กำลังแสดงผล 1 ถึง 6 จากทั้งหมด 6

หัวข้อ: ปฏิบัติธรรมแล้วยังมีความรักได้ไหม?

Hybrid View

คำตอบที่แล้วมา คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป คำตอบถัดไป
  1. #1
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ ต้นข้าว
    วันที่สมัคร
    Dec 2007
    กระทู้
    588

    ปฏิบัติธรรมแล้วยังมีความรักได้ไหม?


    ปฏิบัติธรรมแล้วยังมีความรักได้ไหม?


    ได้ แต่ต้องปฏิบัติกันเป็นจริงๆทั้งคู่ จะยิ่งรู้ว่ารักที่รุนแรงทั้งความรู้สึกทางกายและทางใจเป็นอย่างไร สำคัญคือแต่ละฝ่ายไม่เป็นกันจริง กับแค่ถือศีลห้าก็ไม่เข้าใจแล้วว่าถืออย่างไร ถือไปทำไม อย่าพูดถึงนั่งสมาธิ เอาสมาธิมาเจริญปัญญากัน

    เมื่อทั้งคู่รู้จักอริยสัจสี่จริงๆ เข้าใจว่าพุทธศาสนาสอนเรื่องทุกข์และการดับทุกข์ เห็นซึ้งว่าจะปฏิบัติธรรมไปเพื่ออะไร ต่างฝ่ายต่างเป็นกำลังของกันและกันเมื่ออีกฝ่ายอ่อนแรงลง ฝ่ายหนึ่งขี้เกียจ อีกฝ่ายก็เตือนให้ขยันตั้งสติ ตั้งสมาธิ ฝ่ายหนึ่งเผลอทำผิด อีกฝ่ายก็สะกิดให้ระลึกได้ว่าอย่างนี้เซแล้ว ต้องทรงตัวใหม่แล้ว

    การดึงกันปฏิบัติธรรมนั้นเป็นการสร้างแรงดึงดูดที่เหนือแรงดึงดูดด้วยกรรมร่วมชนิดอื่นใดทั้งสิ้นทั้งปวง เป็นตัวสร้างความนับถือกันและกันอย่างสูง เป็นตัวสร้างความสมานฉันท์กลมเกลียวที่แนบแน่นลึกลงไปถึงส่วนลึกที่สุดของจิตใจ

    แค่คู่ที่ร่วมกันทำบุญใส่บาตร ร่วมกันช่วยเหลือคนและสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยากเป็นนิตย์ ก็ประจักษ์แล้วว่าความดีที่ทำร่วมกันเป็นสิ่งลึกลับ เป็นเชือกร้อยรัดที่เหนียวแน่น สร้างความรู้สึกระลึกถึงกันในทางดีงาม เห็นอีกฝ่ายแล้วเกิดความอ่อนโยนในใจ แต่คู่ที่ทำบุญในระดับตั้งใจถือศีลร่วมกัน ปวารณาตัวให้อีกฝ่ายตักเตือนได้เมื่อเห็นตนเขว ทำท่าจะด่างพร้อย จะยิ่งเกิดความคิดถึง ความผูกพันลึกซึ้งยิ่งกว่าคู่ที่แค่ทำบุญใส่บาตรร่วมกันไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยเท่า

    ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถสอนอีกฝ่ายให้ตั้งจิตเป็นสมาธิ สร้างตัวรู้ขึ้นมาได้ หรือเป็นสมาธิด้วยกันทั้งคู่มาก่อน เข้าที่ภาวนา นั่งสมาธิร่วมกันเสมอ จะเข้าใจความรักฉันหญิงชายอีกแบบที่ประหลาดมาก แค่อยู่ด้วยใกล้กันเฉยๆโดยไม่ต้องทำอะไรก็เหมือนเป็นแรงเสริมให้อีกฝ่ายเป็นสุขได้อย่างน่าแปลกใจ ยิ่งหากแต่ละฝ่ายรู้คิด รู้จักพูดจา ก็จะมีมิติของสัมพันธภาพที่หลากหลาย เวลาหนึ่งอาจคุยกันได้มากมายสารพัดเรื่อง อีกเวลาหนึ่งอาจรู้จักการอยู่ร่วมกันเงียบๆเพื่อฟังเสียงของใจแต่ละฝ่าย เมื่อคิดอะไรก็เหมือนจะรู้กัน เมื่อขยับนิดหนึ่งก็เหมือนเดาถูกว่าจะทำอะไร

    มีคู่รักนักเขียนฝรั่งที่เข้าใจเรื่องการทำสมาธิร่วมกัน เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ออกมาเป็นคุ้งเป็นแคว เรื่องก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมากมาย คนที่อยู่คู่กันนั้น เป็นแรงทำลาย แรงที่กดให้ใจอีกฝ่ายตกต่ำก็ได้ หรือจะเป็นแรงเสริมกันให้รู้สึกสูงส่ง ให้เกิดความสุขก็ได้ ยิ่งมีกำลังจิตมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งให้ผลบวกลบมากขึ้นเท่านั้น ทีนี้ถ้าทำสมาธิถึงระดับที่มีกำลังแรง แถมลากจูงกันไปดี นอกจากเสริมกันในทางบวกแล้ว ยังสื่อใจถึงกันได้ เพราะคลื่นจิตใต้สำนึกและเหนือสำนึกสานกันในที่ใกล้บ่อยๆนั่นเอง จึงไม่น่าแปลกใจถ้าฝ่ายหนึ่งพบเรื่องน่ายินดีมาก อีกฝ่ายที่อยู่ไกลออกไปก็สามารถสำเหนียกถนัด

    ถ้ามองในมุมของผู้ที่ต้องการพ้นทุกข์จากสังสารวัฏจริงๆ การอยู่ร่วมกันและปฏิบัติธรรมร่วมกันก็มีผลเสียร้ายกาจอยู่อย่าง นั่นคือถ้าปฏิบัติไปไม่ถึงขั้นปลดขอเกี่ยวให้จิตแยกจากอุปาทานได้แล้ว จะมีความติดเนื้อต้องใจกันชนิดแยกจากกันไม่ได้ เมื่อเย็นร่วมกันถึงที่สุด ก็ร้อนแรงตามครรลองโลกด้วยกันที่สุดเช่นกัน จะสลับขั้วร้อนเย็นเป็นช่วงเป็นพักเหมือนพายเรือในอ่าง หนีไปไหนไม่รอด เสียเวลาในช่วงก่อนแก่ตัวไปกับวิถีโลกเป็นสิบๆปี หรืออาจชวนกันอธิษฐานขอไปนิพพานกันในชาติอื่นไปเลย

    ในมุมมองของผู้เห็นรูปนามเป็นทุกข์ การอยู่ตัวคนเดียว ปฏิบัติธรรมโดยลำพัง เที่ยวไปอย่างสันโดษเอกา นับเป็นความสุขอันประเสริฐแท้ แต่เมื่อยังข้องอยู่ ยังสงสัยอยู่ ยังอยากในรสอยู่ จะเรียนรู้ชีวิตคู่ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ตั้งใจไว้ดีๆ มองหน้าคู่รักเราแล้วอธิษฐานไว้ว่าอยู่ด้วยกันแล้วจะมีทุกข์ใดปรากฏ ก็ขอใช้เป็นบทเรียน ผลักดันให้ปรารถนาดับทุกข์จนสนิท เมื่ออยู่ร่วมกันจริงๆแล้วเกิดเหตุการณ์เลวร้าย หรือพลาดพลั้งตกทุกข์สาหัสประการใด จะได้มีภาคหนึ่งระลึกว่าเราเคยเตรียมใจรับเรื่องนี้มาก่อน จะใช้ทุกข์นี้เป็นบทเรียนไปนิพพาน และพยายามแก้ปัญหาด้วยน้ำใจเมตตา ปรารถนาเกื้อกูลกัน ไม่แก้ปัญหาด้วยการเพิ่มปัญหา

    การได้คู่ครองที่ประเสริฐ ดึงกันไปดีนั้นยากแสนยาก แต่ถ้าหาได้ก็ควรหา อย่ายึดถือกันที่หน้าตา เพราะหน้าที่ฉาบบังความเลวไว้นั้นนานไปเหม็นได้ แต่ใบหน้าเรียบสงบที่อาบด้วยความดีงามนั้นหอมหวนไม่เปลี่ยนแปลงเลย



    ที่มา http://dungtrin.com

  2. #2
    ไทเฮา
    Guest
    ปฏิบัติธรรมแล้วยังมีความรักได้ไหม?

    เป็นคำถามที่แปลกดี, ความคิดเห็นส่วนตัว:
    ถ้าการปฏิบัติธรรมหมายถึงการทำสมาธิภาวนา,ถ้าความรักหมายถึง ความสำพันธ์ทางเพศ มันแน่นอนอยู่แล้วว่า มีได้แต่คงต้องคนละเวลา เช่นเดียวกันกับคำถามว่า ทานก๋วยเตี่ยวแล้ว มีความรักได้ไหม? มีได้แต่คนละเวลา


    ถ้าการปฏิบัติธรรมหมายถึงการทำดี ทำหน้าที่,ถ้าความรักหมายถึง ความรักสำหรับทุกๆคนรวมทั้งแบบสามีภรรยา พ่อแม่ลูก เป็นต้น ก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วว่า มีได้พร้อมๆกันแน่นอน
    เพราะที่สุดของความรักก็คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หรือ ความรักอันไร้ขอบเขต

    I love you all.

  3. #3
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ คนกบินทร์
    วันที่สมัคร
    Dec 2007
    ที่อยู่
    อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
    กระทู้
    90
    ธรรม มีสำหรับทั้งผู้ที่จะอยู่ และสำหรับผู้ที่จะไป
    คุณต้นข้าว ทำดี หลายๆๆๆ
    ขอให้ได้คู่ครองที่เป็นคนดีเช่นเดียวกัน

    8)8)

  4. #4
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ...
    เด็กน้อยอยากเจอกัลยาณมิตรที่ดี...ไว้คอยตักเตือน
    เมื่อตัวเองหลงไปในทางอบาย...ตอนนี้พบแล่วสองคน
    อยากได้หลาย ๆ เพราะคนกิเลสหนาต้องมีคนช่วยหลาย ๆ
    :)

  5. #5
    boonhome
    Guest

    Hello

    สบายดีเด็กดื้อ
    กะขอเเสดงความยินดีนำเด้อตั้งใจปฏิบัติธรรมขอให้ได้พบกับอมตธรรมในซาตินี้หรือซาติสินี้เด้อ สาธุ

    ขอตอบคำถามเด้อ
    การปฏิบัติธรรม ในพระพุทธศาสนามีหลายระดับ คือ
    ระดับของนักบวช หรือ พระภิกษุเเละสามเณร ระดับนี้มีความจำเป็นหลายทีจะต้องหลีกหนีจาก กามราคะ
    ระดับของเฮาระดับชาวบ้านถือศีลห้า นั้น มีบ่ข้ออีหยังในทางพระพุทธศาสนา เเต่ว่าให้มีความรักให้ถือต้องคือบ่ผิดศีลข้อสาม
    เพราะว่านางวิสาขา ซึ่งเป็นมหาอุบาสิกาเเละอนาถปิณทิกเศรษฐีเเละอุบาสกอุบาสิกาอีกหลายๆท่านในสมัยพุทธกาล เพิ่นกะมีครอบครัว มีลูก มีหลาน คือเพิ่นยังได้สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลขั้นต้นนั่นคือพระโสดาบัน
    ดังนั้นไทเฮากะคือกันกับเพิ่นคือถึงเเม้ว่าสิมีความครัวหรือมีความฮัก กะสามารถปฏิบัติธรรมให้สมควรตามฐานะ ตามสภาพของเเต่ละคนได้ ถ้าซาติบ่ได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคลซั้นใด๋ซั้นหนึ่ง กะสิเป็นปัจจัยในภายภาคหน้าหนุนส่งให้เฮ้าได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคลในภายหน้าได้เด้อ

    ขอให้ตั้งใจปฏิบัติธรรมต่อไปเด้อหล้า

    ขอให้พระธรรมจงอยู่ในใจมวลชล
    สาธุ
    ท้าวบุนโฮม

  6. #6
    boonhome
    Guest

    คุณย่าชี

    อ่านเบิ่งเด้อท่าน
    ประวัติชีวิต คติธรรม ปฏิปทา ของ คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ

    ถ่ายทอดโดย คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ

    ให้พากันละบาปและบำเพ็ญบุญ
    อย่าให้เสียชีวิตลมหายใจไปเปล่า
    เพราะได้มีวาสนาเกิดมาเป็นคนแล้ว

    เขาสิเชื่อความดีที่เฮาเฮ็ด
    หลายกว่าคำสอนที่เฮาเว้าเฮาสอน

    ข้อยเฮ็ดให้เบิ่งยังบ่เบิ่ง
    เทศน์ให้หมู่เจ้าฟัง หมู่เจ้าสิฟังอยู่บ๊อ

    ปฏิบัติให้เบิ่งอยู่ทุกมื้อ
    เฮ็ดหยังคือ บ่เฮ็ดตาม

    ดีก็รู้อยู่แล้ว ชั่วก็รู้อยู่แล้ว
    จะเอาอิหยังมาว่ามาสอนอีก

    ดีกับชั่วมันมีอยู่ในโลกนี้
    หนีไปจากโลกสงสารนี้แล้วกะไม่มีดีไม่มีชั่ว

    เกิดมาเป็นคน
    อย่าเอาคลองสัตว์มาประพฤติ
    เพราะ เฮาจะตกต่ำกว่าสัตว์ไปอีก
    อย่าพากันทำ

    อย่าเฮ็ดความชั่ว
    ให้ทำความดี
    นั่งสมาธิ เดินจงกรม ปฏิบัติเจ้าของ

    จะให้ทานมากหลายท่อใด๋
    กะสู้บวชเป็นชีเป็นขาวรักษาศีลอุโบสถบ่ได้

    รักษากายให้บริสุทธิ์
    รักษาวาจาให้บริสุทธิ์
    รักษาใจให้บริสุทธิ์ เด้อ หมู่เจ้าทั้งหลายทุกคน

    ให้ภาวนา “พุทโธ” - “พุทโธ”

    ให้พากให้เพียรกับเจ้าของ

    ตั้งใจให้ดี ตั้งสติให้ดี

    เกิดกับตายเป็นของคู่กัน
    อย่าลืมตาย

    อันใด๋ที่เฮาเฮ็ด
    มันมีน้ำหนักกว่าคำเว้า

    ขนฺติ อด
    ขนฺติ ทน
    เป็นไฟเผาบาป

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •