ผักเสี้ยน สรรพคุณและประโยชน์ของผักเสี้ยน 29 ข้อ !

ผักเสี้ยน

ผักเสี้ยน ชื่อสามัญ Wild spider flower[1], Spider Weed, Spider Flower[3] ผักเสี้ยน ชื่อวิทยาศาสตร์ Cleome gynandra L.[1] หรือ Gynandropsis pentaphylla D.C[2] จัดอยู่ในวงศ์ผักเสี้ยน (Cleomaceae) มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ อีกเช่น ผักเสี้ยนขาว ผักเสี้ยนไทย ผักเสี้ยนบ้าน ผักเสี้ยนตัวผู้ (ภาคกลาง), ส้มเสี้ยน ผักส้มเสี้ยน (ภาคเหนือ)[2] เป็นต้น โดยมีถิ่นกำเนิดและมีเขตการกระจายพันธุ์อยู่ทั่วไปในทวีปเอเชีย (รวมทั้งไทย) และแอฟริกา สำหรับในประเทศไทย แหล่งที่พบผักเสี้ยน มักพบขึ้นเป็นวัชพืชตามท้องไร่ปลายนา ที่รกร้างว่างเปล่าทั่วไป และริมลำธาร[1]

วงศ์ผักเสี้ยน มีอยู่ด้วยกันประมาณ 20 สกุล และมีมากกว่า 300 ชนิด ในประเทศไทยจะมีอยู่ด้วย 5 ชนิดได้แก่ ผักเสี้ยน (Cleome gynandra L.), ผักเสี้ยนผี (Cleome viscosa L.), ผักเสี้ยนขน (Cleome rutidosperma DC.), ผักเสี้ยนป่า (Cleome chelidonii L. f.), และผักเสี้ยนฝรั่ง (Cleome hassleriana Chod.) ซึ่งทั้งหมดจะจัดอยู่ในสกุล Cleome หรือวงศ์ Cleomaceae แต่ผักเสี้ยนที่สามารถพบเห็นได้บ่อยๆ จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด นั่นก็คือ ผักเสี้ยนขาว (ผักเสี้ยนตัวผู้) และผักเสี้ยนผี (ผักเสี้ยนตัวเมีย)

ลักษณะของผักเสี้ยน

ต้นผักเสี้ยน จัดเป็นไม้ล้มลุกมีความสูงประมาณ 30-15 เซนติเมตร ส่วนต่างๆ ของต้นมีขนปกคุลม[1] ส่วนรากเป็นรากแก้ว และรากแขนงจำนวนมาก ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด[2]


ผักเสี้ยน สรรพคุณและประโยชน์ของผักเสี้ยน 29 ข้อ !

ใบผักเสี้ยน มีใบเป็นใบประกอบมี 3-5 ใบย่อย ก้านใบมีความยาวประมาณ 3-8 เซนติเมตร ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปไข่กลับหรือรูปใบหอกกลับ ยาวประมาณ 2.5-5 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนเรียวสอบ ส่วนขอบใบเป็นจักฟันเลื่อยละเอียด และมีใบประดับจำนวนมาก ใบย่อยมี 3 ใบ ยาวประมาณ 0.5-2.5 เซนติเมตร ก้านสั้น[1]

ผักเสี้ยน สรรพคุณและประโยชน์ของผักเสี้ยน 29 ข้อ !

ดอกผักเสี้ยน ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ยาวประมาณ 5-2 เซนติเมตร ขยายอีกในช่อผล ดอกจำนวนมาก ส่วนก้านดอกยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงดอกมี 4 กลีบ ลักษณะเป็นรูปใบหอก ยาวได้ประมาณ 7 มิลลิเมตร มีเกสรตัวผู้ 6 อัน ติดบนก้านชูเกสรร่วมที่ยาวประมาณ 0.8-2.3 เซนติเมตร ก้านมีเกสรสีม่วง ยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร อับเรณูมีสีเขียวอมน้ำตาล ลักษณะเป็นรูปขอบขนาน ยาวประมาณ 1-3 มิลลิเมตร ก้านรังไข่สั้นๆ ยาวประมาณ 1-2 มิลลิเมตร ยื่นยาว 1-1.4 เซนติเมตร ในผล รังไข่เป็นรูปทรงกระบอกสั้นๆ ยาวประมาณ 2-3 มิลลิเมตร มีก้านเกสรตัวเมียสั้น ยอดเกสรเป็นตุ่มและติดทน[1]

ผักเสี้ยน สรรพคุณและประโยชน์ของผักเสี้ยน 29 ข้อ !

ผลผักเสี้ยน ลักษณะของผลมีลักษณะเป็นฝักยาวคล้ายถั่วเขียว ฝักมีสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ฝักยาวประมาณ 4-9.5 เซนติเมตร ด้านในฝักมีเมล็ดจำนวนมาก

ผักเสี้ยน สรรพคุณและประโยชน์ของผักเสี้ยน 29 ข้อ !

เมล็ดผักเสี้ยน เมล็ดมีน้ำตาลแดงปนสีดำ ผิวเมล็ดมีรอยย่น ยาวประมาณ 1.5 มิลลิเมตร[1]
สมุนไพรผักเสี้ยน โดยส่วนที่นำมาใช้เป็นยาสมุนไพรได้แก่ ต้น ดอก ใบ เมล็ด และราก แต่ปกติทั่วไปแล้วจะไม่ค่อยใช้ผักเสี้ยนมาเป็นยาสมุนไพรมากนัก แต่จะนิยมมาดองกินมากกว่า ส่วนผักเสี้ยนชนิดที่นิยมนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรนั้น จะใช้ผักเสี้ยนผีมากกว่า แต่บางครั้งก็ใช้ทั้งสองอย่าง

สรรพคุณของผักเสี้ยน

สรรพคุณผักเสี้ยน ช่วยบำรุงเลือดลม บำรุงร่างกายและให้พลังงาน (ผักเสี้ยนดอง)[4]
ผักเสี้ยนมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านมะเร็ง มีฤทธิ์เป็นช่วยฆ่าเชื้อ (ผักเสี้ยนดอง)[4]
รากผักเสี้ยน ใช้ต้มรับประทานเป็นยาแก้ไข้ (ราก)[2] ทั้งต้นสรรพคุณช่วยแก้ไข้ตรีโทษ (ทั้งต้น)[3]
ผักเสี้ยน สรรพคุณช่วยแก้อาการปวดหู (ใบ)[2]
รากใช้ต้มรับประทานเป็นยารักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน (ราก)[2]
เมล็ดผักเสี้ยน สรรพคุณช่วยขับเสมหะ (เมล็ด)[2] ส่วนใบช่วยบำรุงเสมหะให้เป็นปกติ (ใบ)[3]
รากผักเสี้ยน สรรพคุณช่วยแก้ลมอันเป็นพิษ (ราก)[3]
ทั้งต้น (ใบ ดอก ต้น เมล็ด ราก) มีรสร้อน สรรพคุณช่วยแก้อาการปวดท้อง ลงท้อง (ทั้งต้น)[3]ผักเสี้ยนไทย
เมล็ดผักเสี้ยน สรรพคุณช่วยขับพยาธิไส้เดือน (เมล็ด)[2]
ช่วยแก้ปัสสาวะพิการ (ใบ)[5]
ช่วยแก้เริม (ใบ)[5]
ทั้งต้น นำมาต้มหรือดองรับประทาน มีสรรพคุณช่วยขับระดูของสตรี (ทั้งต้น)[2]
ช่วยแก้ประจำเดือนเสียของสตรี (ทั้งต้น)[2] ดอกช่วยแก้เลือดสตรีอันอยู่ในเรือนไฟ (ดอก)[3]
ใบผักเสี้ยน สรรพคุณช่วยแก้งูสวัดได้ (ใบ)[5]
ทั้งต้นหรือใบ ใช้ตำพอกรักษาฝี แก้พิษฝี และบรรเทาอาการระคายเคือง (ใบ,ทั้งต้น)[2]
ช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย แมงป่องกัด หรืองูกัด (ทั้งต้น)[2] แต่ไม่ควรพอกนานเพราะจะทำให้ผิวไหม้ได้[4]
ทั้งต้นนำมาตำแล้วพอกช่วยให้เลือดมาเลี้ยงที่ผิวหนัง และช่วยแก้อาการปวดเมื่อยได้ (ทั้งต้น)[2]
ใบนำมาตำหรือทาช่วยแก้อาการปวดเมื่อย (ใบ)[2]
ต้นและใบ ใช้ตำนำมาพอกแก้อาการอักเสบ ช้ำบวมได้ (ใบ,ต้น)[4]
ทั้งต้นใช้ปรุงเป็นยาแก้อาการเจ็บหลังได้ (ทั้งต้น)[2]
ต้นและใบ นำมาตำใช้พอกฝีให้แตกและไม่เป็นหนองได้ (ใบ,ต้น)[4]
ทั้งต้น ใช้ปรุงเป็นยาแก้อาการเมาเหล้า เมาสุรา (ทั้งต้น)[2]

ผักเสี้ยน สรรพคุณและประโยชน์ของผักเสี้ยน 29 ข้อ !

ผักเสี้ยน สรรพคุณและประโยชน์ของผักเสี้ยน 29 ข้อ !

คำแนะนำในการใช้ผักเสี้ยน

สตรีห้ามรับประทานในปริมาณมาก เพราะจะทำให้ระดูพิการ มีระดูขาวมากผิดปกติและมีกลิ่นเหม็นมาก ไม่ดีต่อมดลูก และสำหรับสตรีแม่ลูกอ่อนควรระวังให้มาก เพราะอาจจะเป็นลมได้[2]
ผักเสี้ยนสดจะมีสารไฮโดรไซนาไนต์ (Hydrocyanide) ซึ่งมีพิษต่อประสาทส่วนกลาง สารนี้จะสลายไปก็ต่อนำไปต้มหรือดองก่อนการนำมารับประทาน[2]
ประโยชน์ของผักเสี้ยน

นิยมใช้ทำเป็นผักดองไว้รับประทาน สำหรับวิธีการทำผักเสี้ยนดอง ก็คือให้นำผักเสี้ยนมามาหั่น ให้มีขนาดพอเหมาะ แล้วนำไปตากแดดพอหมาด เพื่อกำจัดกลิ่นเหม็นเขียว หลังจากนั้นให้นำข้าวเย็นสุก 1 กำมือ ต่อผักเสี้ยน 5 ถ้วยแกง นำมาขยำกับเกลือให้มีรสเค็มเล็กน้อย เมื่อเสร็จให้นำผักเสี้ยนที่เตรียมไว้ใส่ลงไป แล้วเติมน้ำตาลโตนด 5 ช้อนแกง คลุกเคล้าจนเข้ากัน และปิดฝาภาชนะตั้งทิ้งไว้ประมาณ 3-4 คืน ผักที่ดองจะมีรสเปรี้ยว สามารถนำมารับประทานเป็นผักจิ้มกินกับน้ำพริก หรือนำไปแกงใส่กระดูกหมู แกงส้มกุ้งหรือปลา เป็นต้น[2]
นอกจากนี้ยังนำมาต้มหรือลวกให้สุก เพื่อช่วยลดความขมและกลิ่นเหม็น โดยนำไปเป็นผักจิ้มได้เช่นเดียวกับผักเสี้ยนดอง แต่ไม่เป็นที่นิยมนัก[3]
ผักเสี้ยนดอง เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่ขาดสารอาหาร เช่น การขาดวิตามินเอ หรือเป็นโรคโลหิตจาง มีปัญหาเรื่องระบบลำไส้ เพราะนอกจากจะมีเส้นใยอาหารสูงแล้วยังสามารถช่วยขจัดสิ่งตกค้างที่อยู่ในลำไส้ได้อีกด้วย[4]
ในอินเดียมีการใช้เมล็ดผักเสี้ยนผี นำมาสกัดทำเป็นยาฆ่าแมลง[3]
ในแอฟริกา มีการใช้ยอดและใบอ่อนผักเสี้ยน นำมาใช้ปรุงรสและแต่งกลิ่นซอส[3]
ในอินโดนีเซีย ใช้เมล็ดเป็นอาหาร[3]
ในอินโดนีเซีย นำผักเสี้ยนมาเป็นอาหารสัตว์ สำหรับเลี้ยงสัตว์[3]

[IMG]http://www.greenerald.com/wp-content/uploads/2013/10/%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%87.jpg
[/IMG]

แหล่งอ้างอิง

สำนักงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: web3.dnp.go.th. [7 ต.ค. 2013].
รายการสาระความรู้ทางการเกษตร ฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: natres.psu.ac.th. [7 ต.ค. 2013].
มูลนิธิหมอชาวบ้าน, นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 244. เดชา ศิริภัทร. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.doctor.or.th. [7 ต.ค. 2013].
คมชัดลึกออนไลน์. ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.komchadluek.net. [7 ต.ค. 2013].
สวนพฤกษศาสตร์สายยาไทย. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.saiyathai.com. [7 ต.ค. 2013].
ภาพประกอบ : เว็บไซต์ flickr.com (by Navida2010, Sharpj99, Russell Cumming, SierraSunrise, Hoa Trai Viet Nam), เว็บไซต์ diaryclub.com (by ketkaew)