ดูผลการโหวต: คุณคิดยังไงกับบทความ หรือ กลอนที่หมาน้อยเขียน
- ผู้โหวต
- 0. คุณอาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้คะแนนในสำรวจความนิยมนี้
-
ก็งั้นๆ
-
เยี่ยมมาก
-
ไหวไหลน๊า
-
ไม่เลวนะกับจินตนาการ
-
ศิลปิน นักเขียน
"ควาย"
ควาย
โดยหมาน้อย
สื่อจากความรู้สึกที่แท้จริงของลูกชาวนาคนหนึ่ง
ผมจำได้ว่าเช้ามืดของวันหนึ่ง..ใน.ฤดูกาลทำนา พ่อ กุลีกุจอรีบเร่งฝีเท้าต้อนฝูงควายที่เลี้ยงไว้...
จุดมุ่งหมายคือ ปลายนา
ในใจผมไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าวันนี้พ่อจะทำไร...? ถึงได้ปลุกผมขึ้นมาแต่เช้า...แล้วให้ผมเดินตามต้อนฝูงควาย ฝ่าความมืดไร้แสงแห่งยามเช้าตรู่
ทั้งที่ วันก่อนพ่อไปคนเดียวโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรา..ออ สงสัย..วันนี้คงเป็นวันเสาร์ วันที่ ผมหยุดเรียน..
ความจริงแล้ว....พ่อคงมีการวางแผนเอาไว้ อย่างรอบครอบตั้งแต่ก่อนเข้านอนของเมื่อคืนด้วยซ้ำไป
..ผมต่างหากที่ยังเด็กหารู้ไม่ รู้แค่ว่า วันนี้วันเสาร์ต้องนอนตื่นสายๆ กอดหมอนจนข้อนกิ่วอยู่นั้นแหละ
ผมสังเกตในตัวพ่อหาที่ว่างแทบไม่มี...ที่บ่าซ้ายพ่อแบกคันไถมือประคองอย่างเหนี่ยวแน่น ที่บ่าขวามีเชือกป่านม้วนเป็นวงคล้องบ่าพะลุงพลังมือกำไม้แส้เพื่อไล่ต้อนควาย..ตัวไหนที่ทำตัวมะเก่เกเรออกนอกลู่นอกทาง
พ้อก็จะใช้ไม้เรียวนั้นฟาด ฟั๊บ ไปที่ก้นควายตัวนั้น
ก้าวแล้วเก้าเล่า....จนในที่สุด..ก็ถึงแปลงนาเรา ผมสังเกตที่นานามีการไถบ้างแล้ว..นั้นเป็นการไถ่ครั้งแรก ก่อนจะมีการปักดำทำนา..ในปีนี้...
การไถครั้งแรกบางคนไม่เข้าใจ เพราะไม่ใช่ชาวนา การไถครั้งแรกก็หมายความว่า...การจะปลูกพื้นชนิดใดๆก็ตามต้องมีการ พรวนดิน..ฉันได การทำนาก็เช่นกัน การไถครั้งแรกเพื่อพรวนดินไถเพื่อพลิกดินเพื่อตาก ไถเพื่อกลบหญ้าใบไม้ต้นตอซางข้าวที่ทำปีที่แล้วเพื่อดินกลบ...วัชพืช ทั้งหลาย..จะได้เกิดการ หมักหมม เน่าเปื่อย วัชพืชเหล่านั้นจะกลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์...ธาตุอาหารชั้นดีของข้าวนี่เอง...ดูสิครับความคิดของคนสมัยก่อน คนโบร่ำโบราณ คิดได้อย่างไร..?
พ่อจัดแจงปล่อยฝูง...ผู้เป็นพี่2ตัวออกเล็มหญ้า เหลือไว้ตัวเดียวคือ สีเงินคือควายหนุ่ม กำลังโตเต็มวัย อิอิ ตัวโปรดของผมเลยแหละ เคยเล่นเคยขึ้นหลัง..เคยเอาใบสะเดาขัดสีฉวีวันยามเจ้าสีเงินลงเล่นน้ำ
ดูยามนี้เจ้าสีเงิน มาด ทะมัดทะแมงผิวดำทะมึนร่างกายอ้วนพลี...แหงนหน้าไปมองฝูง...เหมือนย้ำว่า เอ้ !วันนี้ผิดปกติ...ในใจ สีเงินคงครุ่นคิด
จากนั้นพ่อหยิบเอาแอกคล้องคอสีเงิน ไม่นานนักอุปกรณ์ก็จัดสันปันส่วนลงตัว..แล้วพ่อก็สำทับว่า เอ็งจับที่เคาสีเงิน แล้วจูงออกเดินนำหน้ามันเพื่อ วันนี้พ่อจะสอนเอ็งให้เป็นครูฝึกสอน สอนสีเงินให้เรียนรู้การไถนา
อนาคตข้างหน้า...เราต้องหวังพึ่งสีเงิน ในการไถ และ คราด
รอบแล้วรอบเล่าที่ผมเดินนำหน้าเจ้าสีเงิน บางครั้งสีเงินถอดหายใจฮึด ฮัด มีการขัดขืนบ้าง เหมือนกับแสดงออกด้วยความ ไม่พอใจ จนในที่สุดนาแปลงนั้นที่ผมเดินวนรอบแล้วรอบเล่านับ ระยะทางได้หลายกิโล
ก็จบสิ้นลง
ผมหันหน้าเข้าไปใกล้..ๆ สีเงินแล้วจุปาก จุจุจุจุ อยู่ ยอ ยอ ยยยยยยยย...เหมือนกับ สีเงินเชื่อเรา ผมเดาว่า...สีเงินเข้าใจ....อย่างน้อยๆก็มีเราเดินนำหน้า...เป็นเพื่อน..........จนในที่สุดก็สำเร็จ..
สีเงินน่ารักมาก..น้อยครั้งที่จะแสดงความไม่พอใจว่าเมื่อยล้า...ท้อแท้ออกมา....หากใครไม่เคยรู้มาก่อนว่าชาวนาเขาทำเช่นนี้จริง...ผมจึงมีความคิดเห็น..ออกจากความรู้สึกของลูกชาวนา สะท้อนให้เห็นความเป็นจริง..เพราะเดี๋ยวนี้วิวัฒนาการมันก้าวไกล
ก้าวเปลี่ยนไป...มาก..เกินคำอธิบาย....สมัยนี้...ควายชื่อ KUBOTA แล้วถ้าผมถามว่า..ควายตัวนี้ กินหญ้า หรือ น้ำมัน....ใครๆก็ตอบได้ เพราะว่า KUBOTA ป็นเครื่องจักรกล
......สื่อที่มาของบทกลอน คนสอนควาย...ก็ได้เริ่มต้น ณ.ตรงนี้ ณ.ตรงที่ผมมีหน้าที่เดินจูงควายหลายร้อยกิโลกว่าควายตัวที่ฝึกให้ไถนาได้จดจำ ผู้เดินนำหน้าก็..เป็นครูเพื่อสร้างลูกศิษย์สักตัวหนึ่ง..คือ สีเงิน เป็นควายที่จะต้องเรียนรู้.และ จดจำ....เพื่อวันต่อๆไปเขาจะทำหน้าที่ของเขาอย่าสมบูรณ์แบบ ในที่สุด..ความสำเร็จก็มาถึง
แม้เราได้ชื่อว่าสัตว์ที่ประเสริฐแล้ว สื่อสารกับสัตว์ที่มีมันสมองน้อยกว่าคน ด้วยการสละเวลา แบ่งปัน ด้วยความคิด ความมุ่งหวัง ใจทุ่มเท ให้อภัย ล้วนเกิดปัญหามากมีต่างๆนาๆ วันนี้ผลออกมาด้วยความสำเร็จ
ผมซึ้งใจเกิน..หาคำมาบรรยายแทนมิได้...แต่เราอย่าได้คิดลืมไปเสียแหละว่า.. หากไม่มีควาย..เราก็ไม่มีข้าวกินgood
-
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา
..เคยเห็นในสารคดีในทีวีรายการหนึ่ง เค้าทำรายการเกียวกับวัฒณธรรมชาวบ้านทางชนบทแถบๆคนทางภูเขา จำไม่ได้ว่าทางภาคใด ..คล้ายๆกับเป็นงานประจำปี หรือประเพณีของหมู่บ้านบางอย่าง ..โดยในตอนแรกเค้าจะจับควาย มาผูกไว้กับต้นเสากลางลานบ้าน ตกกลางคืน ก็มีเล่นรอบกองไฟ โดยเอาเด็กๆมาฟ้อนรำรอบๆกองไฟ และมีควายอยู่กลางวงนั้นด้วย จากนั้นก็จบการละเล่น แล้วมือเพชฆาตก็ลงมือค่ะ โดยเริ่มจากใช้มีดฟันขาควายทีละข้างอย่างแรง(คล้ายๆฟันต้นไม้) ไล่จากด้านหลังก่อน มองเห็นรอยฟันเป็นสีขาวๆ นัยว่า น่าจะเป็นกระดูก ส่วนเลือดไม่ทันเห็น ..ควายก็ค่อยๆล้มลงตามแรงหักขาดของขา โอ้ว..ในนาทีนั้น..คนดูอย่างเราก็หัวใจหดหู่ อึ้ง ตะลึง มือไม้เย็นเฉียบไปหมด..ติดตาจนวันนี้ค่ะ..โอ้หนอ..ควาย...
มองต่าง..อย่างปลง
Tags for this Thread
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
กฎฟอรั่ม
Bookmarks