***กินอย่างไรให้มีสุขภาพดี*** ตอนที่ ๓


***กินอย่างไรให้มีสุขภาพดี***  ตอนที่ ๓

โรคมะเร็งปากมดลูก


ความรู้สึกดูถูกสามี ก็เลยทำให้ตัวเองป่วยเป็น โรคมะเร็งปากมดลูก

บางคนบอกหญิงชายสิทธิเท่าเทียมกัน
คำว่าสามีคือผู้ที่เป็นใหญ่กว่า
ถึงอย่างไรก็เป็นสมมุติสัจจะสมมุติให้ใหญ่กว่า

กรณีนี้ก็เหมือนกัน หลังจากให้ไปขอขมาสามี
และให้ฝึกสมถะเอาไม่อยู่ ต้องฝึกวิปัสสนาเดินจงกรม
ทำวิปัสสนาด้วยแล้วไปขอขมา
หลังจากนั้นก็หายป่วยจะมะเร็งปากมดลูก

ยกตัวอย่างของเรื่องป่วยทางจิต ต้องเยียวยาทางจิต
มีคนไข้บางราย สมัยเด็ก ๆ พ่อ*ของอาจารย์สุทธิวัสส์
จะสอนให้เยียวยาผู้ป่วยทางจิตบางประเภท
คือ ผู้ป่วยจะปวดเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว
แล้วลูกสาวเขาจะรู้สึกตัวตลอดเวลาว่าเขาโดนคุณไสยด้วย
จิตมีความรู้สึกอย่างนั้น เวลามาหาหมอ

คือ ลูกชายเกิดในตระกูลที่เป็นหมอ
พ่อจะสอนวิธีรักษาคือเวลาจะเตรียมไข่ไก่ไว้
ลักษณะคือเอาไข่ไก่ไปแช่ในน้ำส้มสายชูให้เปลือกมันนิ่มแล้วแกะเปลือกออก
แล้วเอาเส้นผมบ้างเอาตะปูบ้างมาใส่ไว้
แล้วแต่ว่าเวอร์ชั่นไหน แล้วเอาเปลือกไข่ปิดไว้อย่างเดิม
พอแห้งก็จะดูไม่ออก

คนไข้โรคจิตเหล่านี้ เราจะให้เขาเอาไข่มาเอง
เวลารักษาก็ให้หลับตาภาวนา เราก็จะเปลี่ยนไข่โดยจะดูสภาวะจิต
ว่าคนนี้เข้าใจว่าโดนคุณไสยจากตะปู ปวดแสบปวดร้อน
ก็จะเลือกไข่ที่มีตะปู บางคนต้องเลือกไข่จากเส้นผม
พ่อจะเอาไข่มาคลึงทั่วร่างกาย แล้วก็แอบเปลี่ยนไข่
พอตอกออกมาไข่มีตะปู อาการปวดเธอก็หายไป
อันนี้ไม่ใช่เรื่องหลอกลวง คนที่ป่วยด้วยสภาวะจิตอย่างนี้ก็ต้องใช้วิธีนี้
มีประโยชน์สำหรับคนบางประเภท

แต่คนเอามาใช้ผิดประเภท เลยกลายเป็นว่าต้มตุ๋นหลอกลวงไป
คือ คนบางคนต้องหลอกถึงจะหายป่วย ไม่หลอกไม่หาย เป็นคนไข้ที่ป่วยทางจิต

๓. คนป่วยรูปกายที่ผิดปกติ

เกิดจากสาเหตุ มีอุตุภายในกับอุตุภายนอก
คำว่า อุตุ เราจะนึกถึงสภาพ ดิน ฟ้า อากาศ
จริง ๆ คำว่า อุตุ หมายถึง อุณหภูมิ หรือหมายถึงฤดูกาลก็ได้

อุตุภายในภาษาพระเรียกว่า อัชฌัตตอุตุ อุตุภายนอก เรียกว่า พหิทธอุตุ

อุตุภายในสภาพของอุตุภายใน จะมีสภาพเป็นประจุไฟฟ้า
คือ เราต้องรู้จักเซลล์ประสาทในตัวก่อนเซลล์ประสาทในตัวคน
คล้ายสายไฟทั่วร่างกายข้างในเป็นพลังจิต ตัวประจุไฟฟ้าที่วิ่งอยู่รอบตัวคน

ถ้าวัดด้วยค่าแม่เหล็ก จะได้ประมาณ ๐.๗ เกาซ์*(Gauss) อันนี้อุตุของคนปกติ

(* Gauss (เกาซ์) หน่วยวัดความแรงของแม่เหล็ก
หรือ หน่วยวัดความเข้มของสนามแม่เหล็ก)


ถ้าเป็นคนไม่ปกติอาจจะน้อยกว่านั้น
ส่วนมากคนกรุงเทพฯ ๐.๓ เกาซ์ ซึ่งจะป่วยง่าย
คนต่างจังหวัดจะเกินกว่าโดยปกติจะ ๐.๗ เกาซ์

ถ้าตัวประจุไฟฟ้าวิ่งอยู่รอบประสาทมันเรืองแสงได้ มีสี มีกลิ่น มีรสชาติต่างกัน

มีภาษา คนญี่ปุ่นเรียกอุตุว่า “ คิ ”
คนจีนเรียก “ ชี่ ”
เราอาจได้ยินคำว่าชี่กง หรือ “ กี่ ”
คนอินเดียเรียก “ ปราณ ”
เราเรียกตามอินเดียว่า “ ลมปราณ ”
ถ้าตามศาสนาพุทธก็คือ "อุตุ"


ต้องเข้าใจเรื่องอุตุ การบำบัดเรื่องอุตุมีหลายแบบ เช่น...

- การใช้โลหะบำบัด การใส่แหวนให้ถูกกับนิ้ว ก็เป็นวิชาโลหะบำบัดชนิดหนึ่ง
เรียกว่าการบำบัดเชิงอุตุ

- การใช้สีบำบัดเช่นสีเสื้อผ้าก็เป็นการบำบัดเชิงอุตุ

- การนวด การกดจุด การฝังเข็ม พลังลมปราณ พลังซิซึ พลังโยเร ก็เป็นการบำบัดเชิงอุตุ

- การเหยียบเหล็กร้อน ๆ แล้วนวดคน การใช้ลูกประคบก็เป็นการบำบัด
การอบไอน้ำ การอาบน้ำแร่ แช่น้ำนม เป็นศาสตร์บำบัดในเชิงอุตุ
เรียกว่าบำบัดเชิงพลังงานในร่างกาย


๔. การเจ็บป่วยเพราะอาหารการกิน

ตัวสุดท้ายเป็นเรื่องของอาหารการกิน คนป่วยเพราะการกิน

กัมมจิตโคตุกาหาร มาจากกัมม-จิต-อุตุและอาหาร
ตัวอาหารจำแนกออกเป็น 4 ประเภท...

๔.๑ กพฬิงการาหาร4 อาหารที่เข้าทางปาก

ถ้าป่วยเพราะอาหาร ก็รับประทานอาหารเข้าไปแก้ ก็หายป่วย

๔.๒ ผัสสาหาร เป็นอาหารที่ได้จากการสัมผัสอาหารที่เข้าทางผิวหนังได้ เช่น...

- สมุนไพร บางชนิดทาแล้วหายป่วยได้
- การโอบกอดลูกก็ทำให้หายป่วยได้ จัดเป็นพวกผัสสาหาร

๔.๓ มโนสัญเจตนาหาร 5 เป็นอาหารจากจิตใจ

รู้จักใช้พลังจิตมาใช้ในตัวได้ บางครั้งอดอาหารแต่ร่างกายยังแข็งแรงอยู่

๔.๔ วิญญาณาหาร เป็นอาหารที่เกิดจากความรักความผูกพัน

บางคนป่วยจะตายพอเจอคนที่รักมันปีติซาบซ่านเลยหายป่วยได้

พระ ป. ญาณโสภโน ขอเพิ่มเติมว่า...

*1 กรรม : ทำกรรมที่ดีไว้ แต่มากเกินไปหรือผิดวิธี

เช่น นั่งเจริญภาวนาทำตัวงอนาน ๆ อาจทำให้เกิดโรคกาย-โรคใจก็ได้
เรียกว่านั่งไม่ถูกตามสรีระให้ผลร้ายได้

ทำกรรมไม่ดีไว้ โดยมากก็จะให้ผลร้ายให้ผลไม่ดี ทำให้เกิดโรคกาย-โรคใจได้

* 2 อนุโมทนา : คำว่า “ อนุโมทนา ”

โดยปกติพระพุทธเจ้าของเราจะนิยมเรียก อนุโมทนาบุญ
ใครทำดีแล้วเราอนุโมทนาแต่คนทุบหัวปลาดิ้นแล้ว
พวกเด็กตบมือเชียร์เข้าทำนองอนุโมทนาบาป

* 3 เจ้ากรรม : คำว่า “ เจ้ากรรม ”

หมายถึง กรรมไม่ดีที่เราทำไว้เอง
ทำความดีไว้มาก ๆ ไม่เหลียวหลังดูบาปที่ทำไว้อีก
กรรมบางคดีก็อโหสิกรรม (แคนเซอน) ยกเลิกไปก็มี เช่น พระองคุลิมาล

นายเวร : คำว่า “ นายเวร ”

หมายถึง คนที่ผูกพยาบาทจองเวรกับเราไว้ หรือสาปแช่งไว้
ถ้าเราทำบุญอุทิศให้ แผ่เมตตาให้ท่าน ท่านอาจพอใจ อโหสิกรรมให้ก็ได้

* 4 กพฬีการาหาร (กะ-พะ-ฬี-กา-รา-หาร) :

แปลว่า อาหารคือสิ่งที่ทำให้เป็นคำ ๆ เช่น คำข้าว

* 5 มโนสัญเจตนาหาร (มะ-โน-สัญ-เจ-ตะ-นา-หาร) :

อาหารคือความตั้งใจหรือตั้งจิตมุ่งทำอะไร เป็นพลังเกิดขึ้นได้

รูปกายหรือรูปขันธ์ตามคัมภีร์พระอภิธรรมมี 28

เช่น ปฐวี เป็นต้น หรือรูปตามพระสูตรมี 32
เช่น เกศา โลมา นขา ทันตา ตโจ เป็นต้น

รูปเกิดจากกรรม-จิต-อุตุ-อาหาร
รูปที่เกิดจากกรรม เรียกว่า กัมมชรูป
รูปที่เกิดจากจิต เรียกว่า จิตตชรูป
รูปที่เกิดจากอุตุ เรียกว่า อุตุชรูป
รูปที่เกิดจากอาหาร เรียกว่า อาหารชรูป
ส่วน โรคที่เกิดจากกรรม เรียกว่า กัมมชโรค
โรคที่เกิดจากจิต เรียกว่า จิตตชโรค
โรคที่เกิดจากอุตุ เรียกว่า อุตุชโรค
โรคที่เกิดจากอาหาร เรียกว่า อาหารชโรค

๔. อาหารจากไขมันพืช ต้นเหตุหนึ่งของความเจ็บป่วย

โรคภัยไข้เจ็บที่น่าเป็นห่วง คือ... เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสมองและไต
ต้นเหตุหลักมาจาก... รับประทานน้ำมันพืชเกินความจำเป็น

ในช่วง ๑๐ ปีมานี้ เราพบว่าคนไทยป่วยโดยไม่น่าจะป่วยจำนวนมาก
โดยเฉพาะโรคไตและโรคอัลไซเมอร์

มีการคาดการณ์กันว่า ในอีก ๔-๕ ปี ข้างหน้า
เราจะมีคนเป็นอัลไซเมอร์ ถึง ๙ ล้านคน
โรคภัยไข้เจ็บที่น่าเป็นห่วง คือ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสมองและไต

ต้นเหตุหลักมาจากรับประทานน้ำมันพืชเกินความจำเป็น
อาหารส่วนใหญ่ใช้น้ำมันพืชประกอบ ทั้งทอดทั้งผัด
น้ำมันที่คนไทยใช้ทำอาหารเป็นน้ำมันปาล์ม
น้ำมันพืชทุกยี่ห้อผลิตจากน้ำมันปาล์ม
แต่มาใส่สีใส่กลิ่นให้แตกต่างออกไป

น้ำมันปาล์มเมื่อเจอความร้อน ๓๗ องศา
จะเกาะตัวเหนียวเป็นกาว แล้วไปขวางลำไส้อยู่
ทำให้เราดื่มน้ำแล้วซึมผ่านลำไส้ไม่ได้
(ลองไปดูคราบน้ำมันที่ติดขอบกะทะ จะเห็นว่าเหนียวมาก)
ดื่มน้ำไม่เกิน ๑๐ นาที ต้องไปปัสสาวะ
คนยุคใหม่จึงไม่ค่อยชอบดื่มน้ำ นี่เป็นประเด็นสำคัญ

เมื่อน้ำไม่เข้าตัวจะเกิดถุงน้ำดีข้น เวลาถุงน้ำดีข้น
คนจะเป็นโรคขัดใจไม่ได้ ขัดใจแล้วจะหงุดหงิด
เด็กยุคใหม่จึงไม่ค่อยชอบให้ใครขัดใจ
ถุงน้ำดีข้นมีสิทธิ์ เป็นบ้าได้ คลุ้มคลั่ง เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย

ประการต่อมา เมื่อถุงน้ำดีข้น
ทำให้เลือดไม่ค่อยมาเลี้ยงสมองส่วนหน้า
จะหายใจติดขัด และนอนไม่ค่อยหลับ
ปวดหัวข้างเดียวบ้าง สองข้างบ้าง
เป็นแบบปวดหัวไมเกรน มาจากถุงน้ำดีข้น
ต้นเหตุเพราะน้ำดูดซึมเข้าร่างกายไม่ได้
เป็นประเด็นหนึ่งที่คนเป็นกันมาก

ต่อมาเมื่อน้ำดูดซึมเข้าร่างกายไม่ได้
สารอาหารที่ละลายในน้ำก็ดูดซึมเข้าร่างกายไม่ได้เช่นเดียวกัน


สารอาหารในโลกมี ๒ กลุ่ม ได้แก่...

๑. สารอาหารต้องละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามินซี บี โปรตีน กรดอะมิโน
๒. สารอาหารต้องละลายในไขมัน คือ วิตามินเอ ดี อี เค*

เมื่อน้ำเข้าไม่ได้ ตัวสารอาหารที่ละลายในน้ำก็ยังเข้าไม่ได้
เมื่อเรารับประทานเนื้อสัตว์ ถั่ว
เพื่อให้ได้โปรตีนแล้วไปสังเคราะห์กับวิตามินซี บี
ลำพังโปรตีนเข้าไปอย่างเดียว
ไตต้องเอาทิ้งเพราะไปสร้างกรดอะมิโนไม่ได้


ต้องไปครบชุด มาไม่ครบชุดมันไล่ทิ้งหมด

คราวนี้เนื่องจากว่าดูดซึมวิตามินซี บี ไม่ได้
เท่ากับไปไม่ครบชุดพอนำไปไม่ครบชุด ไตจึงต้องขับพวกนี้ทิ้ง
ไตเลยทำงานหนักโดยไม่จำเป็น

คนจึงเป็นโรคไต ต้องล้างไตเป็นจำนวนมาก
อันนี้คือภาวะที่น่าเป็นห่วงอยู่

ว่าตามความเป็นจริงน้ำมันพืช
เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ในระยะยาว ไม่ใช่ระยะสั้น
ไม่มีน้ำมันพืชที่รับประทานไปแล้วตายทันที ไม่มี จะสะสมไป
นาน ๆ มันไม่ตายทันที แต่ว่าจะทรมานเราสารพัดอย่าง

เมื่อมีคนเตือน คนส่วนใหญ่ไม่มีใครฟัง ไม่มีใครเชื่อ

ลองไปสืบค้นว่าในสมัยพุทธกาล
ถ้าเกิดปัญหาแบบนี้ในสมัยพุทธกาลจะทำอย่างไร
เราพบว่าถ้าเกิดกรณีมีไขมันขวางระบบดูดซึม
ในสมัยพุทธกาลจะใช้ เภสัช ๖ ประการ คือ


เอานมมาชงกับโยเกิร์ต-เนยข้น+เนยใส+น้ำอ้อย+น้ำผึ้ง ๖ ตัว

แต่ปัจจุบันเราหาเครื่องปรุงให้ครบ ๖ อย่างไม่ได้
ก็ลองคิดสูตรนี้ดู โดยใช้...

นมสด + โยเกิร์ต + น้ำผึ้ง + มะนาว ๔ ตัวมาผสมกัน

ถ้ามะนาวแพง เราเปลี่ยนเป็นผลไม้อย่างอื่นแทน ปรากฏว่าได้ผล
เมื่อรับประทานไปจะล้างไขมันเกาะลำไส้ได้
ล้างไม่ล้างเปล่าคือตัวจุลินทรีย์จากโยเกริต์
เมื่อเราเลี้ยงด้วยน้ำนม + น้ำผึ้ง + มะนาว
จะผลิตจุลินทรีย์ชนิดดีออกมา เพื่อมาย่อยขยะในลำไส้
แล้วเปลี่ยนขยะเป็น บี๑๒ ไปเลี้ยงสมอง และลดความอ้วนได้


ควรดื่มตอนเช้าหมายถึงก่อนเที่ยง
รับประทานหลังเที่ยงจะเพิ่มความอ้วน
จุดประสงค์เพื่อไปล้างขยะในลำไส้แล้วเปลี่ยนเป็น บี ๑๒

ประโยชน์ของสูตรโยเกิร์ตนี้
แม้กระทั่งสุนัขที่เป็นโรคไต หมอไม่รับรักษา
คนที่ดูแลสุนัข เขาเอาโยเกิรต์ชงกับนมสด + น้ำผึ้ง + มะนาว ให้สุนัขกิน
แล้วตามด้วยน้ำกระชาย ผลออกมาหายจากโรคไตได้


สุนัขพันธุ์ดุ ๆ อย่างลอร์ดไวเลอร์ที่อารมณ์ไม่ดี มันจะกัดเด็กกัดคน
เราให้สูตรโยเกิร์ต + นมสด + น้ำผึ้ง + มะนาว
มันชอบกิน กินแล้วอารมณ์ดีขึ้น

นี่ก็เป็นประโยชน์ คนเราถ้าระบบดูดซึมไม่ดี
ถึงจะรับประทานอะไรไปก็ไม่เกิดประโยชน์
ระบบดูดซึมของคนไข้ที่เสีย
เมื่อปกติรับประทานอะไรไม่เข้าตัว มันก็อ่อนเปลี้ย
พอมานอนโรงพยาบาล แค่ให้น้ำเกลือ กลับบ้านได้แล้ว
เพราะว่าน้ำเกลือเข้าเส้นมันไม่ต้องผ่านระบบดูดซึม
คนก็มีแรงขึ้นมา นั่นคือปัญหาระบบดูดซึมเสีย


ทุกครั้งที่ท่านมีปัญหาอะไรในชีวิต
ขอให้สันนิษฐานว่าระบบดูดซึมเสีย
โดยเฉพาะคนที่รับประทานน้ำมันพืช
แต่ก็มีน้ำมันที่แก้กันได้ ถึงจะน้ำมันที่มีประโยชน์ไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อ
ยังไงต้องล้างระบบดูดซึม อันนี้เป็นปัญหาอันดับแรก
หลังจากล้างแล้วคนก็หายป่วย






เครดิต : http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=19&t=28963/บ้านมหา.คอม