ฮอดเมื่อยามเดือนเก้า เฮ็ดบุญข้าว-ประดับดิน ไปฟังธรรมจำศีล คือถิ่นฐานอิสานเค้า
แรมสิบสามค่ำเดือนเก้า มาเด้อเฮา-ฟ้าวเร่งด่วน ของคาวหวาน-แบ่งสี่ส่วน ลองคำนวนเด้อเจ้า ผมสิเว้าสู่ฟัง
ส่วนที่หนึ่งให้เตรียมตั้ง ทั้งครอบครัวของเฮาก่อน ส่วนที่สองกะแน่นอน แบ่งเป็นตอน-ฝากพี่น้อง ผองญาติ-หมู่ทั้งหลาย
ส่วนที่สามเผิ่นบอกไว้ ให้ผองญาติเสียชีวิต เผิ่นอยากให้อุทิศ แก่ญาติมิตรผู้ลับล่วง สิทวงถ้าว่าส่วนบุญ
ส่วนที่สี่กะทางพุ้น ให้เฮ็ดบุญถวายพระ เป็นการอุปการะ ศาสนะพระพุทธะไว้ ให้เฮาได้-ใจชุ่มเย็น
ส่วนที่เป็น-อุทิศญาติ-อย่าให้ขาด-เฮ็ดตองห่อ ของคาวหวานพร้อมนอ ห่อหมากพลูยาสูบพร้อม ตอมไว้-ไส่กระทง
ฮอดตีห้ากะหาซ่ง อยู่นำดงแถวท้ายวัด พ้าวไปจัดแต่งไว้ ให้หมู่ญาติมารับเอา วางของแล้วให้เจ้า เฝ้ากรวดน้ำส่งกุศล
เอิ้นเอาคนผู้ล่วงลับ มาฮับทานเฮาวางไว้ ถึงตอนเช้ากะแม่นได้ เลี้ยงอาหาร-เฮ็ดทานวัด มีแนวได๋กะให้จัด ภัตตาหารเพลเช้า
ฟังพระเว้า เล่าพระธรรม ผมได้นำเรื่องแต่เค้า เว้าบรรยายในท้องถิ่น นำเรื่องข้าวประดับดิน มาแจกแจงสู่เจ้า พออยากเล่าสู่หมู่ฟัง
มูลเหตุของความเป็นมาของเรื่องการทำบุญข้าวประดับดินนี้ เกิดจากความเชื่อตามนิทานธรรมบท ว่า
" ญาติของพระเจ้าพิมพิสารได้ยักยอกเงินวัด ของสงฆ์ต่างๆ ไปเป็นของตนเอง ในสมัยพระกัสสปะพุทธเจ้า
พวกอดีตญาติของพระเจ้าพิมพิสารเหล่านั้น ครั้นตายไปแล้วได้ไปเกิดเป็นเปรตในนรกตลอดพุทธันดร
เมื่อพระเจ้าพิมพิสารถวายทานแด่ พระสมณโคดมพุทธเจ้า ในภัททกัปป์นี้ ก็ไม่ได้ตรวจน้ำอุทิศส่วนกุศล
ไปให้แก่พวกญาติเหล่านั้น พอตกกลางคืนพวกเปรตญาติของพระเจ้าพิมพิสารเหล่านั้น ได้มาส่งเสียง
ร้องอันโหยหวนและแสดงรูปร่างน่ากลัวให้แก่พระเจ้าพิมพิสารได้ ยินและเห็น พอเช้าวันรุ่งขึ้นได้เสด็จ
ไปถามพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงเล่าเรื่องราว ที่เป็นมูลเหตุให้พระเจ้าพิมพิสารได้ทรงทราบ
พระเจ้าพิมพิสารได้ทำบุญถวายทานอีก แล้วทรงอุทิศส่วนกุศลไปให้ พวกญาติที่ตายไปแล้วได้รับ
ส่วนกุศลแล้ว ได้มาแสดงตนให้พระเจ้าพิมพิสารเห็นและทราบว่า ทุกข์ที่พวกญาติ
ได้รับนั้นทุเลาเบาบางลงแล้ว เพราะการอุทิศส่วนกุศลของพระองค์" ชาวอีสานจึงถือเอามูลเหตุนี้
ทำบุญข้าวประดับดิน ติดต่อกันมา
Bookmarks