กฎหมายห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ประกอบการ

คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติเห็นชอบกฎหมาย 3 ฉบับ ห้ามขาย ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในโรงงาน รัฐวิสาหกิจ และห้ามดื่มบนทางขณะขับขี่ หรือโดยสารบนรถทุกประเภท

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ พร้อมด้วยนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2555 และให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมฯ เห็นชอบร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี 3 ฉบับได้แก่

1.ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการห้ามขาย หรือห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ประกอบกิจการ โรงงาน ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ในส่วนที่เป็นอาคาร สถานที่ หรือมียานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังรวมตั้งแต่ 5 แรงม้าขึ้นไป หรือใช้คนงานตั้งแต่ 7 คนขึ้นไป ไม่ว่าจะใช้เครื่องจักรหรือไม่ก็ตาม เพื่อไม่ให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ง่าย เพราะอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่กำลังทำงานอยู่ในโรงงาน ยกเว้นพื้นที่สโมสรหรือที่พักอาศัย และกรณีโรงงานผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ขายตามปกติทางธุรกิจ และการดื่มที่เป็นขั้นตอนการผลิต หรือเพื่อรักษามาตรฐานการผลิต ซึ่งประกาศฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 90 วันหลังจากลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา

2.ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องการห้ามขาย หรือห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ พ.ศ. …… โดยห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ หรือบริเวณรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ยกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นร้านค้า หรือสโมสร และห้ามผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ หรือบริเวณรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ยกเว้นในบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล หรือสโมสร หรือการจัดเลี้ยงตามประเพณี โดยประกาศฉบับนี้ไม่บังคับใช้กับองค์การสุรา โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา และ

3.ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทางสาธารณะขณะขับขี่ หรือโดยสารอยู่บนรถทุกประเภท

โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยตรวจสอบถ้อยคำ ให้ถูกต้องสละสลวยตามหลักกฎหมายอีกเล็กน้อย แล้วส่งให้นายกรัฐมนตรีลงนาม เพื่อประกาศใช้ต่อไปในเร็วๆ นี้
หมายเหตุ เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ วันที่ 8 สิงหาคม 2555

ข้อมูลจาก MCOT