หลายคนคงจำได้นะครับ....ช่วงดึก ๆ หลังเที่ยงคืนของคืนวันหนึ่งเมื่อปี 2539 พวกเราคงได้ยินคนไทย โดยเฉพาะชุมชนในกรุงเทพฯ ลุกขึ้นมาไชโยโห่ร้อง และร้องเพลงชาติกันกระหึ่ม กับเหรียญทองเหรียญแรกของคนไทยในมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ....กีฬาโอลิมปิก..........แอ่น...แอน...แอ๊น......
เรือเอก สมรักษ์ คำสิงห์ ร.น. คือนักกีฬาทีมชาติไทยคนแรก ที่ได้รับรางวัลเหรียญทอง จากการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น ในกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 26 ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2539
พ.ศ. 2538 สมรักษ์ได้เหรียญทองจากกีฬาซีเกมส์ที่เชียงใหม่ และผ่านการคัดเลือกไปแข่งกีฬาโอลิมปิกรอบสุดท้ายได้
สมรักษ์โด่งดังถึงที่สุดในปี พ.ศ. 2539 เมื่อสมรักษ์สามารถคว้าเหรียญทองจากโอลิมปิกมาได้ โดยชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ จากบัลแกเรีย ด้วยคะแนน 8-5
เส้นทางสู่ทองประวัติศาสตร์เริ่มจากรอบแรกเอาชนะแดเนี่ยล เซต้า นักชกเปอร์โตริโก 13-2, รอบสอง ชนะฟิลิป เอ็นดู จากแอฟริกาใต้ 12-7, รอบสามหรือรอบก่อนรองชนะ รามาส พาเลียนี่ จากรัสเซีย 13-4 นั่นหมายถึงว่าได้เหรียญทองแดงคล้องคอไว้แล้ว และสมรักษ์ชนะ พาโบล ชาคอน จากอาร์เจนตินาไปได้ 20-8 และท้ายที่สุดเอาชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ จากบัลแกเรียไปได้
ซึ่งก่อนการชกในรอบชิงชนะเลิศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารได้พระราชทานกระเช้าผลไม้มายังสมรักษ์และทีมงานพร้อมทั้งทรงอวยพรให้สมรักษ์ได้รับชัยชนะด้วย โดยการแข่งขันโอลิมปิคในครั้งนี้ สมรักษ์ ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า "Kamsing Somluck" โดยเจตนาให้มีนัยทางโชคด้วย (แต่ผู้บรรยายภาษาอังกฤษอ่านออกเสียงว่า คำซิง สมลุก)
ซึ่งการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกในครั้งนี้ การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ได้ออกแสตมป์ที่มีรูปการชกรอบชิงชนะเลิศของสมรักษ์ ราคาดวงละ 6 บาท มาด้วย เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์นี้ และทางกองทัพเรือ (ทร.) ต้นสังกัดก็ได้เลื่อนยศให้สมรักษ์ เป็น เรือตรี (ร.ต.) ซึ่งเดิมสมรักษ์มียศเป็น จ่าเอก (จ.อ.)
----------------------------
ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย
ลิขสิทธิ์บน YouTube Credit By : https://www.youtube.com/watch?v=g_Br2kUHv4s&feature=player_embedded
สมรักษ์ คำสิงห์ กับเหรียญทองเหรียญแรกของไทย
ลิขสิทธิ์บน YouTube Credit By : https://www.youtube.com/watch?v=bTElwXZrurI&feature=related
สมจิตร จงจอหอ วีระบุรุษเหรียญทอง ปี 2008 (ปี พ.ศ.2551)
ปล......ไหน ๆ กีฬาโอลิมปิกก็ผ่านพ้นไปแล้วตามวิถี เรื่องการแพ้หรือชนะเป็นเรื่องที่มนุษย์กำหนดขึ้นมาเอง
จริง ๆ แล้ว หากไม่คำนึงถึงแพ้ชนะมากนัก กีฬาก็คือยาวิเศษ รักษาได้ทุกโรค
และในขณะเดียวกัน ก็เป็นสื่อเชื่อมสัมพันธ์ของมวลมนุษย์ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะด้วยเจตนา
หรือไม่เจตนาก็ดี จะด้วยอคติ หรือไม่อคติก็ดี กรรมใดใครก่อ ย่อมจะได้รับผลกรรมนั้นตามมา
พูดถึงความผิดพลาด ทำให้นึกถึง การชูมือผิด ของการชก ระหว่าง โทโดรอฟ กับ ฟลอยด์ ตอนชกมวยสากลสมัครเล่น ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก
ลิขสิทธิ์บน YouTube Credit By : https://www.youtube.com/watch?v=6W8ptgdIYRA
Bookmarks