หน้าที่ 3 จากทั้งหมด 4 หน้า หน้าแรกหน้าแรก 1234 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 21 ถึง 30 จากทั้งหมด 31

หัวข้อ: ผมว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่จำเป็น

  1. #21
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ อีหยังสิปานนั้น
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    ที่อยู่
    กระบี่
    กระทู้
    323
    กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ บ่าวดอนโบม
    คำว่า " งึด " ภาษา อังกิด เขา เว่าว่าจั่งได๋ ครับ
    โอ้ยยย น้อ อาว โบม กะดาย

  2. #22
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ บ่าวชัยภูมิ
    วันที่สมัคร
    May 2007
    กระทู้
    473
    บ่แม่นจำเป็นแล้ว แต่เป็นในเชิงบังคับ

  3. #23
    ฝ่ายบริหารระดับสูง สัญลักษณ์ของ พล พระยาแล
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    6,430
    บางคนแนะนำให้ไปเบิ่งหนังซาวแทร็ค หรือบ่พยายามอ่านคำแปลไทย หน้าจอพะนะครับ

    เพิ่นให้หนังฝรั่งมาเบิ่งเรื่องหนึ่ง ว่าสิมาเรียนภาษาอังกฤษ แต่ได้คำศัพท์หน่อยโพดครับ

    มีอยู่บ่จักกี่คำ Oh yes good baby, oh my God

    เบิ่งจนจบเรื่องกะเว่าแต่คำเก่า กะเลยบ่ได้หยัง

  4. #24
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ บ่าวชัยภูมิ
    วันที่สมัคร
    May 2007
    กระทู้
    473
    แต่สำหรับโตข่อย สิหาแต่การอ่านว่าจังได๋ สำเนียงจังได๋

  5. #25
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ ครูจุ่น
    วันที่สมัคร
    May 2012
    กระทู้
    128
    ภาษาอังกฤษ ที่จริงก่อนเก่ามันกะบ่อแม่นภาษาที่เพิ่นใช้กันหลายดอก พอหลังช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม เพิ่นเฮ็ดคู่มืออุปกรณ์อุตสาหกรรมเป็นภษาอังกฤษ ย้อนจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติอุตสาหกรรมมันเริ่มจากอังกฤษ ที่จริงญี่ปุ่นกะเริ่มใกล้กัน แต่ญี่ปุ่นเป็นประเทศแพ้สงครามกะเลยถืกจำกัด ภาษาอังกฤษจั่งมีความจำเป็นตั้งแต่บัดนั่นเป็นต้นมา หลังช่วงยุคข้อมูลข่าวสารอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เริ่มได้รับความนิมยมหลายขึ้นภาษาอังกฤษมันเป็นภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์กับ task bar ที่เป็นสิ่งที่สื่อสารกับผู้ใช้ ความจำเป็นมันกะเพิ่มขึ้นหลายก่อเก่า แฮ่งซุมื้อนี้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข่ามามีบทบาทในอุปกรณ์สื่อสารซึ่งกลายเป็นความจำเป็นที่คนต้องมีเพื่อการสื่อสาร ภาษาอังกฤษกะเลยแทรกเข่าไปสู่วงการต่างโดยปริยาย
    สรุปว่าภาษาอังกฤษ มันบ่อแม่นเป็นเพียงภาษาเว้าเพื่อการสื่อสารอย่างเดียว มันเป็นภาษาเทคโนโลยี ภาษาเทคนิคเชียน ภาษาธุรกิจ ภาษาการแพทย์และภาษาเฉพาะอีกหลายแขนง ภาษาอังกฤษจั่งมีความจำเป็นหลายซุมื้อนี้ การเปิดประเทศสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 กะคือกัน ภาษาอังกฤษแฮ่งสิมีความสำคัญหลายขึ้น ย้อนว่าข้อตกลงของประชาคมอาเซียนกำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางของอาเซียน
    ถึงแม้ว่าภาษาอังกฤษสิมีความสำคัญท่อได๋กะตาม ภาษาอื่นๆ หรือภาษาถิ่นกะยังมีความสำคัญยุคือเก่า อย่างในอเมริกา กลุ่มอพยพ imigrant หรือ พวก spenish ยังเว้าภาษาสเปน พวกฝรั่งเศสยังเว้าฝรั่งเศส พวกสวสเซอร์แลนด์ยังเว้าดัซ หรือจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ลาว รวมแม่กระทั้งไทยและอื่นๆ อีก กะยังเว้าภาษาถิ่นของเจ้าของอยู่
    การที่คนท้องถิ่นยังเว้าภาษาถิ่นอยู่นั้น แสดงให้เห็นว่าภาษา เป็นวัฒนธรรม ที่อยู่คู่การสื่อความหมายของคนเพื่อการอยู่ฮ่วมกัน ใช้สื่อสารบอกความต้องการ กำหนดกติกา สื่อความรู้ และสื่อถึงสิ่งต่างๆ อย่างมีนัย ความหมายในการอยู่ฮ่วมกันอย่างสันติ

  6. #26
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ cute
    วันที่สมัคร
    Feb 2009
    ที่อยู่
    ป่าคอนกรีต
    กระทู้
    416
    หรือง่ายๆอีกวิธีนึงก็คือให้ซื้อหนังสือพิมพ์ Bangkok Post ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ กับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มาอย่างละเล่ม จะลงข่าวแบบเดียวกัน เนื้อหาก็เอามาเทียบเคียงกัน ก็จะได้คำแปลที่ถูกต้องพอดีเลยครับ พอแก้ขัดได้บ้างครับ

  7. #27
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ paula
    วันที่สมัคร
    Aug 2008
    กระทู้
    356
    เล่นเฟสบุ๊ค ก็ได้ภาษาอังกฤษเ้ด้อคะ ปุ้ยใช้ภาษาอังกฤษ บ่รู้เฟสฯภาษาไทยเป็นคือกันบ่
    เพื่อนในเฟสฯ พิมพ์ภาษาไทย จบข้อความก็จะแปลเป็นภาษาอังกฤษให้ปุ้ยอ่าน (บ่ได้
    หมายความว่าข่อยอ่านภาษาไทยบ่ออกเด้อ ใช้ไทยเล่นบ่ถนัด 5555555)
    ทำให้ได้ความรู้อีกทางในการเล่นเนท

    ยกตัวอย่าง เพื่อนเฟส ครูจุ่น อัครา

    การหันหลังให้กัน ไม่ได้หมายความว่าคนสองคนนั้นมีปัญหาซึ่งกันและกัน
    แต่การหันหลังให้กัน เป็นการสัมผัสที่สื่อจากแผ่นหลังถึงหัวใจของกันและกันก็เป็นได้
    ฝ่ายหนึ่งจะสื่อในสิ่งที่มองเห็นและเข้าใจในมุมที่ตนมอง ผ่านแผ่นหลังสู่ใจฝ่ายหนึ่ง
    การสื่อสารที่ทั้งสองฝ่ายร่วมจินตนาอย่างสอดคล้อง เป็นความโรแมนติคที่สุดยอด

    แปลเป็นอังกฤษ

    To turn back, too. Does not mean that the two people have a problem with each other, but to turn back, too. As the media touch from behind through the hearts of each other and it was one of the parties will have the media in what I see and understand their perspective looking through the rear end plate to the communication which both parties together to imagine tight as the roll man on this site top.

  8. #28
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ บ่าวหัวเขียง
    วันที่สมัคร
    Jun 2012
    กระทู้
    406

    หาเมียฝรั่งดีบ้อ...ชีวิต

    พี่น้องเอย...
    ...สิหัดเว้าภาษาอังกฤษ...พอสิมีกิ๊กเป็นฝรั่ง(กะยาก ลำบาก)
    ...หรือสิไปหาเมียฝรั่ง...พอสิได้ภาษาอังกฤษ(เมียฝรั่งกะย่านเป็นคนอิสาน...ปวดหัว555)

  9. #29
    ศึกษาหาความรู้
    วันที่สมัคร
    Sep 2007
    กระทู้
    51
    งึด = amaze

    ข่อยละงึด = I'm amazed.......แต่ ข่อยละงึด มันให้อารมณ์สะใจกว่า กร๊ากกกกกกกกก

  10. #30
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ tenko
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    กระทู้
    11
    บล็อก
    4
    กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Dju
    เรียนรู้แบบเด็กทารกครับ เริ่มจากการฟังแล้วจับคำที่หูเราได้ยินโยงเข้าหาภาพ ผู้พูดอาจจะพูดยาวเป็นประโยคละสิบคำแต่ถ้าเราได้ยินแค่คำสองคำ เราก็ค่อยๆนึกภาพว่าคำที่ได้ยินคืออะไร ได้ฟังบ่อยๆเข้าหูเราก็จะเริ่มชิน จากนั้นเราก็ค่อยๆออกเสียงตาม วันนี้ได้ยินสิบคำ ก็ออกเสียงตามไปสิบคำ นึกภาพตามไปด้วย ทำบ่อยๆก็ได้เป็นร้อยเป็นพันคำ

    พอรู้คำมากขึ้น ก็เริ่มหัดอ่านให้มากขึ้น หาเนื้อหาที่ตัวเราชอบมาอ่าน จะได้มีแรงจูงใจ เดือนแรกอาจจะอ่านได้หน้าเดียว แต่อ่านไปเรื่อยๆ (สำหรับท่านชาย อย่าได้หาหนังสือ Playboy มาอ่านเชียว ท่านคงไม่ได้อ่านหนังสือ มัวแต่ดูอย่างอื่น) ท่านจะเข้าใจมากขึ้น รูปประโยคยาวๆก็จะเริ่มติดหัวมากขึ้น

    ทีนี้ท่านก็ต้องหัดใจกล้า หน้าด้าน ต้องกล้าที่จะพูด ถูกผิด ก็พูดไป ท่องเอาไว้ ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาพ่อแม่กู กูพูดได้แค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว มึงมาลองพูดภาษาไทยกะกูมั่งสิ

    ท่านหัดฟังมากๆ หัดพูดมากๆ หัดอ่านมากๆ ท่านก็จะเริ่มพูดได้ สื่อสารได้ จากช้า เป็นเร็วขึ้น

    อย่าไปมัวเสียเวลากับการเรียนไวยากรณ์ การสอนภาษาบ้านเราล้มเหลว เพราะมัวแต่ไปเรียนไวยากรณ์ ซึ่งเป็นวิธีที่งี่เง่ามากในความคิดผม นึกถึงสมัยเราเป็นเด็ก เราเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาไทยตอนเข้า ป 3 ป 4 ซึ่งก็เกือบสิบปีหลังจากที่เราเริ่มหัดเรียนรู้ภาษาไทย นึกถึงเด็กทารก ที่ฟังคำที่พ่อแม่พูดเข้าใจ ทั้งๆที่ยังไม่ได้เรียนหนังสือ ไวยากรณ์คือสิ่งสุดท้ายที่เราควรจะเรียน แต่บ้านเราดันสอนเป็นสิ่งแรก เราก็เลยเอาแต่ท่องไว้สอบ สอบเสร็จก็ลืม แถมไม่เข้าใจด้วยซ้ำไปว่าไวยากรณ์ที่เรียนมันใช้ยังไง แม้แต่ไวยากรณ์ไทยก็เถอะ จะมีคนไทยซักกี่คนที่เข้าใจจริง แต่เราก็ยังสื่อสารกันได้

    จากที่สอบตกภาษาอังกฤษสมัยอยู่มหาวิทยาลัย จนมาอเมริกาครั้งแรกก็ยังสื่อสารไม่ได้แม้แต่นิด จนปัจจุบันสอบผ่านได้ใบอนุญาตินักบัญชีที่อเมริกา สั่งงานลูกน้องเป็นฝรั่ง ด่าฝรั่งงี่เง่ามาแล้วหลายคน แม้แต่ฝันก็ยังเป็นภาษาอังกฤษ เพราะผมใช้วิธีนี้สอนตัวเองให้หัดใช้ภาษาอังกฤษครับ

    อย่ามัวไปเสียเวลาลงเรียนภาษาที่ไหนเลยครับ เสียเงินเสียเวลา เสียกำลังใจเปล่าๆ ภาษาหัดได้ ด้วยตัวคุณเอง อินเตอร์เน็ทไม่ได้มีไว้แทงบอล โหลดเพลง เล่นเกมส์ นะครับ

    หนังสือพิมพ์ฝรั่งมีให้อ่านตามเน็ท เวปที่เป็นภาษาอังกฤษก็มีให้ฟัง เปิดฟังตอนเข้านอน เข้าไปฟังข่าวสาร การสัมภาษณ์ ช่อง BBC ได้ที่ http://www.kera.org/audio/kera_fullplayer.php
    เห็นด้วยครับ ขอบคุณมากผมกำลังมองหาแนวทางอยู่

หน้าที่ 3 จากทั้งหมด 4 หน้า หน้าแรกหน้าแรก 1234 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •