ผ้าขี้ริ้วสอนธรรม


ผ้าขี้ริ้วสอนธรรม

การใช้ชีวิตในการทำงานของแต่ละคนนั่นต่างก็ปรารถนาจะประสบผลสำเร็จ มีชื่อเสียง มีความสำคัญในหน้าที่การงาน บางครั้งอาจทำให้เราละเลยหรือมองข้ามงานเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือผู้คนที่เรามองว่าต่ำต้อยเพราะไร้วุฒิการศึกษาและตำแหน่ง แต่ความจริงแล้วงานทุกอย่างมีคุณค่าในตัวเองแต่จะมากหรือน้อยนั่น อยู่ที่ว่าเราจะสร้างคุรค่าให้กับงานนั่นจะยิ่งใหญ่หรือเล็กน้อยสักป่านใด ลองพิจารณาดูถึงผ้าขี้ริ้วที่เราใช้เช็ดถูสิ่งสกปรก เราก็อาจได้ข้อคิดอยู่มากเหมือนกันจึงขอนำธรรมะจากผ้าขี้ริ้วมาฝากดังนี้

1.ยอมสกปรกเพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด เสน่ห์ของคนอยู่ที่ยอมลำบากเพือให้ผู้อื่นเป็นสุข เช่น พ่อแม่ยอมเหนื่อยเพือให้ลูกหลานสุขสบาย

2. ดูดซับความสกปรกได้ แต่ก็สลัดคราบสกปรกออกจากตัวได้ตลอดเวลา เสน่ห์ของคนอยู่ที่รู้จักเองว่าสกปรก ถึงเวลาต้องชำระล้างแล่วมิใช่อมความสกปรกไว้แล่ว แกล้งบอกว่าตนเองสะอาด

3. เป็นผ้าที่สะอาดที่สุด ในขณะที่คนมองว่าสกปรกที่สุด เหมือนคนที่หมั่นฝึกหัดขัดเกลาตนเองรู้จักถ่อมตนเอง รู้จักถ่อมตนและอ่อนโยน ไม่โอหังอวดดีให้คนรังเกียจ หรือเป็นที่หมั่นไส้ของคนอื่น เขาก็จะเป็นคนมีคุณค่า ไม่ว่ามาจากสกุลใด การศึกษามากหรือน้อยก็ตามโดยการทำตัวให้เป็นผู้ใฝ่รู้แต่ไม่อวดรู้เป็นเหมือนผ้ข้ริ้วห่อทองให้ได้

4. แม้นว่าเป็นผ้าที่ไม่มีราคา แต่ก็มีคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ได้ เหมือนคนที่พยายามทำตนเองให้มีคุณค่า ด้วยการทำงานทำตนเป็นประโยชน์ให้มีค่า ไม่งอมืองอเท้า น้อยเนื้อต่ำใจในวาสนา ชะตาชีวติ

5. ไม่เกี่ยงงอนว่าจะถูกใช้เซ็ดอะไร เหมือนคนที่ยอมตัวอาสาทำงานที่ได้รับมอบหมายโดยไม่ปริปากบ่น รู้จักอาสาคน อาสางาน ไม่ว่าจะเป็นใด ๆ ก็ตามตั้งใจทำโดยไม่เกียงงาน รู้จักเสนอตัวทำงานมิใช่รอคอยแต่คำร้องขอ

6. ถูกใช้งานในที่สกปรกที่สุด เหมือนคนที่ยอมทำในสิ่งที่คนทั้งหลายรังเกียจ ที่เขาเห็นว่าไร้ค่า เป็งานขั้นต่ำแต่ก็ตั้งใจทำให้เป็นของมีค่าขึ้นมาได้ หรือยินดีในการบริหารเหมือนคนที่เอิบอิ่มเมื่อชีวิต ได้ทำงานรับใช้ผู้อื่น รับใช้สังคมดีใจเมื่อคนยินดีมาใช้บริการความรู้ความสามารถของตน และยินดีที่จะเสนอตัวเข้าไปช่วยเหลือผู้คนรอบข้าง มากกว่าที่จะคิดเข้าไปปกครองใคร แปลว่า ทำตัวให้เหมือนผ้าขี้ริ้วนั่นเอง

7. พอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสะอาด เหมือนคนต้องพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคนอื่น ต้องมีความพอใจที่จะทำงานปิดทองหลังพระ มีความสุขและภูมิใจที่มอบความสำเร็จให้แกคนอื่น

8. ทนทานต่อการขัดถูและซักล้าง ไม่เปราบางเหมือนคนที่มีความอดทนไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหา แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็อดทนได้เพื่อให้สำเร็จประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น เป็นผู้มีจิตใจหนักแน่นไม่เปราบาง

9. แม้จะถูกมองว่าเป็นผ้าขี้ริ้วแต่ก็ไม่ทำตวให้ขี้เหร่ เหมือนคนที่รู้ตนเองว่า มีคนกำลังปรามาสสบประมาทจะต้องตั้งใจเอาชนะอุปสรรคตรงนั้นให้ได้ ไม่พ่ายแพ้ตามคำปรามาสของคนอื่น รู้ตัวตลอดว่ากำลงทำอะไรและให้มีกำลังใจในสิ่งนั้น สิ่งสำคัญคือมองหาความสำคัญจากสิ่งที่มองไม่เห็นว่าสำคัญอย่างไรให้ได้ คือสามารถมองเห็นคุณค่าจากสิ่งที่คนทั้งหลายมองว่าไรค้า...

จากเว็บวัดผาเกิ้ง