ช่องว่างของกฎหมายทำให้พวกหัวหมอใช้กฎหมายเป็นช่องว่างในการกระทำความผิด ยิ่งกฎหมายมีความสลับซับซ้อนมากเท่าใด ช่องว่างก็ยิ่งจะมีมากขึ้นเท่านั้น นักวิชาการกฎหมายหลายท่านพยายามที่จะอุดช่องว่างของกฎหมาย ในขณะที่หลายท่านพยายามที่จะเปิดช่องว่างให้กว้างขึ้น
การห้ามเดินลัดสนาม บางคนก็วิ่ง การห้ามทิ้งขยะ บางคนก็เหน็บตามตู้โทรศัพท์ตามป้ายรถเมล์ ห้ามติดป้ายโฆษณา บางคนก็เขียนและพ่นตามสถานที่ต่าง ๆ ห้ามวางของขายตามสะพานลอย และบาทวิถี (ทางเท้า) ก็เอาของห้อยคอขายซะเลย คนตรวจกับคนขายนั่งอยู่คนละฝั่ง ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
ห้ามวางขายหนังโป๊ ก็ใช้วิธีสะกิดเอา ผมมักจะโดนสะกิดเป็นประจำ "พี่ ๆ โป๊ไหมครับพี่" สงสัยคงเห็นหน้าผมหื่น...กระมัง ? :l-
สมัยก่อนบ้านเราจะมีหนังล้อมผ้า มีมวย มีรำวง อาจจะรวมกันโดยการจ่ายเงินครั้งเดียวดูได้ทุกอย่าง หรืออาจจะแยกกันโดยที่มวยต่างหาก รำวง หนัง ก็ตามที
ผมมักจะได้รับหน้าที่ให้ยืนอยู่หน้าประตู คอยฉีกหางบัตร และตรวจอาวุธ พวกมีดปลายแหลม สนับมือ และอาวุธที่น่ากลัวที่สุดคือ เหล็กขูดชาร์ป ที่ว่ากันว่าเป็นแผลที่เย็บยากที่สุด
โดยเฉพาะสนามมวย และเวทีรำวง จะต้องกวดขันเป็นพิเศษ แต่ก็ยังมีพวกหัวใสพกอ้อยลำเขื่องและยาวเข้าไปในงาน เป็นอ้อยลำใหญ่เรียกได้ว่าตีหัวใครเป็นต้องสลบพอ ๆ กับไม้หน้าสามเลยทีเดียว
พวกเรายึดอ้อยไว้...ก็เถียงคอเป็นเอ็น บอกว่าจะเอาไปกินในงานเพราะไม่มีเงินซื้อขนมกิน พวกเราก็ใช้กลอุบายขอกินอ้อยจนหมดทั้งลำ ถ้ามี 10 ลำ สงสัยเป็นเบาหวานแน่
"อะไรก็ตามโดยสภาพของมันแม้ไม่ใช่อาวุธ แต่ได้ใช้มันอย่างอาวุธ กฎหมายถือว่าเป็นอาวุธ"
ถ้าจัดงานกลางทุ่งนาช่วงเก็บเกี่ยวเสร็จ พวกหัวไสก็พากันหอบฟางมาใกล้ ๆ ผ้าที่อ้อมไว้ และจุดไฟเผาฟาง เพื่อให้เปิดผ้าออก :l-
แต่ถ้าใครที่ไม่มีเงินจริง ๆ ก็จะรอไปรอบ "หมาจ่อย" คือช่วงที่หนังฉายไปได้ประมาณครึ่งเรื่องหรือหนึ่งเรื่องทางทีมงานก็จะรื้อผ้าที่อ้อมไว้เก็บนั่นเอง ซึ่งผมมักจะไปรอบนี้เป็นประจำ
Bookmarks