-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
-
ฝ่ายเทคนิค และถ่ายทอดสด
มันกะสิมรีการพัฒนาเป็นไปตามวันเวลาหละครับ ชีวิตผมชีวิต พี่น้องเฮาหลายๆคน กะคือสิมาแนวนี่คือกันครับ
พอเติบโตแล้วกะสิฮู้จักควม ฮู้จักการเอาโตรอดเองดอกครับผม
-
ฝ่ายบริหารระดับสูง
อย่าว่าแต่เด็กน้อยเถาะ ตั้งแต่ซุมเฮากะยังปึกในบางเรื่อง ประสบการณ์สิช่วยสอนเฮาเองเมื่อมีสถานการณ์ยามคับขัน การเรียนรู้บ่มีการสิ้นสุดครับ คนเฮากะคือกะปอมปรับตัวตามสิ่งแวดล้อม
เว่าเรื่องหมานี่ คนอื่นบ่เห่าบ่กัด ถ่ากัดแต่ข่อย จักเป็นหยังบุ เพิ่นว่าคนเคยกินหมามันสิเห่าพะนะ ซงคืออยู่ นั่งในรถมันกะนำเห่า
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พล พระยาแล; 18-03-2013 at 20:51.
-
ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม
แต่เก่า คราวหลัง ผมเองกะมีชีวิตบ่อแตกต่างไปจากนี่ดอกครับ อาจสิทุกข์ยากกว่านี้อีก...
เมื่อชีวิตดำเนินต่อไป ความแปลกใหม่กะสิเข้ามา ได้เรียน ได้รู้วิชา บากบั่น สรรหา จนนำพาชีวิตมาจนทุกวันนี้
แต่ความบริสุทธิ์แห่งวิถีชีวิตในวัยเยาว์ ยังติดตา ตรึงใจ ไม่รู้ลืม
คำพ่อสั่ง คำแม่สอน คำญาติพี่น้อง ยังดังก้องในสำนึก
และได้เป็นเบ้าหลอมให้เราได้ตระหนักถึงคุณค่าแห่งชีวิตที่แท้จริง...
-
Craftsmanship
บ้านเกิดเอื้อยก็อยู่ชนบทค่ะ แต่การใช้ชีวิตแตกต่างจากอิหล่าน้อยนิหลาย เพราะยายเลี้ยงแบบเป็นห่วงค่ะ
คือบ่กล้าให้ออกไปเล่นตามทุ่งนา หนีไปเล่นก็จะโดนเพิ่นดุเนาะค่ะ เพิ่นย่านเป็นไข้ สมัยนั้นเป็นไข้ค่อนข้างอันตรายค่ะ
ก็จะเล่นอยู่บ้านช่วยยายตามที่เพิ่นบอกให้ช่วย เล็กๆน้อยตามประสาเด็กน้อยค่ะ แบบดึงหมอนให้ยามยายเย็บหมอน แหย่สาดกก คือบ่าวหยก ยโสธรนำค่ะ อิอิ
แต่หนีไปเล่นก็ได้เรื่องทุกที เพิ่นเลยห้ามค่ะ ตกน้ำก็เคยตก ตกต้นไม้ก็เคยตก เลยถึกกักบริเวณ ฮ่าๆๆ
ช่วงนั้นก็มีทีวีเข้ามาเนาะค่ะ ก็เลยติดแหมะอยู่กับทีวี หลังเลิกเรียน และช่วงเสาร์อาทิตย์
เป็นเด็กบ้านนอก ที่ใช้ชีวิตบ่คุ้มค่ะ นาก็บ่เคยเฮ็ด พ่อกับแม่เพิ่นก็บ่เฮ็ดค่ะ เพราะติดงานราชการทั้งคู่
ส่วนอิหล่าน้อย โตขึ้น เริ่มเป็นสาว ก็จะเริ่มรักสวยรักงามตามประสาเด็กสาวเนาะค่ะ
เดาอนาคตบ่ได้ดอกค่ะ บางทีเด็กเกเร บ่มักเรียน โตขึ้นอาจจะได้ดีก็ได้ค่ะ
น้องชายตอนเป็นเด็กน้อยก็เกเร อยากเป็นทหาร โตขึ้นกลับเรียนจบวิศวกรไฟฟ้า ม.ขอนแก่นค่ะ
-
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา
Mr.Reception
ผมว่าแกเป็นเด็กฉลาดครับ ผุ้ปรกครองบ่อต้องเป็นห่วง ตอนนี้ยังประเมินหยังบ่อได้
เบิ่งจากการกระทำของแกผมว่าเด็กคนนี่น่ารัก ฉลาด
-
ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม
-
Moderators
ปล่อยตามธรรมชาติของเด็กนำกับการเลี้ยงดูแบบเดินสายกลางจ้า
แต่ต้องให้เข้าโรงเรียนตามพ.ร.บ.การศึกษาภาคบังคับของประเทศไทยเมื่อถึงวัย
การศึกษาคือการพัฒนาปัญญาและชีวิตควบคู่คุณธรรม ที่สำคัญที่สุดบ่ว่าจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมในเมืองหรือชนบท ต้องให้เรียนรู้ศีลธรรม สอนให้รักษาศีลห้าแต่น้อย จะเป็นภูมิคุ้มกันบ่ว่าจะไปตกอยู่ไสจ้า
ทุกมื้อนี้ทางบ้านบ่จำเป็นต้องเฮ็ดนาเลี้ยงวัวอย่างเดียว ครู ตำรวจ พยาบาล
หรืออาชีพใด๋ก็สามารถเฮ็ดนาได้ ให้เขาเรียนตามความถนัดและสามารถ ให้ตามทันโลกเพราะเขาสามารถเป็นตัวอย่างที่ดี เป็นผู้นำในชุมชนเพื่อพัฒนาสังคมซอยกัน เด็กจะเก่งหรือบ่เก่งบ่ได้อยู่กับมันสมองยางเดียว
ครอบครัวและครูสามารถซอยเด็กที่เรียนอ่อนได้ ลูกสาวหล่าของพวงพะยอมมาอเมริกาปีแรก
สอบตกทุกวิชา เพราะภาษาบ่แมนของเฮา บ่เว่ากับไผเลยเป็นปี
แม่ต้องไปประชุมกับครูใหญ่และคณะครูหมดโรงเรียนเดือนละเทือเพื่อติดตามพัฒนาการของลูก
ใช้เวลา 5 ปีจนสามารถเรียนได้สอบได้ระดับเฉลี่ย 90 คะแนนขึิ้น เพราะฉะนั้นสิ่งแวดล้อม การเอาใจใส่สำคัญกว่ามันสมอง
เด็กน้อยคือผ้าขาว พ่อแม่จะพาไปทางใด๋ก็ได้เพราะเป็นผู้เยาว์ อย่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของครู ของโรงเรียนอย่างเดียว อยู่บ้านเฮาก็สามารถสอนเด็กได้จากสิ่งแวดล้่อม
โรงเรียนมีอุปกรณ์การสอน มีครู พ่อแมบ่ต้องอายครู ลูกสิบ่ได้วิชา
อย่าตามใจเด็กเกินไป หน้าที่หลักของเด็กคือเรียนหนังสือตามภาคบังคับให้จบก่อน สิไปต่อทางใด๋ สายอาชีพหรือสามัญโรงเรียนมีครฺแนะแนวเป็นที่ปรึกษา ถ้าเรียนดีมีทุนการศึกษา อยากเป็นเกษตรกรก็ดี ค้าขายก็ดี แล้วแต่ความถนัด
อยู่บ้านสิพาไปทงไปนาแฮงดี ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของบรรพบุรุษ
แต่การบ้านต้องแล้ว วิชาใด๋อ่อนต้องปรึกษาครูเด้อจ้า
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พวงพยอม; 18-03-2013 at 22:33.
-
ศึกษาหาความรู้
อย่าไปหนักใจนำเลาเถาะเพราะคนเฮามันบ่เบ็ดเสร็จมาจากในท้องแม่ดอกหล่าเอ้ยมันเป็นไปตามแบบที่เห็นอยู่ทุกมื่อทุกวันนี่หละการเรียนรู้คือการเสริมสติปัญญาของเด็กถ่อนั่นและอีกอย่างกะเป็นการพัฒนาไปอีกนั่นทางหนึ่ง
-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
ขอขอบพระคุณอ้ายป้าพี่ลุงทุกท่านที่ซ่อยให้คำแนะนำครับ
ผมเองกะเข้าโรงเรียนตอนเจ็ดขวบ อ่านคล่องเขียนชัดกะปอสองปอสามพุ้นละ
เพียงแต่สงสัยว่าสมัยนี้ บางสังคมบางชุมชน คือทรงฟ่าวแทะสั่นดอก
สมัยผมลูกครูลูกตำรวจลูกคนจนคนรวย บ่เคยมีเรียนพิเศษ เข้าปอนึงนำกันเบิ้ด บ่ให้ความรู้สึกว่าแตกต่าง
แต่สมัยนี้ลูกผู้เพิ่นไคแน่กะสิให้ลูกเรียนพิเศษแต่ลูกคนจนบ่ได้ไป เกิดความแตกต่างกันหลายของเด็ก
หรือบางคนให้ลูกขึ้นรถตู้ไปเรียนในเมืองแต่น้อย เกิดความแตกต่าง มิตรสัมพันธ์ของเด็กคนบ้านเดียวกันกะขาดไป
คนหมู่บ้านเดียวกัน เกิดปีเดียวกัน แทนที่สิเป็นหมู่กันคือแต่เก่า กลับเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันซือๆ คล้ายคนเมือง บ่ได้มีความสัมพันธ์กันปานได๋ เพราะใช้ชีวิตที่ต่างกันตั้งแต่น้อย ย่านวันข้างหน้าสังคมมันสิห่างกันออกไปเรื่อยๆ เนาะ แม้แต่ในหมู่บ้านหรือบ้านนอกกะซาง ย่อนว่าเฮาอยากให้เด็กน้อยเก่งตั้งแต่น้อยนี่เอง
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
กฎฟอรั่ม
Bookmarks