"กฏทองของความสุข" --------------------------------------------------------------------------------

กฎทองของความสุข

นักการศึกษาชาวอเมริกันท่านหนึ่งได้ค้นพบกฎทองข้อหนึ ่ง
ที่จะทำให้เรามีความสุขและเป็นคนดีได้
เขากล่าวว่า “ อย่าแปลกใจ ถ้าเห็นใครที่มีความรู้สึก
ไม่พอใจเมื่อถูกบอกให้เป็นคนดี
อันที่จริงแล้วความรู้สึกนี้อาจเกิดจากคนๆนั้นอาจไม่ เข้าใจว่าคำว่า
“เป็นคนดี” นั้นแท้จริงเป็นอย่างไรก็ได้” เรามาดูว่า
ความประพฤติดีคืออะไร

เราอาจจะไม่เข้าใจเลยกับความหมายว่าความประพฤติดีคือ อะไร
เพราะว่าบางทีในสังคม คนที่บอกให้เราประพฤติดี ทำดี
กลับทำในบางสิ่งที่ทำให้เราเกิดความกังขากับคำว่า “ประพฤติดี”
เสียเอง อย่างเช่น ในโรงเรียนครูสอนว่า การสูบบุหรี่เป็นสิ่งไม่ดี
เป็นการประพฤติตัวที่ไม่ดี แต่ครูและผู้ปกครอง
หรือบุคคลที่เรานับถือกลับสูบบุหรี่เสียเอง
หรือเช่นคำพูดที่ว่า “เด็กๆควรอยู่เงียบๆ ไม่ควรออกความคิดเห็น
” นั่นคือหมายความว่า การเป็นคนดีประพฤติดี คือการไม่มีบทบาทอะไร

และอีกส่วนหนึ่งของการเป็นคนดี ในทุกยุคทุกสมัย
และในเกือบทุกหนทุกแห่ง มนุษย์ยกย่อง
ค่านิยมบางอย่างที่เรียกว่า “คุณธรรม” คุณสมบัติเหล่านี้เรา
ได้ยกให้กับผู้มีปัญญา นักบวช นักบุญ และเทพเจ้าต่างๆ
สิ่งเหล่านี้แหล่ะที่ทำให้คนที่ป่าเถื่อนและคนมีวัฒน ธรรมแตกต่างกัน
และขีดเส้นแบ่งระหว่างความจลาจลยุ่งเหยิง
กับสังคมที่มีระเบียบวินัย

แต่มันมีทางที่จะทำให้ท่านสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจ นสมบูรณ์ได้ ซึ่งไม่จำเป็นที่ต้องมีคนอื่นมาบอก
หรือต้องมีคำสอนหรือต้องค้นคว้าอ่านจากตำราต่างๆ
และหนาๆจากคำสอนของนักปรัชญาเพื่อจะรู้ว่า “ความดี” คืออะไร

ทุกคนสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง ลองคิดทบทวนดูว่า
ท่านต้องการให้คนอื่นปฏิบัติกับท่านอย่างไร
แล้วท่านจะพบว่าอะไร คือคุณธรรมของมนุษย์
จงนึกว่าท่านต้องการให้เขาปฏิบัติแบบไหนกับท่าน
ก่อนอื่นท่านคงต้องการให้เขาปฏิบัติกับท่านอย่างเที่ ยงตรง
ท่านคงไม่ต้องการให้เขาพูดไม่จริงเกี่ยวกับท่าน
หรือประณามท่านอย่างรุนแรงใช่หรือไม่

ท่านคงต้องการให้เพื่อนของท่านมีความซื่อสัตย์และไม่ ทรยศ
กล่าวร้าย ให้ร้ายท่าน
ท่านต้องการให้คนอื่นปฏิบัติต่อท่าน อย่างมี “น้ำใจเป็นนักกีฬา”
ไม่ใช้เล่ห์เหลี่ยมหรือการตบตาหลอกลวงท่าน
ท่านต้องการให้คนอื่นมีความยุติธรรมต่อท่านในเรื่องใ ดๆที่ต้องเกี่ยวข้องกัน

ท่านต้องการให้คนอื่นซื่อสัตย์ไม่คดโกงท่านใช่ไหม
ท่านต้องการให้คนอื่นมีเมตตากรุณาไม่โหดร้ายต่อท่านห รือไม่
เมื่อท่านรู้สึกหดหู่ใจ ท้อถอยในบางครั้ง
ท่านอยากให้คนอื่นเห็นใจท่าน ปลอบใจท่าน
แทนการว่าอย่างรุนแรง
ท่านอยากให้เขาสงบสติอารมณ์และควบคุมตัวเองได้ ใช่หรือไม่

ถ้าท่านมีข้อตำหนิหรือข้อบกพร่อง ถ้าท่านทำความผิด
ท่านคงอยากให้คนอื่นอดทนและเห็นใจ
ไม่ติเตียนและวิพากย์วิจารณ์ แทนที่จะมุ่งจับผิดและทำโทษ
ท่านคงอยากให้เขายกโทษให้มากกว่าใช่ไหม

ท่านอยากให้คนอื่นใจดีกับท่าน มีความกรุณาปราณีและไม่ตระหนี่ขี้เหนียวกับท่านหรือไ ม่
ท่านคงชอบให้ผู้อื่นเคารพในตัวท่านมากกว่าการว่าท่าน
ท่านคงชื่นชอบให้คนอื่นเชื่อมั่นในตัวท่านมากกว่าระแ วงท่านอย่างแน่นอน

ท่านต้องการให้ผู้อื่นสุภาพต่อท่านและปฏิบัติอย่างให ้เกียรติท่านหรือเปล่า
ท่านอยากให้ผู้อื่นนิยมชมในตัวท่านและเมื่อท่าน
ทำความดีกับผู้อื่น ท่านคงอยากให้คนอื่นเห็นว่าท่านเป็นคนดี จริงไหม
ท่านคงอยากให้คนอื่นเป็นกันเองกับท่าน และในบางครั้งท่านก็ต้องการความรักจากผู้อื่นด้วยใช่ หรือไม่

และโดยเฉพาะแล้วท่านคงไม่อยากให้ใครมาเสแสร้งแสดงควา มรู้สึกหรือกระทำสิ่งต่างๆเหล่านี้กับท่าน
ท่านคงต้องการให้เขาแสดงออกมาจากความจริงใจ
ด้วยความภาคภูมิใจในการกระทำของเขาเอง และนอกจากนี้ยังมีข้อพึงปฏิบัติ อีกหลายอย่างที่ท่านคงจะนึกได้

ทั้งหมดนี้ คงจะทำให้ท่านสามารถสรุปได้ว่า “กฎทอง”
หรือการกระทำอันดีงามมีศีลธรรมคืออะไรบ้าง

ท่านไม่จำเป็นต้องจินตนาการมากมาย
เพียงแต่ใช้ความรู้สึกท่านเองว่า
ถ้ามีผู้ปฏิบัติต่อท่านอย่างที่ท่านกล่าวมานั้น ท่านจะรู้สึกอย่างไร
ชีวิตท่านคงจะมีความสุขทีเดียว
และท่านคงไม่มีเรื่องที่จะคิดร้ายกับคนที่ปฏิบัติกับ เราเช่นนี้อย่างแน่นอน

เมื่อท่านตัดสินใจได้ด้วยตนเองได้แล้วว่า
คุณความดีของมนุษย์คืออะไร
โดยนึกดูว่าท่านอยากให้ผู้อื่นปฏิบัติกับท่านอย่างไร
เมื่อนั้นท่านจะเลิกสงสัยว่า การปฏิบัติที่ถูกต้องนั้นคืออะไร
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการทำความดี ไม่ได้หมายความว่า
เป็นการอยู่นิ่งๆแบบไม่พูดหรือไม่ทำอะไรปล่อยไปเรื่อ ยๆ
“การเป็นคนดี” เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่และสำคัญทีเดียว
มันไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลยถ้าคนเราต้องอยู่คนเดียวแล ะเงียบเหงามืดมน
การทำความดีไม่ใช่แบบนี้ การทำความดีเป็นเรื่องที่สนุกสนานร่าเริง
ความสนุกที่มาจากหัวใจที่บริสุทธิ์
คนที่ปราศจากศีลธรรมจะมีชีวิตที่เศร้าหมอง
เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน
คุณงามความดีไม่เกี่ยวข้องกับความเศร้าหมอง
ตรงกับข้ามมันเกี่ยวข้องกับความสนุกสนานร่าเริงของชี วิต

ท่านคิดว่าจะเกิด อะไรขึ้น ถ้าท่านปฏิบัติต่อคนรอบข้าง
อย่างยุติธรรม ซื่อสัตย์ มีความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา ความเป็นกลาง
ความซื่อตรง ความเมตตา ความเห็นใจ ความปราณี
ความมีสติ ความอดทน และให้อภัย ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ความเคารพ ความสุภาพ ความภาคภูมิ ความชื่นชม ความเป็นกันเอง
ความรัก และท่านให้สิ่งเหล่านี้กับคนอื่นด้วยความภูมิใจ ความเต็มใจ
มันอาจจะใช้เวลาหน่อย แล้วคนอื่นจะค่อยๆทำตามท่านในขณะเดียวกัน
ชีวิตท่านและผู้อื่นก็จะถูกยกระดับขึ้นอีกระดับหนึ่ง
ความสามารถที่จะอยู่รอดในสังคมของเราและคนอื่นก็จะดี ขึ้น
แน่นอนชีวิตของเราก็จะมีความสุขมากขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของความมีมนุยษยส ัมพันธ์ที่ดี


ก้อนหินก้อนหนึ่งที่ถูกโยนลงบนสระน้ำสามารถทำให้เป็น ระลอกจนถึงฝั่งอันไกลได้
ชีวิตคนเราก็จะมีความสุขร่วมกันได้เช่นกัน
ถ้าท่านนำข้อพึงปฏิบัตินี้มาใช้

“ พยายามปฏิบัติต่อผู้อื่นเหมือนกับเราต้องการให้เขาปฏ ิบัติกับเรา”

นักการศึกษาชาวอเมริกัน