ไบโอดีเซล
เนื่องจากกระแสพระดำรัสของในหลวงเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2550 เรื่องไบโอดีเซลพลังงานทดแทน เฮามารู้จักไบโอดีเซลกันเลยครับเพื่อสนองและปฎิบัติตามกระแสพระราชดำรัส
--------------------------------------------------------------------------------
ไบโอดีเซล (biodiesel) เป็นเชื้อเพลิงดีเซลที่ผลิตจากแหล่งทรัพยากรหมุนเวียน เช่น น้ำมันพืช ไขมันสัตว์ หรือสาหร่าย ไบโอดีเซลเป็นเชื้อเพลิงดีเซลทางเลือก นอกเหนือจากดีเซลที่ผลิตจากปิโตรเลียม โดยมีคุณสมบัติการเผาไหม้ เหมือนกับดีเซลจากปิโตรเลียมมาก และสามารถใช้แทนกันได้
คุณสมบัติสำคัญของไบโอดีเซลคือ สามารถย่อยสลายได้เอง ตามกระบวนการชีวภาพในธรรมชาติ (biodegradable) และไม่เป็นพิษ (non-toxic)
ในปัจจุบัน ต้นทุนการผลิตไบโอดีเซล ยังมีราคาแพงกว่าดีเซลจากปิโตรเลียมเมื่อไม่นับรวมถึงอัตราภาษีสรรพสามิต ในประเทศเยอรมนี ในปีพ.ศ. 2548 มีกำลังการผลิต 2 ล้านตันต่อปี ราคาจำหน่ายตามสถานีประมาณ 45 บาทต่อลิตร ถูกกว่าน้ำมันดีเซลเพราะมีการยกเว้นภาษีสรรพสามิต กระบวนการผลิตไบโอดีเซลคือปฏิกิริยาเคมี Transesterification หรือ Esterification
ประเทศไทยริเริ่มโครงการไบโอดีเซลเมื่อ ปีพ.ศ. 2543 และได้มีการติดตั้งระบบผลิตเอทธิลเอสเตอร์โดยโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ตั้งแต่ 7 พ.ค.47 และได้มีการพัฒนาโครงการไบโอดีเซลชุมชนที่ จ.เชียงใหม่ ปัจจุบัน(มี.ค.49)มีไบโอดีเซล 5% จำหน่ายในสถานีของ ปตท. และบางจาก ในกทม. และเชียงใหม่ (ตามโครงการล้านนาฟ้าใสไบโอดีเซล) ทั้งหมด 15 สถานี
วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต
ข้อมูลนี้เป็นเนื้อหาที่อ้างอิงมาจากวารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี[1]
1 น้ำมันปาล์มดิบ
2 น้ำมันมะพร้าว ราคาวัตถุดิบต่ำ แต่เสถียรภาพด้านปริมาณและมูลค่าเพิ่มไม่ดีเท่า3 น้ำมันปาล์มดิบ
4 น้ำมันสบู่ดำ
5 น้ำมันดอกทานตะวัน
6 น้ำมันเมล็ดเรพ (rape seed oil)
7 น้ำมันถั่วเหลือง
8 น้ำมันถั่วลิสง
9 น้ำมันละหุ่ง
10 น้ำมันงา
11 น้ำมันพืชใช้แล้ว มีปัญหาเรื่องการปนเปื้อนในรูปของน้ำและตะกอน
ปฏิกิริยาเคมี
น้ำมันพืช + เมทานอล (Methanol)หรือ เอทานอล (Ethanol) --------> เมทิลเอสตอร์ (Methyl esters)หรือ เอทิลเอสเตอร์ (Ethyl esters) + กลีเซอรีน
วิธีการผลิตไบโอดีเซล (Biodiesel) จากน้ำมันพืช
สารตั้งต้น
1. น้ำมันมรกต (จากปาล์ม)
2. โปเตสเซียมไฮดรอกไซด์ (KOH) หรือ โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) 1 % (g/ml)
3. เมทานอล (Methanol) หรือ เอทานอล (Ethanol) 25 %
ขั้นตอน
1. นำน้ำมันพืชที่ทำจากปาล์มมาจำนวนหนึ่ง
2.ชั่งสารโปเตสเซียมไฮดรอกไซด์ (KOH) 1 % โดยน้ำหนัก
ต่อปริมาตรของน้ำมันพืช (g/ml)
3. ตวงเมทานอลจำนวน 25 % ของน้ำมันพืช
แล้วผสมโปเตสเซียมไฮดรอกไซด์ที่เตรียมไว้
คนให้เข้ากัน
4. อุ่นน้ำมันพืชที่เตรียมไว้ให้ได้อุณหภูมิ 45 - 50 C
5. เทสารละลายโปเตสเซียมไฮดรอกไซด์กับเมทานอล
ลงในน้ำมันพืชที่อุ่น คนเข้ากัน
6. ยกส่วนผสมลงจากเตาตั้งทิ้งไว้จะเกิดการแยกชั้นระหว่าง
เมทิลเอสเตอร์ กับ กลีเซอรีน
7. แยกน้ำมันไบโอดีเซล (เมทิลเอสตอร์ ) ส่วนบนออกจาก
กลีเซอรีนด้านล่าง แล้วผ่านกระบวนการ Wash เพื่อกำจัด
แอลกอฮอล์และโปเตสเซียมไฮดรอกไซด์ที่ตกค้าง
8. นำไปเติมแทนน้ำมันดีเซลหรือใช้ร่วมกับก๊าซธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
มาตรฐานคุณภาพ
1 ตัวจุดวาบไฟ (flash point)โดยปกติมาตรฐานจะอยู่ที่ 130 ถ้าหากสูงกว่านี้ คือเป็น 150 หรือ 170 จะทำให้รถสตาร์ทติดยาก
2 ความบริสุทธิ์ของไบโอดีเซล
ข้อแตกต่างระหว่างไบโอดีเซลกับน้ำมันดีเซล
- จุดวาบไฟของน้ำมันดีเซลต่ำ ประมาณ 50 กว่า ในขณะที่จุดวาบไฟของน้ำมันไบโอดีเซล ประมาณ 100 กว่าขึ้นไป
- น้ำมันดีเซลมีกำมะถันสูง แต่น้ำมันไบโอดเซลไม่มี
ผลต่อการทำงานของรถยนต์
ข้อมูลนี้เป็นเนื้อหาที่อ้างอิงมาจากวารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ไบโอดีเซลช่วยหล่อลื่นแทนกำมะถัน และลดฝุ่นละอองหรือควันดำ ที่เรียกว่า particulate matter ให้ต่ำลง โดยไม่ทำให้เครื่องยนต์อุดตันเพราะเผาไหม้หมด
[WMA]http://thainews.prd.go.th/data001/song80/8.mp3[/WMA]
Bookmarks