**กินอย่างไร ห่างไกลโรคในวัยทอง**


กินอย่างไร ห่างไกลโรคในวัยทอง


การกินดี หมายถึง การกินอาหารให้ได้คุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน พอเพียงและพอดี อันจะนำมาซึ่งสุขภาพดีทั้งในปัจจุบันและอนาคต การกินดีอยู่ดีมาตลอดตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ย่อมจะส่งผลดีต่อไปในอนาคตคือ เป็นผู้ใหญ่วัยทองที่แข็งแรง ปราศจากโรค สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทำประโยชน์ให้กับครอบครัวและสังคมส่วนรวมได้ด้วย แต่ถ้าปฏิบัติตนไม่ถูกต้องทั้งในด้านการกิน การเสพ ผลก็คือเป็นผู้ใหญ่ที่แม้ว่าจะมีชีวิตยืนยาวก็ไม่สมบูรณ์ อาจมีโรคแห่งความเสื่อมรบกวน เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด โรคกระดูกโปร่งบางหักง่าย โรคมะเร็ง ฯลฯ

การบริโภคอาหารด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อสุขภาพอันดีทั้งในปัจจุบันและ อนาคต จำเป็นต้องอาศัยความรู้เรื่องคุณค่าของอาหาร ประกอบกับความตั้งใจแน่วแน่ที่จะบริโภคเพื่อสุขภาพมากกว่ารับประทานตามใจปาก โดยมีหลักปฏิบัติคือ

• เลือกอาหารที่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางโภชนาการดี
• เลือกอาหารที่ประหยัด คือ อาหารที่หาง่ายในท้องถิ่นหรือมีตามฤดูกาลและรับประทานอย่างคุ้มค่า ไม่เหลือทิ้ง
• เลือกอาหารที่ปลอดภัยจากสารพิษทั้งปวง เช่น สีสังเคราะห์ สารก่อมะเร็ง ฯลฯ


การเลือกอาหารให้มีความหลากหลายไม่จำเจในหมวดต่างๆ มีหลักดังนี้

• หมวดข้าว ควรเป็นข้าวที่ไม่ขัดจนขาว ซึ่งจะได้รับใยอาหารและวิตามินที่ป้องกันโรคเหน็บชามากกว่าข้าวขาว
กินอย่างไร ห่างไกลโรคในวัยทอง
• หมวดเนื้อสัตว์ แหล่งอาหารให้โปรตีนคุณภาพดีและมีไขมันน้อย เช่น เนื้อปลา ควรบริโภคทั้งปลาน้ำจืดซึ่งหาได้ง่ายในท้องถิ่น ปลาทะเลซึ่งให้ธาตุไอโอดีนป้องกันคอพอก และปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาทู ปลาโอ ปลาซาบะ ซึ่งมีกรดไขมันชนิดโอเมก้า 3 ที่ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดตีบหรืออุดตันและจะทำให้ เกิดโรคหัวใจขาดเลือด สมองขาดเลือดตามมา พร้อมกับบริโภคเนื้อสัตว์อื่นๆ ที่ไม่มีมัน เช่น สันในไก่ สันในหมู
กินอย่างไร ห่างไกลโรคในวัยทอง
• หมวดนม เด็กต้องดื่มนมมากๆ เพื่อความเจริญของกระดูก กระดูกจะได้ยาว เด็กจะมีความสูงเพิ่มขึ้นตามวัย (จะสูงเต็มที่ต้องออกกำลังกายประกอบกับการดื่มนม) ขณะเดียวกันควรดื่มเพื่อเป็นทุนสำรองไว้ในกระดูกให้มาก เพราะเมื่อเข้าสู่วัยทอง แม้เกลือแร่จะออกจากกระดูกไปบ้างตามธรรมชาติ แต่กระดูกก็ยังมีเกลือแร่และความหนาแน่นมากพอที่จะป้องกันไม่ให้กระดูกเปราะ หักและแตกง่าย (เวลาที่ผู้สูงอายุล้ม) ขณะเดียวกัน ในวัยผู้ใหญ่ก็ต้องดื่มนมเพื่อรักษาไว้ซึ่งความแน่นแข็งแกร่งของกระดูก จะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน เด็กดื่มนมกันมาก และคุณควรสนับสนุนให้ดื่มต่อไป ตลอดจนเข้าสู่ผู้ใหญ่และวัยสูงอายุ ถ้าปฏิบัติได้เช่นนี้ ผู้ใหญ่ยุคใหม่จะย่อยน้ำตาลในนมได้ (เพราะมีนมไปกระตุ้นให้มีเอนไซม์แลคเทสออกมาอยู่เรื่อยๆ) ไม่ต้องดื่มนมเปรี้ยวในวัยทอง

• ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ เช่น ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วเขียว มีใยอาหารมาก หญิงวัยหมดประจำเดือน ควรดื่มนมถั่วเหลืองวันละ 1-2 แก้ว เพราะนมถั่วเหลืองมีสารช่วยลดโคเลสเตอรอลและชะลอการเกิดโรคกระดูกโปร่งบางใน วัยสูงอายุ

• หมวดไขมัน เลือกไขมันที่ดีที่สุด ประหยัดที่สุดคือ น้ำมันถั่วเหลืองผสมน้ำมันรำ 1:1 ในการประกอบอาหาร เพื่อป้องกันโรคไขมันในเลือดสูง อันจะนำไปสู่ภาวะหัวใจหรือสมองขาดเลือด คุณควรบริโภคไขมันให้น้อยลง งดอาหารที่ทอดอมน้ำมัน แกงกะทิ ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ติดมัน หมูสามชั้น เนย เนยเทียม

• หมวดผัก เลือกผักจำพวกใบและมีสีเขียวเข้ม เช่น ใบตำลึง ผักกาด กวางตุ้ง คะน้า ผักจำพวกผล หัว สีแสดเข้ม (มีเบต้าแคโรทีนสูง) เช่น มะเขือเทศสุกสดสีแดงจัด หัวแครอท เลือกผักที่ทราบว่าไม่ต้องฉีดยาฆ่าแมลง เช่น ตำลึง ผักคะน้าต้นเล็กๆ ที่ยังอ่อน หรือคะน้าต้นโตที่มีรูพรุน อาหารจำพวกผักมีใยอาหารมาก ซึ่งจะช่วยป้องกันริดสีดวงทวารและมะเร็งลำไส้ใหญ่
กินอย่างไร ห่างไกลโรคในวัยทอง
• หมวดผลไม้ จะได้ประโยชน์ด้านวิตามิน เกลือแร่และใยอาหาร โดยเฉพาะผลไม้สดสุกที่มีสีแสดส้ม เช่น มะละกอสุก หรือรับประทานผลไม้สดตามฤดูกาล เช่น ส้ม สับปะรด ฝรั่ง ชมพู่ ฯลฯ การรับประทานผลไม้จะได้ประโยชน์มากกว่าการดื่มน้ำผลไม้ เพราะได้รับใยอาหารไปด้วยในคราวเดียวกัน

ดังนั้น ทุกครั้งที่เลือกรับประทานอาหารหลักในแต่ละหมวด คุณต้องสำนึกอยู่เสมอว่า จะเลือกอาหารที่ดีสำหรับปัจจุบันและป้องกันอันตรายจากโรคแห่งความเสื่อมที่ มักเกิดขึ้นในอนาคต

วิธีปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง
กินอย่างไร ห่างไกลโรคในวัยทอง
1. รับประทานอาหารที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อน
2. หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจมีเชื้อรา เช่น ถั่วลิสง ข้าวสาร หัวหอม พริกแห้ง มะละกอสุก(ผิวเน่า) ถ้าพบว่ามีราสีดำให้ทิ้งได้ทันที
3. รับประทานผักผลไม้ที่สด สะอาดและปลอดสารพิษ จะช่วยให้ร่างกายได้รับใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ

4. งดหรือลดอาหารปิ้ง ย่าง ทอด ด้วยไฟแรงจนมีควัน และอาหารไหม้เกรียม เช่น หมูไม้ ไก่ย่าง
5. งดหรือลดอาหารเนื้อสัตว์ที่ใส่ดินประสิว เช่น แหนม เนื้อหรือปลาแดดเดียว แฮม เบคอน ไส้กรอก กุนเชียง
6. หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์หมัก เช่น กะปิ ปลาร้า หอยดอง หากจะรับประทานต้องใช้ความร้อนทำให้สุกก่อน
7. หลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัดและมันจัด
8. อย่ารับประทานอาหารร้อนจัด
9. ควรปฏิบัติตนให้ถูกสุขปฏิบัติ คือ ระวังอย่าให้ท้องผูก งดสูบบุหรี่ และทำจิตใจให้สบาย คลายความเครียด

กินอย่างไร ห่างไกลโรคในวัยทอง
วิธีปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคความดันโลหิตสูง

หลักสำคัญ คือ ลดการบริโภคอาหารรสเค็ม ซึ่งจะช่วยป้องกันมะเร็งในกระเพาะอาหารด้วย
1. งดอาหารดองเค็ม เช่น ปลาเค็ม ไข่เค็ม ผักผลไม้ดองเค็มทุกชนิด
2. ลดการบริโภคอาหารที่มีเกลือมาก เช่น กะปิ เต้าเจี้ยว ไตปลา ปลาร้า เต้าหู้ยี้
3. งดสิ่งปรุงแต่งจำพวกซุปก้อน ซุปผง รวมทั้งผงชูรส ต่างๆ หรือผงปรุงรสที่ใส่มาในซองบะหมี่สำเร็จรูป
4. เมื่อปรุงรสอาหารด้วยเกลือ น้ำปลา ซอสที่มีรสเค็ม ควรใช้ในปริมาณน้อยๆ

วิธีปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงโรคกระดูกโปร่งบาง

โรคกระดูกโปร่งบาง มักเกิดในหญิงวัยหมดประจำเดือน กระดูกสันหลังโค้งงอ และหักง่ายเมื่อล้มหรือถูกกระแทกอย่างแรง มีวิธีป้องกันดังนี้
1. ควรเริ่มดื่มนมและออกกำลังกายตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น ตลอดไปจนถึงวัยสูงอายุ
2. รับประทานอาหารครบถ้วนตามหลักโภชนาการ
3. ออกกำลังกายกลางแจ้งด้วยวิธีที่กระดูกรับน้ำหนัก เช่น การเดินเป็นประจำสม่ำเสมอ

จะเห็นได้ว่า การปฏิบัติตนในด้านการบริโภคเพื่อป้องกันโรคแห่งความเสื่อมในวัยสูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ ขาดเลือด ความดันโลหิตสูง กระดูกโปร่งบางและมะเร็ง ก็คือการรู้จักเลือกอาหารหลัก 5 หมู่ให้ดีที่สุด ประกอบกับจิตสำนึกในการที่จะบริโภคเพื่อป้องกันโรคที่กล่าวมา

คุณควรลงมือปฏิบัติตั้งแต่วันนี้และตลอดไปจนเข้าสู่วัยทอง อย่ารอให้ถึงวัยที่โรคแห่งความเสื่อมมาเยือน เพราะอาจจะสายเกินไป เราสามารถชะลอและป้องกันมิให้เกิดโรคได้







(ข้อมูลจากหนังสือคู่มือกินเพื่อสุขภาพ สมาคมเภสัชกรรม โรงพยาบาล (ประเทศไทย) และสมาคมพยาบาลทหารบก)

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 113 เมษายน 2553 โดย กองบรรณาธิการ)/เวปธรรมจักร.เน็ต/บ้านมหา.คอม