กำลังแสดงผล 1 ถึง 2 จากทั้งหมด 2

หัวข้อ: เวลาใกล้ตายจะทำจิตอย่างไร

  1. #1
    นัยกระจอก
    Guest

    เวลาใกล้ตายจะทำจิตอย่างไร

    เวลาใกล้ตายจะทำจิตอย่างไร

    เวลาใกล้ตายจะทำจิตอย่างไร ตายแล้วไปเกิดที่ไหนดี
    ถ้าจะไปหัดทำจิตเวลาใกล้ตายจะมีประโยชน์อะไร อุปมาเหมือนคนตกน้ำ ถ้าคนนั้นว่ายน้ำไม่เป็น เวลาตกน้ำจะไปบอกว่าให้ว่ายอย่างนั้นซิ ให้ทำอย่างนี้สิ คนตกน้ำจะทำได้หรือ ก็ทำไม่ได้... ผลที่สุดก็จมน้ำตาย
    แต่ถ้าจะไม่ให้จมน้ำตาย ก้ต้องหัดว่ายน้ำให้เป็นก่อน เมื่อตกน้ำไปจะได้ไม่จมน้ำตาย แต่ถ้าจะไปหัดว่ายน้ำเวลาตกน้ำมันก็จะมีประโยชน์อะไร ฉันใดก็ดี คนที่จะไปหัดจิต ในเวลาใกล้ตายก้ไม่มีประโยชน์ฉันนั้น เพราะใกล้จะตายแล้ว จิตหมดกำลังแล้ว จะไปทำอะไรได้
    ด้วยเหตุนี้บุคคลที่ต้องการไปเกิดในที่ดี ก็ต้องหัดจิตให้ดี ตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลาตาย คือต้องหัดจิตให้ทำกุศลให้คล่อง ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ขระที่ยังมีกำลัง มีความสามารถอยุ่ เพราะคนที่ทำกุศลเป็นแล้ว เมื่อเวลาใกล้ตายก็ไม่จำเป็นต้องไปถามใครๆว่าจะทำจิตอย่างไร จึงจะไปเกิดที่ดี เหมือนกับคนที่ว่ายน้ำเป็นแล้ว เมื่อตกน้ำก็ไมต้องถามใครว่าจะว่ายน้ำได้อย่างไร
    ดังนั้น บุคคลที่ต้องการให้ชีวิตเดินไปสู่ทางที่ดทางที่ดี จะต้องศึกษาหาความรู้ที่เกี่ยวกับความจริงกับชีวิตให้เข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริง จึงจะเอาเป็นที่พึ่งให้ตัวรอดพ้นทุกข์ได้ เพราะการรู้เหตุผลถูกต้อง เมื่อจะต้องการผลอะไร ก็จะได้ทำเหตุได้ถุกทำให้ผลสมปรารถนา
    ทุกวันนี้เพราะไม่รู้เหตุและผลตามความเป็นจริงของชีวิต ทั้งๆ ที่ทุกคนต่างก็ต้องการมีความสุข ไม่ต้องการมีความทุกข์แต่เพราะไม่รู้ว่าเป็นอะไรเป้นเหตุให้เกิดความสุขอะไรเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ จึงได้ทำทุกอย่างไปตามความเห็นของตัวเอง คือทำตามชอบใจ ไม่ได้ทำตามชอบธรรม ผลที่ตนต้องการคือความสุขก็ไม่ได้
    สภาพการณ์ทุกวันนี้ มีความเจริญรุ่งเรืองทางเทคโนโลยีมาก ให้ความสุข ความสบายแก่มนุษย์อย่างล้นเหลือ แต่ขณะเดียวกัน ทั้งๆ ที่ทุกคนสามารถหความสุขได้ สามารถสร้างปัญญาให้เกิดได้ แต่ยังขาดปัญญาหาความรู้ที่เกี่ยวกับเหตุผลความจริงของชีวิตไม่ค่อยได้ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะปัจจัยแต่ละคนที่สั่งสมอบรมมานิสัยมาต่างกัน จะเห็นได้ว่า คนกินเหล้าก็ไปอยู่กับพวกคนกินเหล้า คนมีธรรมะก็ไปอยู่กับคนมีธรรมะ คนมีจิตประเภทไรก็ไปอยุ่กับจิตประเภทนั้น ดังที่พระพุทธองคืตรัวสอนพระอานนท์ว่า
    “อานนท์ เธอเห็นภิกษุที่เดินตามหลังพระสารีบุตรไหม ภิกษุเหล่านั้นล้วนเป็นพหูสูต เป็นบัญฑิต มีปัญญามากทั้งนั้น แต่ส่วนภิกษุที่เดินตามหลังพระเทวทัต ล้วนมีแต่ความเห็นผิด เป็นพาล เป็นมิจฉาทิฏฐิ ไม่มีปัญญา มีแต่ทำตัวให้เกิดทุกข์ทั้งสิ้น”
    เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า การสั่งสมเหตุปัจจัยนี้เป็นของสำคัญ คือใครสั่งสมอย่างใดก็ได้อย่างนั้น เหตุนี้คนโง่จึงต้องอยู่กับคนโง่ คนฉลาดก็ไปอยู่กับคนฉลาด แต่ถ้าคนโง่ได้ฟังธรรมที่เห็นถูก เปลี่ยนความเห็นผิดได้ ก้ไปอยู่กับคนฉลาดได้

    ธ.ที่ราบสูง::)::)

  2. #2
    Super Moderator สัญลักษณ์ของ หมูน้อย
    วันที่สมัคร
    Jul 2007
    ที่อยู่
    เหนือสุดในสยาม
    กระทู้
    1,977
    บล็อก
    17
    ฮ่วยเอื่อยนัย..มาทำจิตใจหลายหม่องแท้ละครับ...แสดงเพิ่นปลงแล้วแม่นบ่ครับบ
    "รัก" และ "กำลังใจ" ฉันมีไว้เพื่อแบ่งปัน

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •