ครั้นรุ่งเช้าชายหาหญ้าคนหนึ่งไปพบซากยักษ์ที่หนองน้ำ ก็ร้องประกาศว่ายักษ์ตายแล้ว พระยาจำปาทราบดังนั้นก็ดีพระทัยมาก จึงให้ไปรับนางสีดากลับเข้าวัง นางสีดาได้เล่าเรื่องชายผู้มีอิทธิฤทธิ์ให้ฟัง พระยาจำปาจึงให้ประกาศหาชายผู้มีฤทธิ์คนนั้น สั่งให้ทหารไปเกณฑ์ชายหนุ่มทั้งเมืองให้นำผ้ามาต่อกับชายผ้าที่ระลึกของนางสีดา มีผู้อาสามากันมากมาย แต่ไม่มีใครมีผ้าเป็นผืนเดียวกัน ทหารจึงทูลว่ามีชายหนุ่มที่อยู่อาศัยกับแม่เฒ่าในสวนไม่ยอมมา พระยาจำปาจึงให้ทหารไปตามถึงสามครั้ง ครั้งหลังพระยาจำปาจะฆ่าทหารถ้านำตัวมาไม่ได้ ท้าวคัชนามเห็นดังนั้นจึงมาที่ท้องพระโรง และนำผ้าแสนคำผืนนั้นมาต่อกับผ้าของนางสีดา พระยาจำปาเห็นดังนั้นก็ดีพระทัยที่เห็นท้าวคัชนามบุรุษผู้มีฤทธิ์ และมีบุญญาธิการมาช่วยปราบยุคเข็ญ เจ้าเมืองจึงยกพระราชธิดานามว่า “พระนางสีดา”ให้เป็นมเหสีฝ่ายขวา และให้ “นางสีไล”ลูกสาวมหาเศรษฐีเมืองนี้เป็นมเหสีฝ่ายซ้ายอีกด้วย โดยพระยาจำปาจัดงานสมโภชในการครองเมืองของท้าวคัชนามด้วย ส่วนซากยักษ์นั้นท้าวคัชนาม ได้นำไปทิ้งในหนองน้ำเรียกว่า “หนองแช่” ในปัจจุบัน กระดูกของยักษ์ส่วนหนึ่งกลายเป็นนาค ๕ ตัวในแม่น้ำโขง และกระดูกชิ้นเล็ก ๆ กลายเป็นปลาบึก ปลาเลิม ในแม่น้ำโขงนั่นเอง
ต่อมาท้าวคันธนามได้ล่ำลาเจ้าเมือง พระมเหสีทั้งสองและชาวเมืองออกติดตามหาบิดาพญาช้างฉัททันต์ต่อไป จนเข้าสู่เขต“ป่าหิมพานต์”ก็ได้พบกับบิดาพญาช้างสมปรารถนา พญาช้างได้สั่งสอนลูกชายต่างๆนาๆ และได้มอบงาทั้งคู่ให้เมื่อพญาช้างสิ้นอายุแล้ว ท้าวคันธนามก็จัดการทำพิธีศพให้บิดาเสร็จแล้ว ก็ได้ขี่ช้างเดินทางกลับบ้านเมืองของตน

ครั้นเมื่อเดินทางถึง “เมืองตักสิลา”ก็ได้ทำสงครามกับเจ้าเมืองนี้ และก็ได้รับชัยชนะ และก็ได้ไว้ชีวิตเจ้าเมืองนี้ด้วย ส่วน“ท้าวตักสิลา”นั้นเป็นคนเจ้าเล่ห์ หลอกตั้งให้ท้าวคันธนามเป็นครูอาจารย์ช่วยสอนศิลปศาสตร์ให้ แล้วก็หลอกเอาไม้เท้าแล้วชี้ให้ท้าวคันธนามกลายเป็นแท่งหินอยู่ ณ เมืองตักสิลานั้นเอง

ฝ่ายเมืองจัมปากนคร บัดนี้พระโอรสของท้าวคันธนามที่เกิดจากนางสีไลชื่อว่า “คัชเนก” และ “คัชจันทร์”ซึ่งเป็นโอรสที่เกิดจากนางสีดา ได้โตเป็นหนุ่มทั้งคู่ ก็คิดถึงท้าวคันธนามพระบิดา จึงล่ำลาพระมารดาออกติดตามหาพระบิดา จนมาถึงเมืองตักสิลา จึงได้รบกับเจ้าเมืองและก็ชนะ แล้วก็ได้ไม้เท้าวิเศษกลับคืนมา จึงใช้ไม้เท้าชี้แท่งหินให้พระบิดาคันธนามฟื้นคืนมา แล้วก็ยกเมืองตักสิลาให้พระบิดาปกครองพร้อมกับทูลเชิญพระมารดาของทั้งสองพระองค์มาอยู่ที่เมืองตักสิลานี้ด้วยกัน แล้วโอรสทั้งสองก็ขอลาพระบิดาและพระมารดาเดินทางกลับเมืองจัมปากนครของตนเองต่อไป


เครดิต : ศิษย์ตถาคต (www.sujipuli.com)