กำลังแสดงผล 1 ถึง 6 จากทั้งหมด 6

หัวข้อ: แม่ ผม รับจ้างซักผ้า....

  1. #1
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ อีหยังสิปานนั้น
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    ที่อยู่
    กระบี่
    กระทู้
    323

    แม่ ผม รับจ้างซักผ้า....

    แม่ ผม รับจ้างซักผ้า....


    ....หนุ่มน้อยเพิ่งจบการศึกษาด้วยผลการเรียนดีเยี่ยมไปสมัครงานในตำแหน่งผู้จัดการ ในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง หลังจากผ่านการสอบสัมภาษณ์ครั้งแรกไปแล้ว ผู้อำนวยการ ได้เรียกเขาไปสัมภาษณ์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนตัดสินใจ ผู้อำนวยการเห็นข้อมูลในประวัติ ของเด็กหนุ่มคนนี้ว่ามีผลการเรียนเป็นเลิศในทุกวิชาตลอดมา นับตั้งแต่อุดมศึกษาจน จบมหาวิทยาลัย ไม่ปรากฏว่าเขาทำคะแนนตกเลย
    ผู้อำนวยการเริ่มคำถามว่า “เธอเคยได้รับทุนการศึกษาอะไรหรือเปล่า”
    เด็กหนุ่มตอบว่า “ไม่เคยครับ”
    ผู้อำนวยการถามต่อว่า “คุณพ่อของเธอเป็นคนจ่ายค่าเล่าเรียนให้ใช่ไหม”
    เด็กหนุ่มตอบว่า “คุณพ่อของผมเสียไปตั้งแต่ผมอายุได้ขวบเดียวครับ เป็นคุณแม่ที่จ่ายค่าเล่าเรียนให้ผม”
    ผู้อำนวยการถามต่อว่า “คุณแม่ของเธอทำงานที่ไหน”
    เด็กหนุ่มตอบว่า “คุณแม่ทำงานซักรีด”


    ผู้อำนวยการขอดูมือของเขา เด็กหนุ่มยื่นมือที่เรียบลื่นไม่มีที่ติให้ผู้อำนวยการดูผู้อำนวยการถามต่อว่า “เธอเคยช่วยคุณแม่ของเธอทำงานบ้างหรือเปล่า”เขาตอบว่า “ไม่เคยครับ คุณแม่ต้องการให้ผมเรียนแล้วก็อ่านหนังสือเยอะๆ คุณแม่ซักผ้าได้เร็วกว่าผมด้วยครับ”ผู้อำนวยการบอกว่า “ฉันมีเรื่องให้เธอช่วยทำอย่างหนึ่งนะ วันนี้เธอกลับไปที่บ้านช่วยล้างมือของคุณแม่ของเธอแล้วกลับมาพบฉันอีกทีพรุ่งนี้เช้า” ด้วยความมั่นใจว่าโอกาสที่จะได้งานทำมีอยู่สูงมากเมื่อเขากลับไปถึงบ้านเขาจึงรู้สึกเต็มใจที่จะล้างมือให้แม่ของเขา ฝ่ายแม่รู้สึกประหลาดใจระคนหวั่นใจเธอส่งมือให้ลูก หนุ่มน้อยค่อยๆ ล้างมือให้แม่ แล้วน้ำตาไหลก็ออกมา เขาเพิ่งรู้สึกว่ามือของแม่นั้นช่างเหี่ยวย่นและเต็มไปด้วยริ้วรอยขูดข่วน ซึ่งบางแผลพอโดนล้างน้ำก็ทำให้แม่เจ็บจนตัวสั่นระริก นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มตระหนักรู้ว่ามือคู่นี้เองที่ซักผ้าทุกวันเพื่อหารายได้มาส่งเสียให้เขาได้เล่าเรียนรอยแผลเหล่านี้คือราคาที่แม่ต้องจ่ายไปเพื่อความสำเร็จในการศึกษาของเขา เพื่อผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมของเขา และอาจจะเพื่ออนาคตของเขาด้วย คืนนั้นสองแม่ลูกได้คุยกันอยู่นาน


    เช้าวันต่อมา เด็กหนุ่มก็เดินทางไปที่ออฟฟิศของผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการสังเกตเห็นน้ำตาในดวงตาของเขา จึงถามขึ้นว่า“ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าเมื่อคืนที่บ้าน เธอทำอะไรบ้าง แล้วได้บทเรียนอะไร”เด็กหนุ่มตอบว่า “ผมล้างมือให้แม่ครับ แล้วก็เลยช่วยแม่ซักผ้าที่เหลือจนเสร็จ”ผู้อำนวยการบอกว่า “ช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยว่า เธอรู้สึกยังไง” เด็กหนุ่มตอบ “ข้อที่หนึ่ง ผมได้รู้ซึ้งถึงคำว่า สำนึกในบุญคุณถ้าไม่มีแม่ก็คงไม่มีความสำเร็จของผมด้วยข้อที่สอง จากการช่วยแม่ทำงานว่า ผมได้รู้ว่ามันลำบากยากเย็นยังไงกว่าจะทำอะไรออกมาสักอย่างหนึ่งข้อที่สาม ผมได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของความผูกพันในครอบครัว”ผู้อำนวยการจึงบอก
    ว่า



    “ นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันอยากได้คนที่รู้ค่าของการได้รับความช่วยเหลือ
    อยากได้คนที่เข้าใจถึงความลำบากของใครสักคนในการจะทำอะไรได้มาสักอย่างและอยากได้คนที่ไม่ได้ตั้งเงินเป็นเป้าหมายในชีวิตแต่เพียงอย่างเดียวมาเป็นผู้จัดการให้ฉันเป็นอันตกลงว่าฉันรับเธอไว้ทำงาน ”
    ในเวลาต่อมา เด็กหนุ่มคนนี้ก็ได้ทำงานอย่างหนักและได้รับความนับถือจากผู้ใต้บังคับบัญชา ลูกจ้างทุกคนทำงานเป็นทีมอย่างขยันขันแข็ง กิจการของบริษัทก็เจริญก้าวหน้าเป็นอย่างดี เด็กที่ถูกตามใจจนเป็นนิสัยได้ รับทุกอย่างที่ต้องการ จะสร้างนิสัยเอาแต่ใจตัวเองและเห็นแก่ตัวเองเป็นอันดับแรก เขาจะไม่สนใจความเหนื่อยยากของพ่อแม่ เมื่อถึงวัยทำงานเขาก็จะคาดหวังว่า ใครๆ จะต้องเชื่อฟังเขา เมื่อเขาเป็นผู้จัดการ เขาจึงไม่มีวันรู้ว่าบรรดาลูกจ้างนั้นลำบากอย่างไร และมักจะโทษคนอื่นคนลักษณะนี้เขาอาจจะทำงานได้ อาจจะประสบความสำเร็จช่วงหนึ่ง แต่ในที่สุดแล้ว เขาจะไม่สำเหนียกคุณค่าของความสำเร็จ หากยังคงคร่ำครวญ เคียดขึ้ง และไม่มีวันรู้สึกเพียงพอ


    ถ้าเราเป็นพ่อแม่ประเภทที่ปกป้องลูกแบบนี้
    จงถามตัวเราว่า
    เรากำลังให้ความรักกับลูก
    หรือ
    กำลังทำลายเขากันแน่ ?
    เราให้ลูกๆ มีบ้านใหญ่ๆ อยู่
    กินอาหารดีๆ
    เรียนเปียโน
    ดูทีวีจอใหญ่
    แต่เวลาที่เราตัดหญ้า ลองให้ลูกได้ทำด้วย
    หลังอาหาร ให้เขาล้างถ้วยชามของตัวเองพร้อมๆ กับพี่ๆ น้องๆ
    ไม่ใช่ว่าเราไม่มีปัญญาจ้างคนรับใช้
    แต่เพราะเราอยากจะให้ความรักกับพวกเขาอย่างถูกวิธี
    เราอยากให้เขาเข้าใจว่า
    ไม่ว่าพ่อแม่จะจนหรือจะรวย วันหนึ่งก็จะต้องผมขาวแก่เฒ่าลงไปเหมือนกับแม่ของเด็กหนุ่มคนนี้


    สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ลูกของเราจะได้เรียนรู้ คือ
    รู้คุณค่าของความพยายาม
    ได้รู้จักว่า ความยากลำบากมันเป็นยังไง
    และได้เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นให้เป็น...
    บทความนี้สกิดใจทั้งผู้ที่เป็นพ่อแม่และผู้ที่เป็นลูก ผู้ที่เป็นนายจ้างและลูกน้อง ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่และเด็ก ให้เรียนรู้ถึงการทำอะไรสักอย่าง ไม่ได้มาอย่างง่ายๆ ทุกสิ่งทุกอย่างหากมองเห็นแค่ยอดของความสำเร็จ ก็จะมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ใต้หรือฐานรองของมัน


    เครดิต... หมอยาเภสัช ร้านยาประจำบ้านคุณ // ขอบคุณพื้นที่ เวป บ้านมหา ดอทคอม ธุจ้า


  2. #2
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ วัฒนชัย หาริโร
    วันที่สมัคร
    Jan 2010
    กระทู้
    837
    อ่านแล้วก็สะท้อนสังคมปัจจุบันได้อย่าดีเลยเนาะ

  3. #3
    Moderators
    วันที่สมัคร
    Feb 2013
    กระทู้
    1,094
    บล็อก
    2
    อ่านเรื่องนี้แล้วจะคิดถึงอดีตในนิวยอร์คตอนก่อนที่จะได้งานไปรษณีย์จ้า
    เด็กนักเรียนในเมกาเขาพากันทำงานตั้งแต่อายุ 15ปีหลังเลิกเรียนและในวันหยุดจ้ารวมทั้งลูกสาวใหญ่ของพวงพะยอมด้วยเพื่อช่วยพ่อแม่ แต่พวงพะยอมยังเขียนในไดอารี่ไม่หมดเลยจ้า
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พวงพยอม; 10-03-2013 at 14:34. เหตุผล: แก้ไขคำผิดจ้า

  4. #4
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ suny
    วันที่สมัคร
    Nov 2008
    ที่อยู่
    ภูมิลำเนา มหาสารคาม ทำงาน ประจวบ
    กระทู้
    787
    อ่านแล้วสะท้อนใจอีหลีครับ เป็รตาเอาไปลงเฟสให้คนอ่านนำหลายๆ

  5. #5
    ศึกษาหาความรู้ สัญลักษณ์ของ suny
    วันที่สมัคร
    Nov 2008
    ที่อยู่
    ภูมิลำเนา มหาสารคาม ทำงาน ประจวบ
    กระทู้
    787
    ขอไปลงเฟสแหน่เด้อครับ จขกท. อิหยังสิปานนั้น

  6. #6
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์
    วันที่สมัคร
    Dec 2012
    กระทู้
    60

    ความเยือกเย็น

    ถึกใจคักเด้อบทความนี้ อยากให้ได้อ่านหลายๆคน ขอบคุณครับ:*-:*-

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •