๛การแกลมอ๛

ฟังเพลงแกลมอได้ที่นี่คับ www.baanmaha.com/forums/index.php/topic,23945.0.html

แกลมอ?


?กูย หรือ กวย? เป็นคนพื้นเมืองดั้งเดิมของ จ.สุรินทร์ ที่สืบเชื้อสายมาจากขอม ซึ่งมีความรู้ความสามารถในด้านวิชาคาถาอาคม มีอาชีพในการจับช้างและเลี้ยงช้างมานานหลายชั่วอายุคน ชอบอาศัยอยู่ในทำเลป่าดง คนเหล่านี้เป็นกลุ่มชาติพันธ์ที่จัดอยู่ในกลุ่มที่พูดภาษา ?ออสโตรเอเซียติก? ซึ่งมีเฉพาะภาษาพูด แต่ไม่มีภาษาเขียน เรียกกันว่า ?ข่า ส่วย หรือ กวย? ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอจอมพระ ท่าตูม ศีขรภูมิ และ อ.สังขะ จังหวัดสุรินทร์ส่วนหนึ่งอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี และบางหมู่บ้านของจังหวัดมหาสารคาม รวมทั้งจังหวัดนครราชสีมา ด้วยในปัจจุบันชนกลุ่มนี้ยังอาศัยอยู่อย่างกระจัดกระจาย ในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศกัมพูชา และทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นกลุ่มที่รู้จักกันในนามของ ?ข่า? ซึ่งมีวัฒนธรรมด้านภาษาอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับชาวกูย และภาษากูย หลายคำเมื่อรวมเข้ากับภาษาเขมร จะมีรากศัพท์ใกล้เคียงกับภาษาพูดของชาว ?ไทโส้? ที่อาศัยอยู่ในอำเภอกุสุมาลย์ จ.สกลนคร ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นกลุ่มคนที่สืบทอดศิลปวัฒนธรรมประเพณี ต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาหลายพันปีมาแล้ว

หนึ่งในความเชื่อของ ?ชาวกูย? คือ การแสดง ?แกลมอ? ซึ่งเป็นการแสดงที่สืบเนื่องมาจากความเชื่อว่า ชาวกูยทุกคนจะมีดวงวิญญาณของบรรพบุรุษคอยปกป้องคุ้มครอง ปกปักรักษาอยู่ตลอดเวลา ในทุกๆ ปีชาวกูยจะจัดให้มีพิธีกรรมการแสดง ?แกลมอ? เพื่อบูชาดวงวิญญาณบรรพบุรุษและสิ่งสิทธิ์ เพื่อเป็นการเสริมสร้างกำลังใจ ตลอดถึงการรักษาผู้ป่วยไข้เช่นเดียวกับการ ?โจลมะม๊วด? ของชาวเขมร หรือ ?โส้ทั่งบั้ง? ของชาวไทโส้ ในอำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร ซึ่งพิธีแกลมอ จะมีอยู่ 3 ประเภท คือ

1. การบูชาดวงวิญญาณบรรพบุรุษเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ

2. การประกอบพิธีกรรมเพื่อรักษาผู้ป่วย ซึ่งเป็นการอัญเชิญดวงวิญญาณของบรรพบุรุษมาให้ความช่วยเหลือ ขอคำแนะนำผ่านล่าม หรือ คนทรงเพื่อหาสาเหตุของการเจ็บป่วยและหาทางรักษาตามความเชื่อ

3. การประกอบพิธีกรรมเพื่อเป็นการแก้บน หรือ สักการะตอบแทนดวงวิญญาณบรรพบุรุษที่ดลบันดาลให้ได้รับความสำเร็จตามคำขอของลูกหลาน

สรุปว่าการแสดง ?แกลมอ? นี้ เป็นพิธีกรรมที่ส่งผลให้เกิดความร่มเย็น การอยู่เย็นเป็นสุขของคนในชุมชน โดยจะมีผู้นำประกอบพิธีกรรม หรือ ?แม่หมอ? ทำหน้าที่ในการอัญเชิญดวงวิญญาณประทับร่าง มีนักดนตรีประมาณ 5-7 คน นางรำตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีเครื่องบวงสรวง เซ่นสังเวย จำนวน 1 ชุด ประกอบด้วย เสื้อผ้าอาภรณ์ เครื่องประดับ พานบายศรี ดอกไม้ธูปเทียน เงิน ทอง เหล้า บุหรี่ หมากพลู ชุดขัน 5 ดาบ 1 เล่ม ไข่ไก่ 1 ฟอง ข้าวสาร และเครื่องประกอบอื่นๆ แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละชุมชน

พิธีกรรมจะเริ่มต้นจากการอัญเชิญดวงวิญญาณบรรพบุรุษมาเข้าประทับร่างแม่หมอ หรือ คนทรง ร่างของแม่หมอจะสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง จากนั้นลูกหลานที่ร่วมพิธีจะผูกข้อมือให้แม่หมอ และแจ้งถึงความประสงค์ที่ได้อัญเชิญดวงวิญญาณของบรรพบุรุษมา เสร็จแล้วแม่หมอ หรือ คนทรงก็จะดื่มกินเครื่องซ่นสังเวย ก่อนที่จะลุกขึ้นฟ้อนรำไปรอบๆ เครื่องสักการะ ผู้ที่ร่วมอยู่ในพิธีก็จะมีอาการสั่นเทิ้มไปตามๆ กัน คนที่อยู่ใกล้ก็จะผูกข้อมือรับและผู้ที่มีอาการดังกล่าวก็จะลุกขึ้นฟ้อนรำไปรอบๆ เครื่องสักการะ เช่นเดียวกับแม่หมออย่างสนุกสนาน กินเวลาข้ามวันข้ามคืนเช่นเดียวกับพิธี ?โจลมะม๊วด? ของชาวเขมร นั่นเอง