เชื่อพยายามห้ามปรามแต่ก็ขัดไม่ได้ ในที่สุดก็สั่งสอนว่าให้ระวังตัวให้ดี เพราะในป่ามีอันตรายมาก ศรศิลป์ และพระขรรค์ต้องกระชับในมือตลอดเวลา เมื่อได้พบอาสุมนทาก็อย่าไว้ใจมากนักเพราะอาจติดนิสัยยักษ์มาบ้าง สินไซจงดูแลพี่น้องให้ดีอย่าทอดทิ้งกัน และสุดท้ายอย่าไว้ใจท้าวทั้งหกนี้ จากนั้นจึงอำลาแม่แล้วออกเดินทาง จนกระทั่งได้พบกับด่านต่างๆ ดังต่อไปนี้

    ด่านแรกคือ “ด่านงูซวง” คือ “งูใหญ่” มีความยาวเท่ากับเชือกล่ามวัวร้อยตัว มีตาสีแดง พ่นพิษออกมาเป็นไฟ ท้าวทั้งหกกลัวจึงขอเดินทางกลับ แต่สินไซใช้ดาบฟันงูขาดเป็นท่อน แล้วออกเดินทางต่อไป จนกระทั่งถึงแม่น้ำสายที่หนึ่งใหญ่ กว้างหนึ่งโยชน์ ท้าวทั้งหกชวนกลับและบอกว่าพ่อคงไม่เอาโทษอะไร แต่สังข์ออกเดินทางไปก่อน สินไซออกตามไปโดยให้สีโหอยู่เฝ้าน้องทั้งหก สังข์แปลงกายเป็นเรือให้สินไซขี่ข้ามแม่น้ำไปได้


    จนถึงภูเขาและพบกับด่านที่สอง คือ “ด่านยักษ์กันดาร”หรือ“ด่านวรุณยักษ์” เป็นด่านที่อัตคัดลำบากไม่สะดวกสบายขาดแคลน เป็นยักษ์ดุร้ายจึงฟันคอยักษ์ขาดตายไป สินไซก็ตามรอยหอยสังข์ที่ล่วงหน้าไปก่อนจนพบแม่น้ำสายที่สอง กว้างสองโยชน์ สังข์แปลงกายเป็นเรือให้สินไซขี่ข้ามไปได้อีก ระหว่างทางสินไซระลึกถึงพระคุณแม่อยู่ตลอด จนกระทั่งพบด่านที่สามคือ “ด่านช้างหลายแสนตัว” มี “พระยาฉัททันต์”เป็นหัวหน้า มันโกรธตาแดงขู่ว่าจะฆ่าสินไซ สินไซจึงใช้ศรยิงล้มลงระเนระนาด มันจึงยอมบอกว่าเคยเห็นยักษ์อุ้มนางสุมนทาเหาะผ่านไปทางนี้ ขออโหสิกรรม และยอมให้ขี่คอพาไปส่งจนสุดแขตแดนของตนเอง สินไซสอนให้ช้างอย่าทำร้ายเบียดเบียนคนอื่น จากนั้นก็เดินทางต่อไปจนพบแม่น้ำสายที่สาม กว้างสามโยชน์ สินไซก็ขี่สังข์จนพ้นข้ามไปได้และพบกับด่านที่สี่คือ“ด่านยักษ์สี่ตน”ได้แก่ “กันดานยักษ์” “จิตตยักษ์” “ไชยยักษ์” และ “วิไชยยักษ์”ได้สู้รบกันสินไซปราบยักษ์ทั้งหมดเสร็จแล้วก็เดินทางต่อไปตามรอยหอยสังข์ จนพบกับแม่น้ำสายที่สี่ที่กว้างสี่โยชน์ สังข์พาสินไซข้ามไปได้ แล้วรีบเร่งเดินไปถึงภูเขาใหญ่ดำทะมึนมีบ่อแก้ว บ่อเพชรเป็นน้ำเพชรไหลออกมามีสีสันแวววาวระยิบระยับ เห็นวิมานของ “พญาธร” ถ้ำเพชร เห็นต้นนิโครธ เดินทางผ่านภูเขาเป็นหมื่นๆลูก จนเข้าเขต “ยักษ์ขินี”เป็นด่านที่ห้า คือ “ด่านยักษ์ขินี” เป็นหญิงอายุมากกว่าสินไซ พอเห็นสินไซก็เกิดกามราคะกำหนัดจึงเนรมิตศาลาที่พักอาหารการกินพร้อมบริบูรณ์รอรับแปลงกายเป็นหญิงสวยดั่งนางฟ้า เชิญชวนให้สินไซพักผ่อนบอกว่าเป็นธิดาเจ้าเมืองหลงมาอยู่ในป่าขอเป็นคู่ แม้เพียงได้หลับนอนด้วยก็ดี สินไซเดินหนีไปมันจึงวิ่งตามและพูดว่าถ้ามีเมียแล้วขอเป็นเมียน้อยก็ได้ ตอนแรกสินไซก็นึกเอ็นดูว่าน่ารักแต่พอพิจารณาดูเห็นแววตากระด้างก็รู้ว่าไม่ใช่คนจึงรีบเดินหนี มันเดินตามเจรจาต่อรองต่างๆไปจนสุดเขตแดน เขตแม่น้ำ เมื่อเห็นว่าไม่ทันมันจึงตะโกนด่าว่าอย่างหยาบคาย หากสินไซขาดสติคงแย่แน่นอน แต่ก็ควบคุมสติได้ และเดินทางต่อไป

    จนพบแม่น้ำสายที่ห้า กว้างห้าโยชน์มีฟองเป็นสีขาว จึงรีบขึ้นขี่หอยสังข์ไประหว่างนั้นคิดถึงแม่และป้าที่จากมาอย่างมาก จนผ่านเข้าเขตด่านที่หกคือ “ด่านนารีผล”หรือ “มักลีผล” เป็นรมณียสถานที่หมู่พระสงฆ์หรือสมณะ ดาบส ฤๅษี วิทยาธร มาเที่ยวเล่น เป็นต้นไม้มีดอกสีส้มเป็นหญิงสาวสวยงาม ศีรษะติดกับขั้วร่างเปลือยหย่อนลงมาถึงพื้น สินไซเที่ยวชมไม่นานก็มี“วิทยาธร”มาแย่งไป เกิดการแย่งกันหลายกลุ่ม สินไซก็สามารถรบชนะวิทยาธรแล้ว ก็เดินทางต่อไปจนพบกับแม่น้ำสายที่หกกว้างหกโยชน์ จึงลงเรือสังข์ข้ามต่อไป จนขึ้นสู่ดินแดนยักษ์เป็นด่านที่เจ็ดชื่อ “ด่านยักษ์อัสสมุขี” อยู่ภูเขาชื่อเวละบาดหรือเวรระบาด นางยักษ์ผีเสื้อ “ชื่ออัสสมุขี”มีหน้าเหมือนสุนัข รีบมาอุ้มเอาสินไซวิ่งไป สินไซถามว่าจะพาอุ้มไปไหน นางก็ตอบว่าจะเอาไปทำผัว สินไซอ้อนวอนให้ปล่อยแต่ก็ไม่ยอมปล่อย สินไซจึงใช้พระขรรค์ตัดคอยักษ์ขาดตายไป บนภูเขานี้มีต้นกาลพฤกษ์มีดอกเป็นเสื้อผ้าอาภรณ์ดั่งเครื่องทรงของเทพ สินไซจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่งามอย่างเทพบุตร ที่นี่มีบ่อแก้วบ่อเพชรเต็มไปด้วยเพชรนิลจินดา น้ำใสสะอาด สินไซพักหนึ่งราตรีแล้วเดินทางต่อไป จนพบด่านที่แปดคือ “ด่านเทพกินรี” ที่ผาจวงถ้ำแอ่น หมู่กินรีร่างเป็นคนมีปีกมีหางเหาะเหินได้เหมือนนก เป็นหมู่ธิดาของเทพ ที่นี่สินไซได้พบ “นางเจียงคำ” (เจียงแปลว่า แรก ต้น หนึ่ง) จึงได้นางเป็นเมียและสัญญาว่าหากธุระต่างๆเรียบร้อยดีแล้วจะมารับนางไปเป็นมเหสีอยู่ปกครองบ้านเมืองสืบไป


    credit:www.sujipuli.com

  2. #2
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ ณัฐ ภูไท
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    กระทู้
    747
    ขอบคุณหลายที่หาแนวมาให่อ่านมักยุมว้นอ่านแล้วอยากอ่านตอนที่สี่ที่ห้าขอบคุณล่วงหน้าตอนต่อไป:*-

  3. #3
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ pcalibration
    วันที่สมัคร
    Nov 2008
    ที่อยู่
    เมืองฉะเชิงเทรา(แปดริ้ว)
    กระทู้
    1,883
    บล็อก
    1
    เคยได้อ่านครับในหนังสือใบลาน
    และเคยได้เบิ่งตอนเป็นเด็กน้อยในรูบแบบหนังบักตื้อ(หนังประโมทัย)
    เป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่งที่หาดูยากแล้วคงมีในหอสมุดหรือพิพิธภัณฑ์ท่้นั่น

  4. #4
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ lungyai1123
    วันที่สมัคร
    Oct 2008
    กระทู้
    3,644
    บล็อก
    63
    เคยได้ฟังนิทานครับม่วนๆๆๆๆถ้าคืนไหนไม่ได้ฟังนอนไม่หลับ

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •