BREATHING THERAPY-การบำบัดโรคอาการปวดหัวด้วยวิธีธรรมชาติ
จมูกคนเรามีรูจมูกซ้ายและขวา รูจมูกซ้ายและขวามีหน้าที่เหมือนกัน คือ หายใจเข้าและหายใจออกใช่
หรือไม่? ความจริงแล้วมันไม่ได้มีหน้าที่เหมือนกัน และเราสามารถรู้สึกถึงความแตกต่างได้ กล่าวคือ
รูจมูกด้านซ้ายแทนด้วยพระจันทร์ รูจมูกด้านขวาแทนด้วยพระอาทิตย์
เมื่อมีอาการปวดหัวลองใช้นิ้วปิดรูจมูกขวา และใช้รูจมูกซ้ายหายใจเป็นเวลา 5 นาที
อาการปวดหัวก็อาจจะหายได้ ถ้ารู้สึกตัวว่ามีอาการเหนื่อยมาก ๆ ทำตรงกันข้ามคือ
ปิดรูจมูกซ้ายและหายใจด้วยรูจมูกขวา หลังจากนั้นคุณก็จะมีอาการสดชี่นขึ้นอีกครั้ง
ส่วนด้านซ้ายก็ได้รับความเย็นได้ดี
นั่นเป็นเพราะว่าจมูกขวาทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับความร้อนในร่างกายของเรา
ดังนั้นจึงได้รับความร้อนโดยง่าย
ผู้หญิงหายใจด้วยรูจมูกซ้ายเป็นหลัก ดังนั้นจึงได้รับความสงบโดยง่าย
ผู้ชายใช้รูจมูกขวาหายใจ เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงมีอารมณ์โกรธได้ง่าย
เมื่อคนเราตื่นนอน จะสังเกตเห็นว่าเราหายใจเร็วขื้นใช่หรือไม่? ใช้รูจมูกซ้ายหรือขวา?
ถ้ารูจมูกซ้ายหายใจเร็วขึ้น คุณอาจจะรู้สึกเหนื่อยมาก
ปิดรูจมูกซ้ายและใช้รูจมูกขวาหายใจ คุณก็จะมีความรู้สึกว่าสดชื่นอย่างรวดเร็ว
ถ้าคุณนำเรื่องประโยชน์ที่ได้รับจากบำบัดโรคด้วยการหายใจไปสอนเด็ก ๆ จะสอนได้ดีกว่าผู้ใหญ่
ฉันเคยมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง เมื่อไปปรึกษากับหมอ หมอพูดกับฉันแบบติดตลกว่า
“คุณจะมีอาการหายปวดหัว ถ้าคุณแต่งงาน”
หมอไม่พูดความจริงกับฉันเหมือนในทฤษฎีอย่างมีหลักการและยืนยันด้วยหลักฐานระหว่างนั้น
ฉันเคยมีอาการปวดหัวทุก ๆ คืน โดยไม่ทราบสาเหตุ ฉันรับประทานยาแต่ก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้
คืนหนึ่ง ขณะที่ฉันนั่งลงเพื่อให้อาการปวดหัวบรรเทาลงด้วยการใช้นิ้วปิดรูจมูกขวา
และหายใจด้วยรูจมูกซ้าย ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์
มันดูเหมือนว่า ปัญหาจากอาการปวดหัวหายไป ฉันทำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหนึ่งเดือน
และหลังจากนั้นเป็นต้นมา อาการปวดหัว ไม่เกิดขึ้นอีกเลย นี่คือประสบการณ์ของฉัน
ฉันเคยบอกคนอื่น ๆ ที่มีอาการปวดหัวและรักษาด้วยวิธีนี้ ซึ่งมีผลดีต่อฉันและก็ยังมีผลดีต่อผู้ที่ใช้วิธีนี้
นี่คือการบำบัดโรคด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่เหมือนกับการรับประทานยาเป็นเวลานานซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียง
ดังนั้น ทำไมคุณไม่พยายามทำให้หายจากอาการปวดหัว?
การฝึกปฏิบัติการหายใจในทางที่ถูกต้อง (หายใจเข้า หายใจออก)
จะทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่ผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
รู้ไว้นิสสัย 10 อย่างที่ทำให้สมองพัง
ต้นเหตุของสมองเสื่อม ความจำสั้น อัลไซเมอร์สมอง
คืออวัยวะสำคัญ มีหน้าที่ควบคุมและสั่งการการเคลื่อนไหว,
พฤติกรรม และรักษาสมดุลภายในร่างกาย เช่น การเต้นของหัวใจ,
ความดันโลหิต, สมดุลของเหลวในร่างกาย และอุณหภูมิ เป็นต้น
หน้าที่ของสมองยังมีเกี่ยวข้องกับการรับรู้ อารมณ์ ความจำ
การเรียนรู้การเคลื่อนไหว และความสามารถอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเรียนรู้
แต่คนเรามักไม่รู้ตัวเองว่าพฤติกรรมบางอย่างที่กระทำลงไป
นอกจากจะเป็นการทำร้ายร่างกายไม่พอยังทำร้ายสมองด้วยเช่น
1. ไม่ทานอาหารเช้า
หลายคนคิดว่าไม่ทานอาหารเช้า แล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
แต่นี้จะเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองเสื่อม
2. กินอาหารมากเกินไป
การกินมากเกินไปจะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว
เป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น
3. การสูบบุหรี่
เป็นสาเหตุให้เป็นโรคสมองฝ่อและเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์
4. ทานของหวานมากเกินไป
การกินของหวานมาก จะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีน
และสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหาร
และขัดขวางการพัฒนาของสมอง
5. มลภาวะ
สมอง เป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกาย
การสูดเอาอากาศที่เป็นมลภาวะเข้าไป จะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อย
ส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง
6. การอดนอน
การนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อน
การอดนอนเป็นเวลานานจะทำให้เซลล์สมองตายได้
7. นอนคลุมโปง
การนอนคลุมโปง จะเป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้น
และลดออกซิเจนให้น้อยลงส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
8. ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย
การทำงานหรือเรียนขณะที่กำลังป่วย จะทำให้ประสิทธิภาพ
การทำงานของสมองลดลงเหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว
9. ขาดการใช้ความคิด
การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมองการขาดการใช้ความคิดจะทำให้สมองฝ่อ
10. เป็นคนไม่ค่อยพูด
ทักษะทางการพูดจะเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของสมอง
รู้หรือยังค่ะว่าสมองมีความสำคัญมากแค่ไหน
ดังนั่นเราควรที่จะหันมาบำรุงสมองแทนการทำร้ายสมองกันดีกว่ามั้ยค่ะ
ที่มา... http://campus.sanook.com/u_life/knowledge_05525.php
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=24562
บ้านมหา.คอม
Bookmarks