กรมสุขภาพจิตเผย นร.ชั้นประถม เป็นโรคสมาธิสั้นกว่า 3 แสนคน
จากผลสำรวจกรมสุขภาพจิต พบว่า
เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 ทั่วประเทศ เป็นโรคสมาธิสั้นมากกว่า 300,000 คน มักพบในแม่ที่สูบบุหรี่ และดื่มเหล้าขณะตั้งครรภ์ โดยโรคนี้หากรักษาตั้งแต่ยังเด็กสามารถหายขาดได้ แต่ถ้าไม่รักษา เด็กที่ป่วย 2 ใน 3 จะมีอาการจนเป็นผู้ใหญ่ และ 1 ใน 4 มีบุคลิกก้าวร้าว และอีก 1 ใน 10 มีปัญหาใช้สารเสพติด
ผลสำรวจในกลุ่มเด็กระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -6 ประมาณ 5,000,000 คน พบว่าเป็นโรคสมาธิสั้นหรือโรคเอดีเอชดี หรือที่เรียกกันติดปากว่า โรคไฮเปอร์แอคทีฟ มีจำนวน 310,000 คน
โดย สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น ราชนครินทร์ พบว่าเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้หากไม่รักษา จะทำให้ 2 ใน 3 หรือประมาณร้อยละ 70 ของเด็กที่ป่วยมีอาการจนถึงเป็นผู้ใหญ่ จะมีผลเสียต่อทั้งต่อเด็กและสังคม
โดยพบว่า
....1 ใน 4 ทำผิดกฎจราจร มีบุคลิกก้าวร้าว
....1 ใน 10 มีปัญหาใช้สารเสพติด หรือมีปัญหาสุขภาพจิตถึงขึ้นพยายาม..่าตัวตาย
.....ร้อยละ 5 ที่..่าตัวตายได้สำเร็จ
แต่หากรักษาตั้งแต่ยังเด็กสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยมักพบในเด็กชาย
โรคสมาธิสั้น
โรคสมาธิสั้น นี้เกิดในวัยเด็กก่อนอายุ 7 ขวบ ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดโรคที่แท้จริง แต่มักจะพบในผู้หญิงที่สูบบุหรี่ หรือดื่มเหล้าระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อพฤติกรรม อารมณ์ การเรียน และการเข้าสังคมกับผู้อื่นของเด็ก ไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อน เด็กกลุ่มนี้จะมีระดับไอคิวปกติ
อาการที่เป็นสัญญานโรค จะปรากฎเห็นชัดเจน 3 อาการ ได้แก่
....ขาดสมาธิ
....ขาดความสามารถในการควบคุมตัวเอง
....ซุกซน
ด็กสมาธิสั้น จะมีปัญหาการเรียน หรือเรียนได้แต่ไม่เต็มศักยภาพ ดังนั้นจึงแนะนำให้
1 ผู้ปกครองและครูที่ดูแลเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น เรียนรู้เทคนิคที่ถูกต้องเพื่อช่วยในการจัดการ กับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมบางอย่างของเด็ก
2 การตีหรือการลงโทษทางร่างกายใช้ไม่ได้ผลและจะยิ่งทำให้เด็กมีอารมณ์โกรธหรือแสดงพฤติกรรมต่อต้านและก้าวร้าวมากขึ้น
3 ตรงกันข้าม ควรให้คำชมหรือรางวัลเมื่อเด็กแสดงพฤติกรรมที่ถูกต้องและเหมาะสม หรือควบคุมพฤติกรรมตัวเองได้
วิธีสังเกตว่าเด็กเป็นโรคสมาธิสั้น คือ
1 เด็กจะไม่สามารถทำงานที่ครูหรือพ่อแม่สั่งจนสำเร็จ
2 ไม่มีสมาธิในขณะทำงานหรือเล่น
3 ไม่ค่อยฟังเวลาพูดด้วย
4 วอกแวกง่าย
5 ขี้ลืมบ่อย ๆ
6 ทำงานผิดพลาดบ่อย
7 ทำของใช้หรือของส่วนตัวหายบ่อย/ รวมทั้งจะซุกซนอยู่ไม่สุข นั่งไม่ติดที่
8 ชอบนั่งโยกเก้าอี้ ชอบวิ่ง หรือปีนป่ายสิ่งต่าง ๆ
9 พูดมาก พูดไม่หยุด
10 ตื่นตัวตลอดเวลาหรือดูตื่นเต้นง่าย
11 ชอบโพล่งคำตอบเวลาครูหรือพ่อแม่ถามโดยที่ยังฟังคำถามไม่จบ
หากพบว่าลูกหลานมีอาการเหล่านี้ ขอให้ปรึกษาจิตแพทย์ สามารถโทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือ 1667
เครดิต
ไทยพีบีเอส
Bookmarks