ยิ่งไอคิวสูง อีโก้ยิ่งพัฒนา

คนที่เรียนมาก สมองพัฒนามาก สิ่งที่ตามมาก็คืออัตตา ความถือตัวตนภาษาอังกฤษเรียกว่า อีโก้ ทำให้คิดว่า นี่คือตัวเรา นั่นคือตัวเขา นี่ของเรานั่นของเขา พอมีเรามีเขาธรรมชาติของจิตจะเลือกของที่ดีให้กับตัว ของของเราต้องดีกว่าของเขา พิสุจนืได้ เวลาไปชื้อของเปิดกระเป๋าเงินออกมาจะเอาธนบัตรเก่าๆให้เขาก่อน เอาธนบัตรใหม่ๆเก็บไว้จริงไหมครับ นั่นคืออีโก้ พอเราทำความดีเกิดเกิดอายคนอื่นจะว่า นี้คืออีโก้ ทำไมละ ในเมื่อความดีเป็นความดีเป็นผลดีกับสังคม ดีกับส่วนรวม ดีกับคนอื่นดีกับตัวเอง ทำไมเราทำไม่ได้ กลับอายคนอื่น กลัวคนอื่นเขามองว่าเราเพี้ยน นี้คืออีโก้ คนทั่วไปมีลักษณะนี้อยู่ คนที่มีสมองพัฒนามากอีโก้ก็มากตาม สังเกตได้เห็นชัด เช่นในประชุมอาจานย์เถียงกันไม่มีใครฟังใคร ต่างคนต่างก็แสดงอีโก้ของตัวเองออกมาวึ่เงเป็นผลเสียต่อส่วนรวมที่ตัวเองมองไม่เห็น
บางคนเป็นศาสตราจารย์ จะออกไปชื้อข้าวผัดในตลาดก็อายเขา ไม่กล้าหิ้วหอ่ข้าวผัดนี่คือลักษณะของอีโก้ แต่ถ้าเราไม่เข้าใจจริงๆ พัฒนาจิตของเราให้มีปัญญาเห็นแจ้งดับขันธ์ ๕ ได้ เมื่อขันธ์ ๕ ไม่มี อีโก้ดับทันที
ดังนั้น บนเส้นทางชีวิตที่ราบรื่นต้องดับอีโก้คือดับความถือตัวตนให้ได้ ต้องมีปัญญาแห็นแจ้งคือ Insigst ควบคู่กับปัญญาความรู้จากสมอง คือ Intelligence ปรกติเราพัฒนาร่างกายและสมองถ้าได้พัฒนาจิตใจควบไปด้วยทางชีวิตของเราก็จะราบรื่น
ในร่างร่างกายพัฒนากัน ๔ - ๕ อย่าง พัฒนาเรื่องความสมบูรณ์ด้วยอาหารการกิน ความแข็งแรงด้วยการเล่นกีฬา เรื่องความสวยงาม เข้าร้านตัดผมแต่งเล็บ และพัฒนาสมอง ฉะนั้น ถ้าจะเป็นคนที่สมบูรณ์ต้องพัฒนาจิตขึ้นมาด้วย เมื่อดับอีโก้ได้ ทางชีวิตของเราก็จะสะดวก ราบรื่นและสงบสุข
ธ.ที่ราบสูง