นี่แหล่ะคนเมกัน กลัวโรคกันจริงๆ ::)

หนุ่มวัณโรคถูกขังตลอดชีวิต เพราะดื้อยารักษาไม่หาย
ฟีนิกซ์, อริโซน่า (เอพี) : ผู้ป่วยวัณโรคหนุ่มวัย 27 ถูกขังเหมือนนักโทษมาตั้งแต่กลางปี 2006 และอาจถูกขังตลอดชีวิต เพราะป่วยเป็นวัณโรค มีอาการ “ดื้อยา” ถึงขั้นไม่สามารถรักษาได้

โรเบิร์ท เดเนียล วัย 27 ถูกขังในห้องควบคุมระบบระบายอากาศในโรงพยาบาลของเคาน์ตี ในเมืองฟีนิกซ์ มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2006 โดยเอพีระบุว่าชายหนุ่มเคราะห์ร้ายคนนี้อาจจะถูกคุมขังในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ดังกล่าวไปจนตลอดชีวิต เพราะเขาเป็นผู้ป่วยวัณโรคที่มีอาการดื้อยา หรือ XDR-TB ทำให้ไม่สามารถรักษาวัณโรคให้หายได้

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเคาน์ตี ได้รับอนุญาตจากศาลให้ทำการกักขังชายหนุ่มเคราะห์ร้าย เพราะถือว่าเป็นอันตรายต่อสาธารณชน หลังจากไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การไม่ยอมสวมหน้ากากระหว่างอยู่ในที่สาธารณชน

โรเบิร์ท เดเนียล ถูกกักตัวไว้ในห้องขนาดสี่เตียงในตึก 41 ซึ่งเป็นส่วนที่จัดไว้สำหรับรักษานักโทษที่เจ็บป่วย เป็นห้องที่ติดตั้งระบบระบายอากาศและเครื่องกรองที่สามารถดักจับเชื้อโรคต่างๆ ได้ โดยเขากล่าวกับเอพีว่า เจ้าหน้าที่เชอรีฟไม่อนุญาตให้เขาอาบน้ำ จึงต้องทำความสะอาดโดยใช้กระดาษเช็ดตัวชนิดเปียก อีกทั้งยึดโทรทัศน์ วิทยุ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และแขกที่ได้รับอนุญาตให้พบได้ก็มีเพียงคณะแพทย์ ที่มาให้ยาเขาเท่านั้น

“ผมอยู่คนเดียว ฝาผนังสี่ด้าน กระทั่งประตูห้องผมก็ยังถูกล็อค ผมไม่ได้ส่องกระจกมาเป็นเดือนๆ แล้ว” เขากล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวของเอพี

โรเบิร์ท เดเนียล กล่าวด้วยว่าเขากินยาสม่ำเสมอ และรู้สึกดีขึ้นมาก ทนายความของเขาจะยื่นคำร้องต่อศาลให้ปล่อยตัวเขาจากสถานกักกันดังกล่าวภายในสิ้นเดือนนี้

การกักบริเวณของผู้ป่วยวัณโรค มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวว่าเหตุการณ์เช่นนี้มีโอกาสจะเกิดได้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการระบาดของวัณโรคแบบดื้อยา หรือโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษาประเภทอื่นๆ เช่นโรคซาร์ และหวัดนก กำลังระบาดอย่างน่าวิตกในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

มาร์ค ฮาร์ริงตัน ผู้บริหารของกลุ่มชื่อ the treatment action group ซึ่งเป็นกลุ่มนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า “แม้ว่าปีที่ผ่านมาจะมีผู้ป่วยวัณโรคในอเมริกาน้อยที่สุดก็ตาม แต่เราอาศัยอยู่ในโลกที่ติดต่อกันทั่วถึง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นที่ไหนก็ตาม มันสามารถเดินทางมาถึงประเทศของเราได้อย่างรวดเร็ว”

ปีที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก ออกประกาศเตือนถึงโรควัณโรคชนิดดื้อยา ซึ่งเป็นวัณโรคสายพันธุ์ใหม่ ตรวจพบในหลายๆ ประเทศทั่วโลก รวมถึงในกลุ่มประเทศที่เคยเป็นสหภาพโซเวียตและประเทศในเอเชีย โดยผู้ติดเชื้อเอชไอวี ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง จะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่สุดจากเชื้อวัณโรคชนิดนี้ โดยองค์การอนามัยโลกระบุว่า มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 52-53 คนเสียชีวิตเพราะวัณโรคสายพันธุ์ใหม่ภายในเวลาเพียง 25 วันหลังตรวจพบครั้งแรก

เอพีชี้ด้วยว่า การปฏิบัติกับผู้ป่วยวัณโรคสายพันธุ์ใหม่ ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เช่น ดร.รอส อัพเชอร์ แห่งมหาวิทยาลัยโตรอนโต้ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่จะต้องกักบริเวณผู้ป่วยวัณโรคชนิดดื้อยา หากผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือ โดยยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่นิวยอร์ค ในยุค 90s ที่ตัวเลขผู้ป่วยลดลงอย่างน่าพอใจหลังจากมีการกักบริเวณผู้ปวย ขณะที่กลุ่มนักกฎหมาย the treatment action group โดยมาร์ค ฮาร์ริงตัน แย้งว่าการกักบริเวณผู้ป่วยควรจะเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะการลงโทษ “เหยื่อ” หรือผู้เคราะห์ร้าย ไม่ใช่วิธีแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง

ตัวเลขผู้ป่วยวัณโรคในสหรัฐฯ ของปี 2006 อยู่ที่ 13,767 ราย และมีส่วนน้อยมากที่ถูกคุมขังหรือกักบริเวณ โดยเอพีรายงานว่า ในรัฐเท็กซัส มีผู้ป่วยวัณโรค 17 คน ถูกส่งเข้าสถานกักกันโรคในเมืองซานแอนโตนิโอ ส่วนแคลิฟอร์เนียนั้น ปี 2006 มีการกักบริเวณผู้ป่วยวัณโรค 4 คน แต่ปี 2007 ยังไม่มีรายงานการกักบริเวณผู้ป่วยวัณโรค

ส่วนในเมืองฟีนิกซ์ รัฐอริโซน่านั้น นอกจากโรเบิร์ท เดเนียล แล้ว เอพีชี้ว่ายังมีผู้ป่วยวัณโรคที่ถูกกักตัวอีกหนึ่งคน.