รู้ไว้สักนิด 10 ข้อควรเลี่ยงในการสร้างบ้าน


1. กะขนาดพื้นที่ไม่เหมาะกับแอร์

อาจจะเป็นเพราะอากาศที่ร้อนขึ้นทุกวัน จึงทำให้คนที่กำลังจะสร้างบ้านใหม่ คิดเรื่องการติดเครื่องปรับอากาศกันเป็นอันดับต้น ๆ แต่สิ่งที่มักทำพลาดกันบ่อย ๆ ก็คือ การกะขนาดห้องกับเครื่องปรับอากาศได้ไม่พอดีกัน โดยส่วนมากจะเป็นปัญหาเรื่องโครงสร้างของห้องหรือขนาดพื้นที่ที่กว้างมากเกินไป ทำให้เวลาติดเครื่องปรับอากาศก็จะให้ความเย็นได้ไม่ทั่วถึง จนต้องปรับอุณหภูมิให้ต่ำลง หรือต้องติดเครื่องปรับอากาศหลายเครื่อง เป็นเหตุเปลืองไฟไปเปล่า ๆ ดังนั้นอย่าลืมดูค่า BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้องด้วย

2. ออกแบบพื้นที่ไม่เหมาะสม

หลัก ๆ แล้วพื้นที่ภายในบ้านหลังหนึ่งจะประกอบไปด้วยห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องโถง ห้องเก็บของ แต่บางบ้านที่มีพื้นที่กว้างพออาจจะเพิ่มห้องแต่งตัว ห้องทำงาน ห้องพระ ห้องออกกำลังกาย ห้องอาหารเข้าไปด้วย ซึ่งประเด็นก็คือ หลายบ้านออกแบบพื้นที่ต่าง ๆ เหล่านี้ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น สร้างห้องแต่งตัวใหญ่ไป จนกินพื้นที่ห้องนอน ห้องน้ำ หรือห้องรับแขก หรือประหยัดพื้นที่ห้องต่าง ๆ เกินไปจนห้องโถงกว้างโล่งดูไม่สมดุล ดังนั้นก่อนจะลงมือสร้างก็ควรคำนึงถึงความพอดี และการใช้งานของแต่ละห้องด้วย หรือแบ่งพื้นที่ว่างโล่งไว้บ้าง เผื่อวันข้างหน้าหากมีโครงการต่อเติมพื้นที่ในบ้านขึ้นมาจะได้ไม่วุ่นวาย

3. สร้างบ้านโดยไม่คำนึงถึงอนาคต

อย่างที่บอกไปว่าการออกแบบบ้านค่อนข้างต้องใช้ความรอบคอบ และสายตาที่กว้างไกล มองให้ไกลไปถึงอนาคต ในขณะที่ก็คำนึงถึงประโยชน์และความสะดวกสบายของทุกคนในบ้านด้วย อย่างเช่นบ้านที่มีเด็กเล็ก หรือคนชราก็ควรจะเลือกสร้างห้องหรือโครงสร้างบ้านที่ดูปลอดภัย ไม่ต้องมีพื้นต่างระดับให้เสี่ยงอุบัติเหตุ หรือมีห้องนอนชั้นล่างเพื่อความสะดวก รวมไปถึงต้องมองยาวไปถึงอนาคต ว่าอาจจะต้องต่อเติมบ้าน หรือเราจะต้องการอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า คิดเผื่อไว้ก่อนวันข้างหน้าหากเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอะไรจะได้ไม่ลำบากจ้า

4. บ้านทึบเกินไป

ถ้าต้องการสร้างบ้านให้ประหยัดพลังงาน อย่างแรกที่เราไม่ควรพลาดเลยก็คือการออกแบบให้บ้านมีหน้าต่าง หรือติดกระจกที่กำแพงบ้าน ให้แสงส่องเข้ามาได้ เพราะนอกจากพลังงานแสงจากธรรมชาติอย่างแสงแดดจะช่วยให้เราประหยัดไฟแล้ว ยังสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียในบ้านได้ด้วย และหากบ้านมีกระจกหรือหน้าต่างเยอะ ก็จะได้ถือโอกาสเปิดรับลมให้บ้านในช่วงกลางวัน ให้บ้านได้ระบายอากาศ และความอับชื้นได้อีกทาง แต่ต้องไม่ลืมดูทิศทางของลมและแสงแดดให้ดีด้วย

5. ห้องที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน

สำหรับบ้านที่มีพื้นที่มากพอจะทำห้องต่าง ๆ ได้หลายห้อง ก็อาจจะเผลอออกแบบห้องด้วยความเพลิดเพลิน จนทำให้มีห้องเกินความจำเป็นต่อการใช้งาน ฉะนั้นจึงอยากแนะนำให้ใคร่ครวญให้ดี และเลือกสร้างบ้านตามความจำเป็นดีกว่า ห้องไหนที่ไม่คิดว่าจะได้ใช้งาน หรือไม่ค่อยมีความจำเป็นสักเท่าไร ก็ระงับการสร้างไว้ก่อน แล้วเปลี่ยนใจมาสร้างห้องที่สามารถเปลี่ยนใช้งานได้ตามความเหมาะสมเถอะ จะได้ไม่เกิดเหตุประเภทห้องออกกำลังกายกลายเป็นห้องตากผ้า หรือที่แขวนเสื้อผ้า และหากตัดห้องไม่สำคัญออกไปบ้าง อาจทำให้พื้นที่ในห้องอื่น ๆ ขยายกว้างขึ้นได้ด้วย

รู้ไว้สักนิด 10 ข้อควรเลี่ยงในการสร้างบ้าน


6. จัดวางระบบน้ำไม่ถูกต้อง

ระบบน้ำหลัก ๆ ของบ้านอย่างก็อกน้ำต่าง ๆ คงไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่ต้องระวังเพราะมักจะพลาดกันเป็นส่วนใหญ่ก็คือการจัดวางตำแหน่งเครื่องซักผ้า และท่อน้ำทิ้ง ซึ่งถ้าวางระบบไม่ดีก็อาจจะเกิดปัญหาท่ออุดตัน น้ำล้น หรือน้ำท่วมบ้านในภายหลัง ดังนั้นจึงอยากให้ศึกษาตำแหน่งจัดวางเครื่องซักผ้าโดยปรึกษากับวิศวกรหรือผู้รับเหมาให้ดี ว่าควรจะวางระบบซักล้างไว้ในตำแหน่งไหนของบ้านได้บ้าง เพื่อป้องกันปัญหาจุกจิกที่อาจเกิดขึ้นได้ในภายหลัง

7. เลือกตำแหน่งห้องนอนไม่เหมาะสม

ห้องนอนควรจะต้องอยู่ในจุดที่ห่างไกลจากเสียงรบกวน ไม่อยู่ใกล้โรงจอดรถ และไม่มีผนังติดกันกับห้องนั่งเล่นในกรณีที่มีสมาชิกอยู่กันหลายคน หรือถ้าบ้านเป็นแบบบ้าน 2 ชั้น ก็เลือกห้องนอนให้อยู่ชั้นบน แต่ถ้าเป็นแบบบ้านชั้นเดียวควรเลือกตำแหน่งห้องนอนให้อยู่ลึกสุด เพื่อกันไม่ให้มีเสียงดังเล็ดลอดเข้ามารบกวนในขณะที่นอนหลับได้ แต่อย่าลืมว่าต้องไม่อยู่ติดกับห้องครัวด้วย เพราะกลิ่นรบกวนและความร้อนจากการทำอาหารจะทำให้นอนไม่สบาย หลับไม่สนิท และอาจเกิดอันตรายจากไฟไหม้ได้

8. ห้องครัวอยู่ผิดที่ผิดทาง

ห้องครัวเป็นห้องที่ถือว่าถูกใช้งานมากที่สุดห้องหนึ่งในบ้าน อีกทั้งยังมีความวุ่นวายจากการลงมือประกอบอาหาร รวมถึงของข้าวของเครื่องใช้ของมีคมต่าง ๆ อีกมากมาย ดังนั้นตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดของห้องครัวควรจะเป็นพื้นที่ด้านหลังที่ติดกับโรงจอดรถ และอยู่ใกล้กับห้องรับประทานอาหาร เวลาที่ซื้อของเข้าบ้าน จะได้เดินเข้าทางหลังบ้าน วางของทุกอย่างไว้ในครัวก่อน แล้วค่อยแยกเก็บให้เป็นที่เป็นทาง สะดวกสบาย และเป็นการเลี่ยงการเดินหิ้วของเข้าออกผ่านห้องรับแขกด้วย นอกจากนี้หากห้องครัวอยู่หลังบ้านยังสามารถระบายกลิ่นจากการทำอาหารได้ง่าย โดยไม่ส่งกลิ่นรบกวนมาถึงบริเวณหน้าบ้านด้วย

9. โรงจอดรถอยู่หน้าบ้าน

ตำแหน่งที่ใช้เป็นโรงจอดรถควรจะต้องติดกับประตูด้านหลังบ้าน ห้องครัว หรือห้องเก็บของ เพราะส่วนมากโรงจอดรถมักจะเป็นสถานที่ที่เรามักจะวางของที่เคลียร์ลงจากหลังรถออกมาวางไว้ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ากีฬา ชุดกีฬาที่ยังไม่ได้ซัก หรือข้าวของต่าง ๆ ซึ่งพอเอาลงมาแล้วจะได้หิ้วเข้าทางหลังบ้านไปยังห้องซักล้าง หรือห้องต่าง ๆ ได้สะดวก ไม่ต้องเดินเข้าทางหน้าบ้านให้วุ่นวายเลอะเทอะ ดังนั้นหากเลี่ยงได้ไม่ควรมีโรงจอดรถอยู่หน้าประตูเข้าบ้านโดยตรง แต่ควรอยู่ด้านข้างหรือหลังบ้านมากกว่า


10. ทำตามคำแนะนำจากคนอื่น

อย่าลืมว่าบ้านนี้เป็นบ้านของคุณและครอบครัว ดังนั้นก็สร้างบ้านตามความเหมาะสมและความจำเป็นที่คุณกับครอบครัวต้องการก็พอ ส่วนสิ่งที่คนอื่นแนะนำก็แค่รับฟังไว้ อันไหนที่คุณเห็นด้วยก็ดีที่จะลองทำตาม หรืออันไหนที่คิดว่าไม่เหมาะกับความต้องการจริง ๆ ก็ปล่อยผ่านไปดีกว่า เพื่อความสะดวกสบายและความเหมาะสมกับการอยู่อาศัยของคุณเองนะคะ ไม่จำเป็นต้องสร้างบ้านตามคำพูดของคนอื่นทุกครั้งและทุกเรื่อง เพราะบางอย่างอาจจะไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตของคุณและครอบครัวก็ได้


แหล่งที่มา http://home.kapook.com