ผมได้อ่านกระทู้ แม่ผมรับจ้างซักผ้า ของ อิหยังสิปานนั้น ที่ได้นำมาถ่ายทอดให้พวกเราได้อ่านได้คิด จึงทำให้เกิดเป็นกระทู้นี้ขึ้นมาครับ
สังคมสมัยใหม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ทุกวันนี้พ่อแม่บำเรอสิ่งอำนวยความสะดวกสบายให้ลูก ๆ เพื่อต้องการที่จะให้ลูก ๆ มีความทัดเทียม (ใช้เงินเลี้ยงลูก)
สมัยผมเป็นเด็ก พ่อแม่ผมไม่อยากให้ผมไปทำไร่ไถนาให้อ่านหนังสือทำการบ้านอยู่ที่บ้าน เพราะกลัวผมเหนื่อย ผมทอดสายตาจากบ้านมองไปที่ทุ่งนาที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก ผมเห็นพ่อแม่ก้ม ๆ เงย ๆ ตากแดดตากฝนทั้งวัน ทำให้ผมนอนอยู่เฉย ๆ ไม่ได้
ผมจะออกไปทำไร่ทำนา หยิบจับตามแต่ท่านจะใช้ บางทีดำนาถอนกล้าไม่ถูกใจท่าน ๆ ก็เอาขี้โคลนขว้างผมและไล่ให้ผมกลับบ้าน บางทีผมก็ร้องไห้ไปนั่งอยู่บนคันนา แต่ไม่ยอมกลับบ้าน และไม่ยอมหลบแดดเข้าไปในร่มจนท่านสงสาร ให้ทำงานหยิบจับอย่างอื่น "คันจั่งซั่นมึงเอาเอามีดมาตัดจอมกล้าและหิ้วมาให้กูดำ" แม่บอกผม
ว่าง ๆ ผมก็ไปดูวิธีการเก็บมัดข้าว (กู้ข้าว) จากเพื่อนบ้านบ้าง และให้พี่เขยสอนบ้าง จนมีความชำนาญในระดับหนึ่งในอาชีพชาวนา ทำเป็นทุกขั้นตอนการผลิต ยกเว้นอย่างเดียวสีข้าวไม่เป็น เพราะไม่เคยมีโรงสี....5555
สมัยก่อนใช้ควายไถนา กว่าจะเสร็จก็สาย ช่วงที่ไถตอนบ่ายโมงกว่า ๆ แดดจัด ๆ เหนื่อยทั้งคนทั้งควาย ควายบางตัวล้มตัวนอนดื้อ ๆ ก็โดนตี ๆ ๆ ๆ จนลุกเดินต่อ วิดน้ำใส่หลังเป็นระยะ ๆ น้ำลายฟูมปาก เสียงหายใจดังโฮก ๆ น่าเวทนายิ่งนัก
สมัยก่อนกว่าจะเป็นข้าวเปลือกข้าวสารแต่ละเม็ด แลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายล้วน ๆ สังเกตคนที่กินข้าวหกเรี่ยราด คือคนที่ไม่เคยทำนามาก่อน ...
ทุกวันนี้เกี่ยวข้าววันเดียวเสร็จ ออกมาเป็นเม็ดข้าวเปลือก สมัยก่อนเกี่ยวเป็นเดือน นวดข้าวด้วยมือเป็นเดือน จะเอาข้าวเปลือกออกไปสีต้องมีพิธีการดูฤกษ์งามยามดีซะก่อน ไม่ใช่สีสุ่มสี่สุ่มห้า
คนเฒ่าคนแก่สมัยก่อนบอกว่าในขณะที่ข้าวใหม่กำลังจะออกรวง หรือออกรวงแล้วกำลังจะแก่ในท้องทุ่ง ห้ามนำข้าวเหนียวนึ่งที่เรากินกันทุกวัน ออกมาทำเมนูข้าวจี่เด็ดขาด....เพราะมันไม่ดี
เมื่อผมมีโอกาสทำงานราชการ จะด้วยบุญบารมีที่เคยทำแต่ชาติก่อน หรืออะไรมิทราบ ผมก็ไม่มีโอกาสได้ทำนาเท่าใดนัก จะมีบ้างถ้ากลับบ้านช่วงฤดูเก็บเกี่ยวก็ไปช่วยบ้างนิดหน่อย
เมื่อมีลูกชาย ด้วยอาชีพ และสถานที่พัก ประกอบกับสภาวะแวดล้อม จึงทำให้เขาเกิดมาท่ามกลางความสบาย ไม่ได้ลำบากตรากตรำทำไร่ไถนาเหมือนกับสมัยก่อน เอ๊ะ...เราจะสอนลูกให้เห็นความลำบากได้อย่างไร...ผมคิด
ผมกับภรรยามักจะบ่นให้ลูกฟังเสมอ ๆ ว่าเงินเดือนไม่พอใช้ให้ลูกชายฟัง ไหนจะค่าโน่นค่านี่ จริง ๆ ไม่ใช่กุศโลบายอะไร ...มันเป็นเรื่องจริง....5555
"เป็นเพราะเราไม่รู้จักอดออม เราจึงลำบาก รถลาม้าช้างก็ไม่มีเหมือนกับคนอื่น ๆ" คือคำพูดที่ผมจะพูดกับภรรยาของผมเสมอ ๆ ดีที่ภรรยาของผมไม่ได้สนใจวัตถุประเภทนี้เลย
วันหนึ่งผมเห็นลูกชายซื้อกระปุกออมสินทรงลึกราคาประมาณ 20 บาท หลังจากเลิกเรียนเขาก็เอาเงินมาหยอดกระปุกออมสิน พอถึงอาทิตย์เขาก็เอาออกมานับ คงกลัวพ่อแม่ขโมยมั้ง...5555
มีอยู่ครั้งหนึ่งมีเหตุให้ต้องกลับบ้านตอนปลายเดือน ลูกชายงัดกระปุกออมสินมาให้ยืมก่อน 600 บาท ไปถึงชัยภูมิค่อยไปยืมพี่สาวเดินทางกลับ...5555
อืม...บ่นว่าไม่มีเงินให้ลูกฟัง....ก็ทำให้ลูกรู้คุณค่าของเงินและรู้จักเก็บออมเหมือนกันนะ....
"โตขึ้นผมอยากเป็นทหาร"
* * * * * * * * * * * * * * *
ปล... ขอแบ่งเป็นตอน ๆ จะได้ไม่เยอะเกินไป...ตอนที่ 2 กำลังจะตามมาติด ๆ...
Bookmarks