สวัสดีจ้าธุจ้าพี่น้องบ้านมหาทุกท่าน
สืบเนื่องมาจากเอื้อยได้รับคำถามจากคุณpcalibrationเกี่ยวกับการปลูกผักสวนครัว
ในอเมริกา เกี่ยวกับสิทธิบัตรพืชพันธุ์ของไทย
ขอถามเพื่อความรู้จักหน่อยครับ...
การนำพืชผัก(ต่างถิ่น)เข้าไปปลูกในอเมริกามีกฏหมายห้ามบ่ครับ ดูจากในรูปแล้ว
ลักษณะทางกายภาพทั่วไปของ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด บ่แตกต่างจากบ้านเฮาครับ
เพียงแต่กลิ่นหรือรสชาตอาจสิเปลี่ยนไปบ่ครับ และเกี่ยวข้องกับสิทธิบัตรพันธุ์พืชบ่ครับ
เลยอยากขอชี้แจงตามที่ได้ไปหาข้อมูลมาเด้อจ้า
ผักสวนครัวที่เอื้อยปลูกคือ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ดังนี้
ตะไคร้
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cymbopogon citratus Stapf.
วงศ์ GRAMINEAE
ชื่ออื่นๆ
ภาคเหนือ : จะไค (Cha-khai) จะไค้ (Cha-khai)
ภาคใต้ : ไคร (Khrai)
ชวา : ซีเร (Sere)
ถิ่นกำเนิด อินโดนีเซีย ศรีลังกา พม่า อินเดีย อเมริกาใต้ ไทย
ข่า
ชื่อวิทยาศาสตร์: Alpinia nigra B.L.Burtt
ชื่อวงศ์: ZINGIBERACEAE
ชื่อสามัญ: Ginger
ชื่อท้องถิ่น: ข่าต้น , กระทือ
ถิ่นกำเนิด: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ลักษณะวิสัย: ไม้ล้มลุก
มะกรูด
เป็นพืชในวงศ์ส้มเช่นเดียวกับมะนาว เลมอน ส้มโอ และส้มเขียวหวาน ไม่ทราบถิ่นกำเนิดที่แน่นอนแต่พบในป่าบริเวณประเทศไทย มาเลเซีย ศรีลังกา และเมียนมาร์ และปัจจุบันมีปลูกทั่วไปในเขตร้อนของทวีปเอเชีย
ชื่อสามัญ Kiffir lime, Leech lime
ชื่อพฤกษศาสตร์ Citrus hystrix DC.
ชื่อวงศ์ RUTACEAE
แหล่งกำเนิดและการกระจายพันธุ์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผักเหล่านี้ไม่ได้มีกำเนิดในไทยเท่านั้นแต่มีกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในฐานะที่เอื้อยเป็นผู้ที่ฝักใฝ่ในการศึกษาธรรมะมิใช่นักธุรกิจ ไม่ได้ปลูกผักเพื่อการค้าแต่อย่างใด
ปลูกในครัวเรือน ในกระถางเพื่อครอบครัวและเพื่อทำอาหารถวายพระสงฆ์
ไม่ได้นำเข้าจากเมืองไทย เพราะมีการปลูกขายกันตามงานวัดไทยโดยแม่ค้าคนไทย
แม้แต่ภายในวัด
พระสงฆ์ยังได้ปลูกไว้เพื่อให้ญาติโยมนำไปทำภัตตาหารเพลใส่บาตร
เลยไม่แน่ใจว่ามีการจดสิทธิบัตรหรือไม่ เป็นพืชGMO หรือเปล่า
กฏหมายการห้ามนำเข้าพืช ผักจากต่างประเทศของอเมริกาเวลาเดินทางโดยเครื่องบินนั้นเข้มงวดมาก
เอื้อยก็ไม่เคยนำมาด้วยตนเองดอกจ้า
แต่ต้นมะกรูดนั้นมีวางขายถูกกฏหมายตามห้างใหญ่ในอเมริกาเช่น Home Depot หาซื้อได้ในแผนกพืชผักต่างๆ เมล็ดพันธุ์พืชสวนครัวมีบรรจุขายเกือบทุกชนิดใส่ซอง
แม้แต่เงาะ มังคุด ก็มีการปลูกในเปอร์โตริโก้ ส่งมาขายในอเมริกา
เอืิ้อยไม่อาจตอบคำถามเกี่ยวกับการจดสิทธิบัตรได้เพราะไม่มีความรู้ด้านนี้พอเพียง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยเด้อจ้า
ขอฝากบทความจากวัดไทยแห่งหนึ่งในอเมริกา ที่เอื้อยอ่านแล้วประทับใจมากน้อจ้า
ระบบเศรษฐกิจพอเพียง ภายในครัวเรือน ตามแนวทางพระราชดำรัส ในหลวง ร. 9
ระบบเศรษฐกิจพอเพียง โดยการปลูกพืชผักผลไม้ปลอดสารพิษเอาไว้รับประทาน ในครัวเรือน แถมยังได้บุญ
คณะลูกศิษย์วัดภูริทัตตวนาราม และ MR.RICH TYGART ชึ่งเป็นชาวอเมริกาโดยกำเนิด แต่ด้วยความที่เป็นผู้ที่มีความขยันขันแข็งและได้ศึกษาและมีความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นอย่างดี ชอบค้นคว้าความรู้ทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆด้านคอมพิวเตอร์ และอีกอย่างได้ช่วยงานพระพุทธศาสนา โดยคอยแนะนำพระภิกษุหรือแก้ปัญหาแก่พระภิกษุด้านคอมพิวเตอร์และภาษาอังกฤษ เพราะเขาสามารถพูดภาษาไทยได้นิดหน่อย ก่อนหน้านี้ เขาได้อยู่ประเทศไทยหลายปี โดยได้ทำงานสอนภาษาหรือสอนกิจกรรมความถนัดต่างๆที่เขาถนัด ตามวัดในพระพุทธศาสนาที่ประเทศไทยและตามโรงเรียนต่างๆ เคยอยู่ที่ จ.ขอนแก่น และเดินทางไปหลายจังหวัดในประเทศไทย เพื่อศึกษาด้านวัฒนธรรมไทย ริชเก่งทางด้านคอมพิวเตอร์และวิทยาศาสตร์ แต่พอได้อ่านหลักพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว รู้สึกความเห็นไม่ต่างกันกับวิทยาศาสตร์ และน่าแปลกใจมากเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เพราะเหตุว่า สิ่งอันพระพุทธเจ้าตรัสรู้เป็นความจริงที่ไม่ได้อาศัยวิทยาศาสตร์ แต่สามารถรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้ โดยอาศัยสมาธิจิต ชึ่งต่างกับวิทยาศาสตร์ที่ต้องพิสูจน์ แต่บางครั้งยังไม่รู้แน่เท่าพระพุทธเจ้า นี่้เป็นเหตุผลอีกประการหนึ่งที่ทำให้ ริชสนใจในหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา
ริชคือชื่อของชาวอเมริกาผู้นี้ ริชมาอยู่ที่วัดภูริทัตตวนารามได้ 6 เดือน และได้ช่วยงานทางวัดทุกด้าน ส่วนด้านการทำพืชผักสวนครัว โดยริชได้อ่านแนวทางพระราชดำรัชในหลวง ร.9 และได้แม่ชีแดงที่วัดเป็นผู้ปลูกฝังถึงระบบเศรษฐกิจพอเพียง ริชเลยตั้งใจจริงที่จะนำมาใช้วิถีชีวิตนี้ที่อเมริกา และได้พื้นที่วัดในส่วนของ ที่พักแม่ชี ชึ่งแยกจากวัดออกมาอีกประมาณ 50 เมตร ซึ่งอยู่คนละส่วนกับทางวัด เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษๆ ได้ช่วยแม่ชีและทางวัดปลูกพืชผักสวนครัวไว้ทำอาหารถวายพระ
ช่วงเช้าริชและพุทธศาสนิกชนที่มาทำบุญที่วัดจะมาช่วยกันเก็บผักปลอดสารพิษทำอาหาร เพื่อตักบาตรและถวายภัตตาหารพระในช่วงเวลา 09.30 A.M. ชึ่งถือว่าได้บุญอีกทางและการปลูกพืชผักสวนครัวภายในบ้านยังช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนภายในบ้านได้อีกต่างหาก
ฉะนั้น ทีม "พิทักษ์โลกด้วยธรรมะ" จึงถือโอกาสนำเรื่องราวของหนุ่มชาวอเมริกาที่คิดดีทำดีีรายนี้มาให้ชมเป็นตัวอย่าง ชึ่งริชบอกว่าปรารถนาอยากบวช แต่เนื่องด้วยทางวัดเป็นสำนักปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานตามแนวสายอรัญญวาสี คือผู้ที่จะมาบวชต้องอยู่ปฏิบัติธรรมไปเรื่อยๆจนทางวััดเห็นสมควรที่จะบวชแล้วค่อยบวชให้ ตามปฏิปทาของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนมา ในใจของหนุ่มอเมริกาคนนี้คือเขาต้องการบวชในพระพุทธศาสนาไปตลอด เพราะเขาบอกว่าเข้าใจแก่นแท้แห่งธรรมะพอสมควร
ถือได้ว่าหนุ่มชาวอเมริกาคนนี้มุ่งมั่นพอสมควร เพราะความเชื่อและศรัทธาในพระธรรมคำสั่งสอน เลยมาปรนนิบัติวัด ทำหน้าที่หลายประการ ทั้งขับรถให้พระไปทำกิจของสงฆ์ ทำสวนพืชผัก ดูแลด้านระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้ทางวัด ถือว่าเป็นบุคคลที่หาได้ยากมาก และถือว่าเป็นคนที่เสียสละพอสมควร
เมื่อวันจันทร์ ที่ 18 มิถุนายน พุทธศักราช 2555 คุณศรินรัตน์ เจนศิริวานิช หรือ คุณโยมเมี้ยง เจ้าของบริษัท SHIVAJARUS ผลิตรจำหน่ายและส่งออกผลิตรภัณฑ์เครื่องอบ เครื่องหอมจากวัสดุธรรมชาติ และผลิตรภัณฑ์เพื่อดูแลสุขภาพต่างชึ่งผลิตรจากวัสดุธรรมชาติล้วนๆ สามารถเข้าไปชมหลักการผลิตรและผลิตรภัณฑ์ได้ที่ www.shivajarus.com หรือที่ mint_jensiriwanich@yahoo.com ได้เดินทางมาที่วัดภูริทัตตวนาราม จากประเทศไทย และได้เยี่ยมชมการปลูกพืชผัก ตามแนวทางระบบ "เศรษฐกิจแบบพอเพียง" ที่อเมริกา และได้ประกอบอาหารไทยด้วยพืชผักปรอดสารพิษ เพื่อถวายพระภิกษุภายในวัด คุณศรินรัตน์ รู้สึกปลึ้มปีติประทับใจมาก ที่ได้เห็นแม่ชีแดงและคณะนำวิถีชีวิตแบบไทยและความพอเพียงมาใช้ในประเทศอเมริกา โดยปลูกพืชผักรับประทานเอง และได้ประกอบอาหารถวายพระภิกษุสงฆ์เป็นประจำทุกวัน พร้อมทั้งจะได้นำหลักวิถีนี้ไปบอกกล่าวเพื่อเป็นตัวอย่างกับคนไทยที่ประเทศไทยว่า ถึงแม้ผืนแผ่นดินหรือที่ดินที่พักจะมีจำกัด ไม่มากมายเหมือนคนไทยที่มีที่ดินว่างเปล่ามากมาย แต่ที่อเมริกา ได้อาศัยความพอเพียง ใช้พื้นที่ภายในบ้านทำการแพะปลูก และได้ผลเกินคาด เพราะด้วยความขยันและยึดหลักการ เศรษฐกิจแบบพอเพียง
สำหรับคุณศรินรัตน์ หรือคุณโยมเมี้ยง ก็ถือได้ว่าเป็นนักธุรกิจที่นำวัสดุจากธรรมชาติ มาดัดแปลงให้เกิดรายได้ และยังกระจายรายได้สู่ชาวบ้านตามป่าตามภูเขา เก็บดอกไม้ป่าที่หล่นแห้งอยู่ตามต้น เช่น ดอกตะแบก ลูกมะค่า ลูกต้นประดู่เป็นต้น และดอกไม้แห้งต่างๆ หรือลูกไม้แห้งชนิดต่างๆที่อยู่ตามป่าตามเขา โดยเฉพาะที่ชาวบ้านปลูกตามหมู่บ้าน มีดอกไม้ต่างๆที่แห้งตามธรรมชาติ บางครั้งก็จ้างชาวบ้านให้เก็บแล้วนำมาตากแห้งจากนั้นนำมาขายส่งให้อีกที เพื่อส่งเสริมชาวบ้านให้มีรายได้อีกทาง โดยการสั่งซื้อจากกลุ่มเกษตรแม่บ้าน หรือชาวบ้านกลุ่มโอท็อปบ้าง เพื่อนำมาอบน้ำหอมผสมเครื่องของหอมต่างๆ ปรุงแต่งสีสันอีกที แล้วนำไปบรรจุภัณฑ์เป็นกล่อง ใส่ขวดแก้วบ้าง กล่องบรรจุภัณฑ์ต่างๆสีสวยสดงดงามและมีกลิ่นหอม และยังมีผลิตรภัณฑ์เทียนหอมต่างๆอีกมากมาย สนใจเข้าไปดูได้ที่เว็บไซด์ www.shivajarus.com ซึ่งเป็นที่นิยมไปทั่วโลก แถมยังเป็นสินค้าชั้นเยี่ยม ใส่กล่องสีสันสวยงามและมีกลิ่นหอมของน้ำหอมกลิ่นต่างๆ เจ้าของบริษัทยังเป็นคนใจบุญสุนทานอีกด้วย โดยเฉพาะผลิตรภัณฑ์แต่ละโชว์เคสหรือแต่ละชิ้น จะมีบทแห่งธรรมะพิมพ์ติดเสริมไปด้วย ใช้ไปด้วยอ่านธรรมะไปด้วย ถือว่าเป็นธุรกิจการค้าที่ประกอบด้วยบุญจริงๆ เพราะเจ้าของผู้ผลิตรใจบุญ คนใช้ผลิตรภัณฑ์ก็เลยพลอยได้บุญไปด้วย อย่างนี้พุทธศาสนิกชนที่อุดหนุนเทียนหอมบูชาไหว้พระสวดมนต์ คงได้อ่านธรรมะเพิ่มเติมได้และเห็นสัจจะธรรมแน่นอน
และได้อาศัยความสามัคคีของคณะลูกศิษย์พุทธศาสนิกชนวัดภูริทัตตวนาราม คอยให้คำแนะนำ โดยปกติแล้วแม่ชีแดงก็เป็นที่ให้คำปรึกษาด้านการเพาะปลูกและด้านการประกอบอาหารแก่ชาวไทยที่ต้องการจะประกอบอาหารบิณฑบาตรเพื่อถวายพระภิกษุสงฆ์ เนื่องด้วยแมีชีแดงก่อนที่จะสละการอยู่ครองเรือนมาถือบวชชีรักษาศีล 8 ก็เคยประกอบกิจการร้านอาหารเลยถือโอกาศนำเมนูอาหารไทย มาสอนชาวต่างชาติที่มาทำบุญที่วัด ประกอบอาหารรับประทานเอง แถมยังได้ทำบุญใส่บาตรถวายพระอีกต่างหาก แม่ชีแดงพร้อมคณะได้ประกอบอาหาร ด้วยพืชผักปลอดสารพิษ ที่ปลูกเอง โดยอาศัยหลักการแห่ง เศรษฐกิจพอเพียง ที่นำความรู้พื้นฐานมาจากเมืองไทย มาปฏิบัติเป็นแบบอย่างให้ชาวอเมริกาได้เห็นเป็นตัวอย่าง โดยอาศัยพื้นที่บ้านพักแม่ชี ที่ตนอยู่อาศัย ทำการเพาะปลูก ส่วนด้านพันธุ์พืชผักนั้นนับว่ามีทุกอย่าง เช่น มะม่วง มังคุต ละมุด ลำใย มะเฟือง มะไฟ มะกรูด มะนาว (ยกเว้นมะพร้าว) ส้มโอ ฟัก แฟง แตงไทย แตงโม อะโวกาโด เป็นต้น นับว่าร้อยแปดพันประการแห่งพืชผักก็ว่าได้ เวลาจะประกอบหรือปรุงอาหาร เดินออกจากประตูไปแค่ก้าวเดียวก็ได้ผัก ผลไม้ กลับเข้ามาในโรงครัว นี่นับว่าเป็นบุคคลน่าเอาเป็นตัวอย่าง และแม่ชีแดงบอกว่า ได้กุศลผลบุญมากมายดีกว่าการฆ่าสัตว์ แล้วทำอาหารมาถวายพระเสียอีก
ระบบเศรษฐกิจพอเพียงนั้น อาจกล่าวได้ว่า เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการรักษาธรรมชาติ เพราะทำให้ที่พักอาศัยร่มรื่น และอากาศหมุนเวียนได้ดี มีพืชผักปลอดสารพิษทำอาหารแถมยังประหยัดที่จะไปจับจ่ายซื้อสินค้าตามตลาดมารับประทาน พืชผักปลูกเองมั่นใจได้เลยว่าสะอาดและไม่มีพิษภัยแน่นอน เพราะปลูกเองกับมือ อีกทั้งเพื่อนบ้านสามารถมาขอไปรับประทานได้อีก หากจะทำอย่างหนุ่มคนนี้และแม่ชีแดงหรือลูกศิษย์วัดภูริทัตตวนารามก็คงดี คือทำอาหารถวายพระทุกวันด้วยพืชผักที่ตนปลูกเองและไม่เบียดเบียนฆ่าสัตว์ให้เกิดบาปก่อกรรม
นี่เป็นผลงานของคณะลูกศิษย์วัดภูริทัตตวนาราม ที่ร่วมมือกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีมีประโยชน์ ต่อพระพุทธศาสนาและธรรมชาติ อีกทั้งยังได้ฝึกและสอนวิธีการใช้วิถีเลี้ยงชีพแบบ "พอเพียง" กับชาวอเมริกา ให้เรียนรู้วิถีชีวิตแบบไทยๆอีกด้วย
ขอให้พุทธบริษัททุกท่าน จงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด
SAVING THE WORLD BY DHAMMA TEAM
CALIFORNIA, U.S.A.
ธุจ้าขอบคุณเวบบ้านมหา
ธุจ้าขอบคุณบทความจากวัดภูริทัตตวนาราม ในอเมริกา
ธุจ้าขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน
Bookmarks