**ปรับจิตตนเอง เ พื่ อ ล ด ค ว า ม รุ น แ ร ง ใ น สั ง ค ม **



เพื่อลดความรุนแรงในสังคม


เพื่อลดความรุนแรงในสังคม


ปรับจิตตนเอง เพื่อลดความรุนแรงในสังคม



ความวุ่นวายและความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยระยะนี้
ย่อมทำให้คนไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนกรุงเทพฯ เครียดมากขึ้น
ซึ่งความเครียดที่มากเกินไปย่อมมีผลเชิงลบต่อสุขภาพกาย
และสุขภาพจิตของบุคคล ทำให้ความสามารถในการใช้เหตุผล
การควบคุมอารมณ์ และการควบคุมพฤติกรรมของตนเองลดลง
คนที่เครียดมากๆ จึงมักคุยกันไม่รู้เรื่อง ตกลงอะไรกันไม่ได้
และจะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ซึ่
งทำให้ปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่ต่อกันแก้ไขไม่ได้
แต่อาจจะยิ่งขัดแย้ง รุนแรงมากยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้สมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงขอเสนอ
แนวทางปฏิบัติเพื่อบุคคลที่อยู่ในภาวะเครียด
ใช้เป็นแนวทางในการลดความเครียดที่กำลังเผชิญอยู่ต่อไป ดังนี้


1. บุคคลต้องรู้ทันความเครียดที่มีอยู่ใจตน :
ความเครียดเป็นสิ่งที่จับต้อง ไม่ได้ แต่รู้สึกได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปของความรู้สึกวิตกกังวล กระวนกระวาย
หงุดหงิด เบื่อหน่าย เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท
ในคนที่มีโรคประจำตัวอยู่เดิม เช่น ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง
โรคกระเพาะ โรคปวดศรีษะ โรคปวดหลัง เป็นต้น
อาการของโรคเหล่านั้นก็จะกำเริบขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น
ปวดท้องบ่อยขึ้น ปวดศรีษะ ปวดหลัง รุนแรงชึ้น เป็นต้น
ส่วนคนที่มีนิสัยเดิมเป็นคนใจเย็น หนักแน่น
ก็อาจกลายเป็นคนใจร้อน ขี้หงุดหงิด ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เป็นต้น
ดังนั้นใครที่รู้สึกอย่างข้างต้น ก็ควรตระหนักว่า
ตนกำลังอยู่ในภาวะเครียดที่สมควรได้รับการแก้ไข



2. ปรับร่างกายให้ดี :
ความเครียด มีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย
การปรับสภาพร่างกายให้เข้มแข็ง
เพื่อให้สามารถเผชิญกับความเครียดได้ดีขึ้น เป็นเรื่องสำคัญ
เริ่มตั้งแต่การเลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้อง เหมาะสม
หลีกเลี่ยงของมึนเมา เช่น สุรา ยาเสพติด
เพราะจะยิ่งทำให้สุขภาพทรุดโทรมลง
และเสียความสามารถในการควบคุมตนเอง
ต้องพยายามนอนพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย หก ถึง แปด ชั่วโมง ต่อวัน
หาโอกาสออกกำลังกายโดยสม่ำเสมอ
ถ้ามีเวลาน้อยก็อาจปรับการทำภาระกิจประจำวันของตน
เป็นการออกกำลังกาย เช่น การให้การเดินขึ้นลงบันได้ แทนการใช้ลีฟท์
ใช้การเดินติดต่องานกับผู้ร่วมงานแทนการใช้โทรศัพท์ เป็นต้น


เพื่อลดความรุนแรงในสังคม

3. ปรับใจตนเองให้ดี:
ความเครียดมีผลต่อสมรรถภาพของจิตใจเป็นอย่างมาก
การลดความเครียดสามารถทำได้โดยวิธีการต่าง ๆ
ตั้งแต่การตัดถอนสาเหตุที่เข้ามากระทบ เช่น
โดยการลดการเสพข่าวสารที่ทำให้เครียด
โดยการไม่หมกมุ่นกับข่าวเหล่านั้นมากเกินไป
แต่หันไปเสพข่าวสารที่ทำให้สบายใจบ้าง เช่น ดูข่าวกีฬา
ดูสารคดีที่ให้ความรู้ ความบันเทิง ฟังเพลง เล่นกีฬา
ทำงานบ้าน ปลูกต้นไม้ ดอกไม้ ดูแลสัตว์เลี้ยง
และแน่นอน สวดมนต์ไหว้พระ ปฏิบัติศาสนกิจตามความเชื่อ


เพื่อลดความรุนแรงในสังคม

4. ปรับบรรยากาศและความสัมพันธ์ในครอบครัวและในที่ทำงานให้ดี :
สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ไม่ได้มีผลต่อตัวท่านเท่านั้น แต่มีผลต่อบุคคลที่ใกล้ชิดท่านด้วย
ทุกคนกำลังรู้สึกเครียด และแย่ไม่น้อยไปกว่าท่าน
การให้กำลังใจ ให้ความเข้าใจ ให้ความรักความอบอุ่นแก่กันและกัน
จะช่วยให้ทุกคนรู้สึกดีชึ้น แต่ละคนอาจมีความคิดเป็นที่แตกต่างกัน
ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ และเป็นธรรมชาติของมนุษย์
ควรยอมรับความแตกต่างโดยไม่ต้องโกรธกัน
เวลาจะช่วยคลี่คลายความแตกต่างให้จางลงไปได้ในที่สุด
สมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทยฯ

หวังว่าแนวทางที่เสนอมานี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่นำไปปฏิบัติ
ช่วยลดความเครียดที่เกิดขึ้นลงได้ ไม่มากก็น้อย จิตใจที่ปลอดโปร่งขึ้น
ย่อมทำให้บุคคลพูดจากันรู้เรื่องมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น
ปัญหาที่มีต่อกันก็จะลดลงหรือหมดไปได้ในที่สุด

ด้วยความปรารถนาดี จากสมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์







เครดิต : นายแพทย์ธนู ชาติธนานนท์
นายกสมาคมฯ
ที่มา...จิตใจดอทคอม/เวป ธรรมจักร.เน็ต/บ้านมหา.คอม