♠ ~รักษาโรคด้วยสมาธิ? ~♠


มีหลายท่านเคยถามภูเตศวรเรื่อง การบำบัดโรคด้วยสมาธิ หรือการใช้จิตบำบัดโรคนั้น มีวิธีปฏิบัติหรือไม่อย่างไร?

ความจริงการใช้จิตบำบัดโรค มีผู้รู้หลายท่านเขียนเป็นตำราบอกเล่าเอาไว้มากมายหลายเล่ม แต่ในที่นี้ผู้เขียนขอยกเอาสิ่งที่ตนได้ยินได้รับรู้มาจากครูบาอาจารย์มาบอกเล่าตามประสบการณ์จริง ๆ ดีกว่า

ครูบาอาจารย์ท่านแรก ที่เคยพูดถึงการรักษาโรคมะเร็งคือ อาเตียเซียนสู ท่านกล่าวถึง ‘มะเร็ง’ ที่เป็นโรคภัยคร่าชีวิตมนุษย์อย่างมากในทุกวันนี้ว่า มะเร็งอาศัย ‘เตโชธาตุ’ เป็นอาหาร การรักษามะเร็งต้องรับประทานอาหารพวกมังสวิรัติ ควรงดเว้นเนื้อสัตว์ หรืออาหารที่ให้พลังงานสูง ๆ ควบคู่กับการปฏิบัติสมาธิด้วยการเจริญ ‘อาโปกสิณ’ คือการกำหนดอารมณ์แห่งกรรมฐานด้วย ‘ความเย็นของน้ำ’ อาโปกสิณคือกสิณน้ำนั่นแหละครับ!

ครั้งแรกที่ได้รับฟังก็ยังเข้าใจไม่หมด แต่ภายหลังที่ได้ศึกษาเพิ่มเติมพอควร จึงเข้าใจว่า...
กายอันเป็นคูหาแห่งจิต ประกอบด้วยธาตุหลักทั้งสี่ คือ...ดิน...น้ำ...ลม...และไฟ

เมื่อเป็นเช่นนั้น การเจ็บป่วยของคนเราจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะมีเหตุบางประการทำให้ธาตุทั้งสี่ขาดความสมดุลขึ้น ฉะนั้นการรักษาจะด้วยยาด้วยจิตในความหมายก็คือ ทำให้ธาตุในร่างกายเกิดความสมดุลอยู่ในสภาวะที่ควรเป็น ฉะนั้นการรักษาโรคที่เกิดจากความบกพร่องทางกาย จึงต้องรู้สมมุติฐานด้วยว่า ตนกำลังเป็นโรคหรือป่วยไข้ด้วยเหตุอันใด

หลวงปู่เสน ปัญญาธโร เคยอธิบายเรื่องนี้กับผู้เขียนว่า การเจ็บป่วยของมนุษย์มาจากเหตุสองประการ หนึ่งเพราะพยาธิ...เป็นที่ร่างกาย สอง...เกิดจากจิตอันเป็นเวทนาทางจิตใจ...เพราะจิตที่สับสน จิตเครียดกังวลด้วยคิดมาก ภาวะจิตตรงนี้สามารถทำให้กายเกิดเจ็บป่วยได้ อย่างเช่นคนที่เครียดมากจะเป็นมะเร็งง่ายกว่าคนจิตใจสงบ

“โรคบางอย่างกินยาหาย บางอย่างกินยาไม่หาย” ท่านกล่าวกับผู้เขียนอย่างนั้น...เท่ากับเป็นคำตอบ โรคที่กินยาแล้วหายก็รักษาตามคลินิก ตามโรงพยาบาล ส่วนโรคที่เกิดจากภาวะทางจิตต้องรักษาด้วยสมาธิด้วยการเจริญปัญญาธรรม...

การทำสมาธิจะทำให้จิตสงบ...เย็น คลายความฟุ้งซ่าน การพิจารณาธรรมจะทำให้เข้าใจความจริงจนสามารถปล่อยวางได้

การปล่อยวางทำใจ จิตปลอดโปร่ง...จิตสบาย...กายก็พลอยสบายไปด้วย เพราะจิตกับกายเป็นสิ่งที่พึ่งพาอาศัยกัน...

“คนเราอยู่ที่บุญบารมีด้วย” หลวงปู่เน้นตรงนี้ และภูเตศวรก็เชื่อเช่นนั้น คนที่ทำบุญมามาก เจริญภาวนาอยู่บ่อย ๆ เวลามีปัญหาอะไรไม่ว่าด้วยอุปสรรคหรือเจ็บป่วย

...คนเหล่านี้สามารถอธิษฐานพ้นทุกข์พ้นโรคพ้นภัย ได้ง่ายกว่าคนไม่มีต้นทุนครับ!



ขอขอบคุณเนื้อหาดีดี โดย: dhamma5minutes