ชาวอินโดฯสูบบุหรี่สูงสุด ส่วนไทยติดที่5ของเอเชีย


(เอบีซี) : ผลสำรวจปริมาณ “ขี้ยา” ในกลุ่มอาเซี่ยนระบุ อินโดฯ นำโด่งมาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยอัตราผู้สูบบุหรี่สูงถึง 46.16 เปอร์เซ็นต์ ตามมาโดยฟิลิปปินส์ 16.62 เปอร์เซ็นต์ ส่วนไทยตามมาห่างๆ ในอันดับห้า 7.74 เปอร์เซ็นต์ ชี้การควบคุมการสูบบุหรี่ในเอเชียเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน เพราะ 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตเพราะบุหรี่คือชาวเอเชีย

ผลวิจัยของกลุ่มพันธมิตรเพื่อควบคุมการใช้ยาสูบของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ the Southeast Asia Tobacco Control Alliance (SEATCA) ระบุว่าพลเมืองของอินโดนีเซียนิยมสูบบุหรี่มากที่สุด กล่าวคือมีผู้สูบบุหรี่มากถึง 46.16 เปอร์เซ็นต์ของพลเมืองทั้งหมด ถือว่า “ทิ้งห่าง” ประเทศอื่นๆ ในกลุ่มอาเซี่ยน

โดยชาวฟิลิปปินส์สูบบุหรี่มากเป็นอันดับสอง คือ 16.62 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 125.8 ล้านคน ตามมาโดยเวียดนาม 14.11 เปอร์เซ็นต์ พม่า 8.73 เปอร์เซ็นต์ ไทย 7.74 เปอร์เซ็นต์ มาเลเซีย 2.90 เปอร์เซ็นต์, กัมพูชา 2.07 เปอร์เซ็นต์, ลาว 1.23 เปอร์เซ็นต์ และสิงคโปร์ 0.04 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ดี เอบีซีระบุด้วยว่าหน่วยงาน SEATCA ไม่ได้เปิดเผยถึงที่มาของสถิติดังกล่าว และว่าสองประเทศหัวแถว คืออินโดนีเซียและฟิลิปปินส์นั้น รัฐบาลของทั้งสองประเทศกำลังทำงานแบบ “เต็มเวลา” เพื่อควบคุมการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบในประเทศ ขณะที่มาเลเซียและไทย มีเจ้าหน้าที่ซึ่งทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการสูบบุหรี่เพียงแค่แปดคน, สิงคโปร์มีเจ็ดคน เวียดนาม มีหกคน ส่วนกัมพูชามีเพียงสี่คน

หน่วยงาน SEATCA อ้างตัวเลขขององค์การอนามัยโลกด้วยว่า จำนวนผู้สูบบุหรี่ในกลุ่มอาเซี่ยนนั้น ถือเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้สูบบุหรี่ทั่วโลก และว่าในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา อัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับยาสูบได้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 0.3 ล้านคนในปี 1950 เป็นเกือบห้าล้านคนในปี 2005 โดย 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตดังกล่าวเป็นชาวเอเชีย

SEATCA ชี้ด้วยว่า หนึ่งในห้าของชาวเอเชียที่เสียชีวิตในแต่ละปีนั้น มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับการใช้ยาสูบ และว่าการห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งของกลุ่มประเทศอาเซี่ยน และการใช้ถ้อยคำเพื่อหลอกล่อผู้บริโภคบนซองบุหรี่ให้คิดว่าการสูบบุหรี่ไม่มีอันตรายหรือมีอันตรายน้อย เช่น light หรือ mild ควรจะถูกสั่งห้ามด้วยเช่นกัน.