อานิสงส์แห่งเมตตาจิต
๑. ผู้เจริญเมตตาย่อมนอนเป็นสุข ไม่ต้องหวาดระแวงต่ออันตรายรอบด้าน
๒. ตื่อขึ้นก็เป็นสุข คือตื่นด้วยสีหน้าอิ่มเอิบปราศจากความมัวหมองใจ
๓. ในขณะหลับสนิทไม่ฝันเห็นอารมณ์อันลามก ถ้าจะฝันก็ฝันเห็นแต่อารมณ์ที่เป็นสุภนิมิตรอย่างเดียว ดุจพระพุทธเจ้าทรงสุบินตอนใกล้วันตรัสรู้ฉะนั้น
๔. เป็นที่รักของเพื่อนมนุษย์ทั่วทุกทิศ
๕. ถึงอมนุษย์ก็พอใจรักใคร่เขา ปราศจากความคิดเบียดเบียนใดๆทั้งสิ้น
๖. เทพยดาย่อมให้การอารักขา อำนวยอวยชัยให้ประสิทธิผลในกิจการทุกอย่างแก่บุคคลนั้นๆโดยความพอใจ
๗. ไฟและศัสตรายาพิษ ไม่สามารถจะซึมซับเข้าไปทำอันตรายแก่ชีวิตของบุคคลผู้นั้นได้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ เช่นเมตตาของพระนางสามาวดีเป็นตัวอย่าง
๘. จิตตานุภาพของผู้นั้น ย่อมสำเร็จได้โดยรวดเร็วสมความมุ่งหมาย
๙. สีหน้าของผู้นั้นงดงามเปล่งปลั่งอยู่เป็นนิตย์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงที่เป็นปกติในที่ทุกสถาน ในการทุกเมื่อ ปราศจากหน้ายิ้วคิ้วขมวด ไม่ว่าจะประสบกับอารมณ์ใดๆ
๑๐.สุดท้ายของชีวิต ย่อมไม่หลงลืมตายไป มีสติรอบคอบเป็นพิเศษ มีจิตแน่วแน่ไม่สะทกสะท้านต่อมรณะภัย
๑๑. ผู้เจริญเมตตา แม้จะไม่สำเร็จธรรมพิเศษในชาติปัจจุบัน แต่ก็มีหวังเข้าถึงพรหมโลก

อานิสงส์ของการเจริญเมตตานี้ หวังว่าพอจะเป็นแนวทางของผู้ใคร่ที่จะปฏิบัติได้เป็นอย่างดี

ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ท่านทั้งหลาย

เม. ก. ม. อุ. เป็นมหานิยม